svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

“ทรัมป์” ผุดไอเดีย ตั้งหน่วยงานจัดเก็บรายได้จากภาษีนำเข้า

โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผยจะจัดตั้งหน่วยงานใหม่เพื่อจัดเก็บรายได้จากภาษีนำเข้าที่เขาเตรียมเรียกเก็บในอัตราสูงขึ้น

ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ในแพลตฟอร์ม ทรูธ โซเชียล ของเขาเมื่อวันอังคาร (14 มกราคม) ว่า “นานเกินไปแล้วที่เราพึ่งพาการเก็บภาษีจากประชาชนผ่านสำนักงานจัดเก็บรายได้ภายใน Internal Revenue Service (IRS) ข้อตกลงการค้าที่อ่อนแอและน่าสมเพช ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ สร้างการเติบโตและความร่ำรวยให้กับโลก แต่กลับเก็บภาษีตัวเอง ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลง วันนี้ผมประกาศว่าจะตั้งสำนักงานจัดเก็บรายได้ภายนอก External Revenue Service เพื่อรวบรวมรายได้จากภาษีศุลกากร, ค่าธรรมเนียม และรายได้ทั้งหมดที่มาจากแหล่งในต่างประเทศ”

ทรัมป์ บอกด้วยว่า จะเริ่มเรียกเก็บภาษีจากผู้ที่สร้างรายได้จากการค้ากับสหรัฐฯ และพวกเขาจะต้องเริ่มจ่ายส่วนแบ่งอย่างเป็นธรรมตั้งแต่วันที่เขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 20 มกราคม 2568 ที่จะเป็นวันเริ่มก่อตั้งสำนักงานจัดเก็บรายได้ภายนอก และทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง

ก่อนหน้านี้ทรัมป์ประกาศเมื่อเดือนพฤศจิกายนว่า จะปรับขึ้นภาษีศุลกากรสำหรับสินค้านำเข้าทั้งจากเม็กซิโก แคนาดา และจีน ในวันแรกที่รับตำแหน่ง  โดยจะขึ้นภาษีสำหรับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็น 25% และเก็บภาษีอัตรา 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากทั่วโลก และเก็บภาษีจากสินค้าจีน 60% ซึ่งผู้เชี่ยวชาญ บอกว่า จะเป็นการเพิ่มต้นทุนให้กับธุรกิจและผู้บริโภคของสหรัฐฯ และยังเผชิญกับมาตรการตอบโต้ต่อสินค้าส่งออกของสหรัฐฯ อีกด้วย 

แหล่งข่าวใกล้ชิดยังเผยกับซีเอ็นเอ็นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วยว่า ทรัมป์กำลงพิจารณาประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ เพื่ออ้างความชอบธรรมทางกฎหมายสำหรับการปรับขึ้นภาษีศุลกากรพื้นฐานทั่วไปกับทั้งชาติพันธมิตรและศัตรู โดยเขาตั้งเป้ารีเซ็ตดุลการค้าในโลกในรัฐบาลสมัยที่ 2 ของเขา

การตั้งหน่วยงานใหม่จำเป็นต้องได้รับการเห็นชอบจากรัฐสภา แต่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาชุดใหม่ อย่างไรก็ตามนักวิจารณ์มองว่า หน่วยงานใหม่ตามข้อเสนอของทรัมป์จะทำงานซ้ำซ้อนกับหน่วยงานลักษณะคล้ายกันที่มีอยู่แล้ว อย่าง กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ และสำนักงานศุลกากรและคุ้มครองชายแดนสหรัฐฯ ซึ่งหน่วยงานหลังนี้จัดเก็บรายได้และค่าธรรมเนียมจากต่างประเทศ และนักวิจารณ์บางคน มองว่า การตั้งหน่วยงานใหม่เป็นเพียงการสร้างแบรนด์เท่านั้น ไม่ใช่การแก้ปัญหาในเชิงนโยบายอย่างมีสาระสำคัญ

และแม้ทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะลดขนาดของหน่วยงานภาครัฐ แต่เขากลับเสนอตั้งหน่วยงานใหม่และคณะกรรมการที่ปรึกษา ซึ่งบางอย่างถูกมองว่า ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานที่มีอยู่แล้วด้วย