"หยก-ข้าว" แท็กทีม! ลั่นไม่ยอมให้กดขี่อีก ซัดก้าวไกล ออกแถลงการณ์หนุนช้า

19 มิถุนายน 2566 เพจเฟซบุ๊ก นักเรียนเลว โพสต์ข้อความ โดยมีหัวข้อ ‘Update: ลุกสู้อีกหนึ่ง ‘ข้าว’ นร. ม.4 แต่งไปรเวทมาเรียน หนุนหยก-จะไม่ยอมให้กดขี่อีก’ พร้อมระบุว่า วันนี้ (19 มิ.ย.) ‘ข้าว’ นร. ม.4 จาก ร.ร. หญิงล้วนในกทม. ได้ลุกขึ้นหนุนข้อเรียกร้องยกเลิกบังคับระเบียบแต่งกาย-ทรงผม จากกระแสการเคลื่อนไหวของหยกในสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดย ‘ข้าว’ ได้ระบุถึงเจตนาการแสดงออกในครั้งนี้ว่า ตนจะสนับสนุนการต่อสู้ของ ‘หยก’ และต้องการให้ ร.ร. ได้รับรู้ว่า ตนจะไม่ยอมกับการกดขี่ใน ร.ร. อีกแล้ว

ข้าว ระบุ ผ่านโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อเช้านี้ว่า ครอบครัวของตนไม่เห็นด้วยต่อการแสดงออกด้วยการใส่ชุดไปรเวทไปโรงเรียน มีเพื่อนและคณาจารย์หลายคนมองตนด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป และทักมาถามตนด้วยความสงสัย ตนยืนยันว่าไม่มีเจตนาบ่อนทำลายชื่อเสียงของโรงเรียน โดยเหตุผลหลักที่ระบุไว้มี 2 ประการด้วยกัน คือ

1. เราต้องการสนับสนุนแนวทางการต่อสู้ของหยกเยาวชนอายุ 15 ปี ซึ่งอายุเท่ากับเรา อย่างน้อยการที่เราเป็นเสียงเล็ก ๆ เพื่อให้หยก หรือทุกคนที่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ออกมาเรียกร้องสิทธิ์และเสรีภาพของตนเองมากขึ้น โดนไม่เกรงกลัวต่ออำนาจใด"

2. เราต้องการแสดงออกให้ครูชั้นผู้ใหญ่ ซิสเตอร์ และเพื่อน ๆ ในโรงเรียนได้รับรู้ว่า เราจะไม่ยอมก้มหัวให้กับกฎที่ริดรอนเสรีภาพในการแต่งตัว หรือทุกส่วนในร่างกายของเรา และเนื่องด้วยเราโดนด่าและต่อว่ามาตลอด 3 ปี เรื่องการเเสดงออกทางการเมืองในโรงเรียนเรายอมมาตลอด ครั้งนี้เราเพื่อมาบอกว่า เราจะไม่ยอมคุณอีกแล้ว"

ทั้งนี้ ข้าว เป็นเยาวชนที่มีส่วนร่วมในการเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่บ่อยครั้ง อาทิ การปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์, การเสนอแก้ไข-ยกเลิก ม.112, การชุมนุมช่วงการประชุม APEC เป็นต้น

ตลอดจนการเคลื่อนไหวประเด็นการเมืองใน ร.ร. เช่น การรำลึกถึงเหตุการณ์คุณลุงนวมทอง, ปฏิเสธการเข้าร่วมถวายพระพร เป็นต้น โดยเจ้าตัวเปิดเผยว่า ทุกครั้งที่แสดงออก มักถูกต่อว่าอย่างรุนแรงจากคนรอบข้าง แต่ตนก็ยังคงยึดมั่นในความคิดและเชื่อในเสรีภาพในการแสดงออกทางความคิด

#นักเรียนเลว

#saveหยก


โดยก่อนหน้านี้ เพจนักเรียนเลว โพสต์ข้อความระบุว่า "พบชุดจับกุม เดินเข้าเตรียมพัฒนฯ ด้านหยกใส่ไปรเวท-ไม่ต้องปีนรั้ว ย้ำเสรีแต่งกาย"

เข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 ของการย้อมสีผมและทำทรงผมตามสะดวกของหยก และเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ของการแต่งไปรเวทมาเรียน แม้ทาง ร.ร. เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการออกประกาศในช่วงวันหยุด ว่าหยกไม่มีสภาพเป็น นร. ตนยืนยันว่าจะมาเรียน และมีสิทธิชอบธรรมตามที่ กสม. ยืนยันสิทธิดังกล่าว ส่วนตัวยังไม่อยากยื่นฟ้อง ร.ร. ต่อศาล เพราะไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม

วันนี้หยกได้เดินเข้า ร.ร. ตามปกติ ไม่ต้องปีนเข้าอย่างที่ผ่านมา ขณะที่มีรายงานว่ามี ตร. ทั้งในและนอกเครื่องแบบเดินเข้า ร.ร. โดยยังไม่ทราบถึงเจตนา ตามที่ปรากฎบนสื่อเป็นชุดจับกุมหญิง มาพร้อมกับรถจับกุม เดินเข้า ร.ร. จำนวนหลายนาย แต่ ร.ร. ไม่ได้มีท่าทีปิดกั้นแต่อย่างใด

หยก ระบุว่า วันนี้ตนถูกผู้ปกครอง ของ นักเรียน คนอื่น ๆ ตำหนิระหว่างทางไป ร.ร. และได้รับรู้ถึงกระแสการวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์ ตนขอบคุณที่สังคมได้มีการโต้แย้งกัน ไม่ว่าจะโต้กันด้วยเหตุผลหรือไม่ก็ตาม ตนยืนยันเจตนาของการยกเลิก ‘บังคับ’ การแต่งกาย-ทรงผม ไม่ได้จะบังคับให้ถูกคนยกเลิกเหมือนที่ตนคิด

หากวันนี้ ร.ร. มีการประชาพิจารณ์ ให้เด็กมีส่วนร่วมกับการออกแบบกฎระเบียบใหม่ โดยมีเงื่อนไขว่า นร. ทุกคนต้องได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง แล้วหากผลออกมาให้คงไว้ซึ่งระเบียบเดิม ตนก็ยินดีที่จะทำตามเสียงส่วนมากนั้น เพราะที่ผ่านมา ตนมีปัญหากับการที่กฎระเบียบใน ร.ร. ที่ถูกเขียนขึ้นโดยครูและผู้ใหญ่ มิใช่นร. ผู้ต้องรับคำสั่ง ปฏิบัติตามกฎนั้น ซึ่งไม่สมเหตุสมผล

โดยหยก ให้ความเห็นถึงการออกแถลงการณ์ของพรรคก้าวไกลว่าค่อนข้างล่าช้า ในขณะที่ตนปีนเข้า ร.ร. มา 3 วันแล้ว ทั้ง ๆ ที่ทางพรรคก้าวไกลมีนโยบายชัดเจนเรื่องการแก้ไขให้กฎระเบียบการแต่งกายของ นร. นั้นยืดหยุ่นผ่อนปรนมากขึ้น