svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

จับ "หนุ่มโปแลนด์" ฟาดก้นสาวไทย สาวไม่ยอมแจ้งตำรวจดำเนินคดี

หมิ่นเกียรติสาวไทย! สืบนครบาลฯ จับ "หนุ่มโปแลนด์" ฟาดก้นสาวไทย ในร้านสะดวกซื้อ สาวไม่ยอมแจ้งตำรวจเอาผิด "กระทำอนาจารฯ" เจ้าตัวอ้าง "ทำมาหลายครั้ง ไม่เห็นมีใครว่า กฎหมายไทยเอาผิดไม่ได้ เดี๋ยวก็บินกลับประเทศแล้ว

15 มกราคม 2568 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก.สส.บช.น, พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รอง ผบก.สส.บช.น , พ.ต.อ.อดุลย์ ดอกพวง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. ,พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง รอง ผกก.สส.4ฯ , พ.ต.ท.รัฐนันท์ สมวงศ์ รอง ผกก.สส.4ฯ ได้สั่งการให พ.ต.ท.ภัทร บุญอารักษ์ สว.กลุ่มงานสอบสวนฯ ช่วยราชการ กก.4ฯ, ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น, ด.ต.วิฑูรย์ สร้อยละออง , จ.ส.ต.ปริญญา ชูช่วย ผบ.หมู่ กก.สส.4ฯ

ข้อหา “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น เกิดต่อหน้าธารกำนัล” (สน.ทุ่งมหาเมฆ)

 

 

จับ \"หนุ่มโปแลนด์\" ฟาดก้นสาวไทย สาวไม่ยอมแจ้งตำรวจดำเนินคดี

 

โดยจับกุมตัวได้ที่ บริเวณหน้าห้องพัก ชั้น 36 คอนโดแห่งหนึ่ง ริมถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร

 

จับ \"หนุ่มโปแลนด์\" ฟาดก้นสาวไทย สาวไม่ยอมแจ้งตำรวจดำเนินคดี

 

จับ \"หนุ่มโปแลนด์\" ฟาดก้นสาวไทย สาวไม่ยอมแจ้งตำรวจดำเนินคดี

 

จับ \"หนุ่มโปแลนด์\" ฟาดก้นสาวไทย สาวไม่ยอมแจ้งตำรวจดำเนินคดี

 

 

 


พฤติการณ์กล่าวคือ 

 

 

ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งย่านสาทร ผู้เสียหายเป็นผู้หญิง เธอกำลังเลือกซื้อสินค้าภายในร้านสะดวกซื้ออยู่ ได้มีผู้ต้องหาเป็นชายชาวต่างชาติเดินมาตีก้นเธออย่างแรง เธอตกใจ จึงหันมองว่าเป็นใคร ในใจคิดว่าเป็นเพื่อนที่รู้จักมาแกล้งเธอเล่น แต่เมื่อมองไปกลับเป็นชายชาวต่างชาติที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน

 ขณะนั้นเธอหันไปดูรอบๆ เห็นลูกค้าคนอื่นๆ และพนักงานร้านสะดวกซื้อยืนจ้องมาที่เธอ ทำให้เธอรู้สึกถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม ว่าเธอเป็นผู้หญิงไร้ค่า เธอจึงรีบเดินออกจากร้านสะดวกซื้อไปด้วยความอับอาย จากนั้นเธอได้ปรึกษาคนรู้จักจนทราบว่าการกระทำดังกล่าวมีความผิด จึงเดินทางไปยัง สน.ทุ่งมหาเมฆเพื่อเข้าแจ้งความ แต่เธอไม่ได้ต้องการสิ่งใดนอกจากคำว่า “ขอโทษ” จากผู้ต้องหา 

 

พนักงานสอบสวนหญิง สน.ทุ่งมหาเมฆ จึงออกหมายเรียกผู้ต้องหาคนดังกล่าว และแจ้งผ่านเอเจ้นท์ที่ผู้ต้องหาเช่าห้องอยู่ เพื่อให้มีชี้แจงและไกล่เกลี่ยให้ผู้ต้องหามาขอโทษเธอ ตามที่เธอต้องการ แต่ผู้ต้องหาไม่มา 

 

 

กลับบอกผ่านเอเจ้นท์ว่า “ตนเองไม่ได้ตีแรง และเคยทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้งตอนไปเที่ยวสถานบันเทิง ไม่เห็นจะมีใครว่าอะไร และคิดว่าตนเองไม่ได้กระทำความผิด การกระทำแค่นี้กฎหมายไม่สามารถเอาผิดอะไรได้ เดี๋ยวตนเองก็บินกลับต่างประเทศแล้ว” 

ด้วยคำพูดของผู้ต้องหาที่ไม่ได้สำนึกกับการทำผิด คิดว่าจะทำแบบนี้กับใครก็ได้ ประกอบกับความอับอายที่เธอรู้สึก จึงแจ้งความประสงค์จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนหญิง สน.ทุ่งมหาเมฆ เข้าใจในหัวอกความเป็นผู้หญิงด้วยกัน จะไม่ยอมให้ใครมารังแก ดูหมิ่นศักดิ์ศรีของผู้หญิง 

 

 

จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาลได้รับประสานให้ช่วยจับกุมตัวผู้ต้องหา จึงสืบสวนและเดินทางไปที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านสาทรที่ผู้ต้องหาพักอยู่ จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นผู้กองโชแปงได้แสดงหมายจับและแจ้งสิทธิผู้ต้องหาเป็นภาษาอังกฤษให้ทราบ จนผู้ต้องหาเข้าใจ จากนั้นจึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาไม่ขอให้การเกี่ยวกับคดี แต่ยอมรับว่าบุคคลตามภาพกล้องวงจรปิดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูเป็นตนเองที่เดินไปตีก้นผู้หญิงตามภาพจริง เคยตีก้นลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้งตามสถานบันเทิง แต่ครั้งนี้ที่ไม่ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหมายเรียกเพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย และไม่ผิดกฎหมาย

 


หลังจับกุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

 

 

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ประเทศไทย เป็นเมืองท่องเที่ยว ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลกทุกคนที่เข้ามาท่องเที่ยว แต่เมื่อเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้ว ต้องเคารพกฎระเบียบระเบียบบ้านเมือง จารีตประเพณี วัฒนธรรมไทย และกฎหมายของประเทศไทย เพื่อให้คนไทยและนักท่องเที่ยวอยู่รวมกันได้อย่างปลอดภัย การกระทำของผู้ต้องหาถือเป็น การกระทำอนาจารลักษณะหนึ่ง ที่กฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิด มีอัตราโทษสูงสุดถึง 10 ปี 

 

 

ซึ่งไม่ว่า ผู้กระทำ จะเป็นชาติใด หากกระทำผิดในประเทศไทย ก็จะต้องถูกลงโทษตามกฎหมายไทย ผู้ใดเคยตกเป็นเหยื่อของผู้ต้องหารายนี้ สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่เพจ สืบนครบาล IDMB เราจะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด แม้ว่าจะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.