หลังจากเข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างสมบูรณ์แล้ว สำหรับ ครม.เศรษฐา 1 ภายหลังเข้าทำพิธีถวายสัตย์ และถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก ที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา
โดยไทม์ไลน์หลังจากนี้ "นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมครม.นัดพิเศษ ในวันที่ 6 กันยายน 2566 เพื่อซักซ้อมความเข้าใจก่อน"แถลงนโยบายรัฐบาล"ต่อที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 11 กันยายน 2566 ขณะที่ รัฐมนตรีแต่ละคน จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ในกระทรวง ที่ได้รับมอบหมาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
"นายเศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี เตรียมที่จะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาฯ ในวันที่ 11 กันยายน 2566 นี้ มีความยาว 43 หน้า โดยเฉพาะสาระสำคัญที่ 6 หน้าแรก เป็นการนำเสนอ นโยบายเร่งด่วน 4 เรื่องสำคัญ
เอกสารแถลงนโยบายหน้าถัดไป จะเป็นเนื้อหาการดำเนินนโยบายในระยะกลาง ระยะยาว พร้อมนำเสนอภาคผนวก ที่ระบุถึงนโยบายแต่ละด้านสอดคล้องกับรธน.มาตราใดบ้าง
ที่น่าสนใจ คำแถลงหน้าแรกๆ ได้ระบุ นโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ถึงกับระบุว่า "จะทำหน้าที่เป็นตัวจุดชนวนที่จะกระตุกเศรษฐกิจประเทศตื่นขึ้นมาอีกครั้ง" เราจะใส่เงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจอย่างทั่วถึงและกระจายไปยังทุกพื้นที่ให้หมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจให้ถึงฐานราก เกิดการจับจ่ายใช้จ่ายใช้สอยยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชน และภาคธุรกิจที่จะขยายการลงทุน ขยายกิจการ เกิดการผลิตสินค้าที่มากขึ้น นำไปสู่การจ้างงาน สร้างอาชีพและเกิดการหมุนเวียนของกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกหลายรอบ รัฐบาลเองจะได้รับผลตอบแทนคืนมาในรูปแบบของภาษี
คำแถลงระบุ ต่อไปว่า จากนั้นจะแก้ไขปัญหา หนี้สินทั้งภาคเกษตร ภาคธุรกิจและภาคประชาชน
"นโยบายเร่งด่วน คือการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชนอันเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตและเศรษฐกิจ รัฐบาลจะสนับสนุนให้เกิดการบริหารจัดการราคาพลังงานทั้งค่าไฟฟ้า ค่าก๊าซหุงต้ม และค่าน้ำมันเชื้อเพลิงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมในทันที" ถ้อยแถลงนโยบาย ระบุ
นโยบายเร่งด่วนหน้าที่ 6 ระบุถึงการดำเนินการ "แก้ไขรัฐธรรมนูญ" ฉบับประชาชนมีส่วนร่วมออกแบบ โดยไม่แก้ไขหมวด พระมหากษัตริย์
ตอนท้าย มีการระบุว่า จะดำเนินการฟื้นฟู "หลักนิติธรรม" ที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ถือว่าเป็นการลงทุนที่ใช้งบน้อยที่สุด แต่สร้างประสิทธิภาพสูงสุดในการพัฒนาประเทศหลายๆด้าน