13 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพุธนี้ 14 สิงหาคม 2567 ที่จะถึงนี้ ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีถอดถอนนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งทาง รศ.ดร.เขตไท ลังการ์พินธุ์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยพายัพ วิเคราะห์ว่า โอกาสที่ทางนายเศรษฐา จะรอดมีมากกว่าร่วง หากประเมินน่าจะมีโอกาสรอดอยู่ที่ 60 % เนื่องจากตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้เป็นศาลในหมวดที่ห้า หมายความว่าเปลี่ยนศาลรัฐธรรมนูญมาเป็นองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่เสมือนศาล ทำให้โครงสร้างมันเปลี่ยนไปไม่เหมือนกับศาลยุติธรรม หรือ ศาลปกครอง หรือ ศาลทหาร
ทำให้การตัดสินนอกจากจะยึดตามข้อเท็จจริงกับข้อกฎหมายเป็นหลักแล้ว ยังต้องดูเหตุผลด้านอื่นๆที่จะนำเข้ามาในการตัดสิน จุดนี้จะเป็นตัวเพิ่มปัจจัยอื่น ๆเข้ามา อย่างเรื่องของการเมือง ประเทศชาติ ฯลฯ ดังนั้นจะมีการนำเอาเรื่องนี้มาประกอบการตัดสิน ส่งผลให้มีโอกาสรอด แต่มติของศาลอาจจะไม่เป็นเอกฉันท์
ส่วน 40 % ที่เหลือก็มีโอกาสที่จะร่วง หากคำตัดสินอิงตามตัวกฎหมายเป็นหลัก ไม่ได้นำปัจจัยอื่น ๆของประเทศชาติ การเมืองมาประกอบ
"หลังจากที่รอดแล้ว ที่ต้องจับตามองต่อไปก็คือ การปรับ ครม.ในอนาคต ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนในแนวทางใด" รศ.ดร.เขตไท กล่าว
ขณะที่ อาจารย์กมลวรรธ สุจริต ภาควิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วิเคราะห์ว่า โอกาสที่นายกฯจะรอดนั้นมีมากกว่าร่วง โดยโอกาสรอดอยู่ที่ 80 % เนื่องจากบริบททางสังคมของประเทศไทยในเวลานี้ ที่การเมืองถือว่าร้อนแรง และถูกจับตามองจากนานาชาติ รวมถึงด้านเศรษฐกิจปากท้องและการลงทุนจากต่างชาติ ทำให้ประเทศชาติในตอนนี้จะต้องเดินหน้าต่อเพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศและการหยุดชะงัก รวมถึงหากจะเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีในเวลานี้คำถามคือใครจะมาทำหน้าที่นี้แทน และตัวเลือกที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้แทนนายเศรษฐา ทวีศิลป์ และได้รับการยอมรับก็ถือว่ายังมีไม่มาก
อีก 20 % หากไม่รอด ก็มาจากการที่ศาลอาจจะตีความตามตัวบทกฎหมาย ไม่ได้นำปัจจัยอื่นๆ มาเกี่ยวข้อง หากเข้าประเด็นนี้ เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยยังกุมอำนาจใหญ่ในรัฐบาลและเดินหน้านโยบายต่างๆต่อไป และสิ่งที่น่าสนใจคือใครจะมารับช่วงต่อ