มท.3 ย้ำเช่าที่ดิน 99 ปี ยังแค่ศึกษา ไม่ใช่ขายชาติ
มท.3 ย้ำให้ต่างชาติเช่าที่ดินยังอยู่ขั้นตอนการศึกษา - ลั่น! จะไม่ยอมให้ต่างชาติมาครอบครองประเทศไทยแล้วเดินกร่างไปทั่ว ย้ำไม่ใช่การขายชาติ แต่เพื่อเดินหน้าเศรษฐกิจ
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอบกระทู้ถามสดของ นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กรุงเทพ พรรคก้าวไกล ถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อดึงดูดนักลงทุนผ่านการให้สิทธิคนต่างด้าวการ ถือครองอสังหาริมย์แบบทรัพย์อิงสิทธิ์ได้ 99 ปี ว่า เรื่องดังกล่าวนั้น กระทรวงมหาดไทย อยู่ระหว่างการศึกษาผลได้ ผลเสีย และผลกระทบ แต่ยืนยันว่า ไม่ใช่เหมือนการเช่าเกาะฮ่องกง พร้อมชี้แจงว่า แนวคิดการปรับปรุงพระราชบัญญัติทรัพย์อิงสิทธิ จะต้องมีการปรับปรุงให้แก้ไข ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อจูงใจให้ต่างชาติมาลงทุนในประเทศไทย แต่จะต้องไม่ใช่มาครอบครอง หรือยึดครองไปหมด และย้ำว่า ขณะนี้ กรมที่ดิน อยู่ในขั้นตอนการศึกษาผลได้ ผลเสีย และผลกระทบเรื่องดังกล่าวอยู่ โดยจะศึกษาอย่างรอบด้าน และมีความชัดเจน สามารถชี้แจงผลประโยชน์ที่จะให้ต่างชาติถือกรรมสิทธิ์ได้ ซึ่งมีรายละเอียดจำนวนมาก แต่นายกรัฐมนตรี ก็ได้เร่งให้ดำเนินการอยู่
ส่วนกรณีที่ราคาอสังหาริมทรัพย์แพงขึ้น คนไทยจำนวนมากสามารถเป็นเจ้าของบ้านได้ยาก แต่รัฐบาลกลับให้ต่างชาติมาเช่าที่ดิน แย่งพื้นที่คนไทย ดังนั้น การที่คณะรัฐมนตรี สั่งแก้กฎหมาย ได้ทราบผลดี ผลเสียดีพอแล้วหรือไม่ และจะมีมาตรการช่วยให้คนไทยมีบ้านได้ง่ายขึ้นหรือไม่นั้น นายชาดา ขออย่าไปมองอย่างนั้น เพราะการแก้กฎหมาย แม้นายกรัฐมนตรี จะสั่งแก้ไขกฎหมาย ก็ต้องมีการศึกษาผลดี ผลเสีย และยังจะต้องส่งให้สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาแก้ไขตามขั้นตอน พร้อมยืนยันว่า โดยส่วนตัว จะไม่ยอมให้ต่างชาติมาครอบครองประเทศไทยแล้วเดินกร่างไปทั่ว แต่ก็ต้องมาศึกษาในแง่เศรษฐกิจว่า จะดำเนินการอย่างไร แต่ไม่ใช่การยกที่ให้ใครแน่นอน เพราะเป็นเรื่องการเร่งเดินหน้าเศรษฐกิจไม่ใช่การขายชาติ
“การทำในเรื่องที่นี้ กรมที่ดินต้องทำอย่างละเอียด และต้องชี้แจงกับปราะชาชนก่อน เพราะกฎหมายออกมา ต้องมีการทำประชาพิจารณ์ และเสนอไปในแต่ละที่ ซึ่งมีอะไรอีกหลายอย่างในเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่นายกฯ สั่งมาแล้ว ไม่ต้องศึกษา แก้เลยไม่ได้” มท.3 กล่าว
นายชาดา ยังเชื่อว่า หากผลการศึกษา พบผลเสียจำนวนมาก ก็เชื่อว่า นายกรัฐมนตรี จะไม่ฝืน แต่ตอนนี้ ยังเป็นเพียงแค่การศึกษา จึงขอให้สบายใจได้
ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติทรัพย์อิงสิทธิ พ.ศ. 2562 กำหนด “ทรัพย์อิงสิทธิ” คือ สิทธิการใช้ประโยชน์ในอสังหาริมทรัพย์ สามารถโอน และตราเป็นประกันการชำระหนี้โดยการจำนองได้ เป็นการใช้ประโยชน์ในอสังหาริมทรัพย์ โดยเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ยังคงมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์นั้น แต่ประสงค์ที่จะให้บุคคลอื่น ใช้ประโยชน์ในอสังหาริมทรัพย์ของตน และไม่ประสงค์ขายอสังหาริมทรัพย์นั้น ซึ่งทรัพย์อิงสิทธิ ดำเนินการได้เฉพาะที่ดินที่มีโฉนดที่ดิน, ที่ดินที่มีโฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และห้องชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด