อาร์เจนตินาถล่มคู่ปรับตลอดกาลอย่างบราซิล 4-1 ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ เมื่อคืนวันอังคารที่บัวโนสไอเรส โดยสถานการณ์ของการแข่งขันเปลี่ยนไปก่อนเริ่มเกม เมื่อโบลิเวียเสมอกับอุรุกวัย 0-0 ทำให้ผลการแข่งขันดังกล่าวการันตีว่า "ฟ้าขาว" ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2026 โดยอัตโนมัติ ส่งผลให้บรรยากาศของเกมนี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย
แม้จะเป็นเกมที่ไม่มีความกดดันสำหรับอาร์เจนตินา แต่การแข่งขันก็ยังเต็มไปด้วยความดุเดือดตามแบบฉบับของศึกดาร์บี้แห่งอเมริกาใต้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ควันหลงก่อนเกมมีประเด็นร้อน เมื่อราฟินญ่า ปีกของบาร์เซโลน่าให้สัมภาษณ์ในพอดแคสต์ของอดีตตำนานดาวยิงบราซิล โรมาริโอ โดยกล่าวว่า "บราซิลจะสอนบอลให้อาร์เจนตินาทั้งในและนอกสนาม"
ขณะเดียวกัน ยังมีข่าวลือว่าอาร์เจนตินาอาจนำถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 มาโชว์ริมสนามก่อนเกม อย่างไรก็ตาม ลิโอเนล สกาโลนี กุนซือของทีมฟ้าขาวปฏิเสธข่าวนี้โดยกล่าวว่า "ไม่มีทางที่สิ่งนั้นจะเกิดขึ้น"
อาร์เจนตินายังคงเดินหน้าครองความเป็นเจ้าของศึกดาร์บี้ โดยเคยเอาชนะบราซิลในรอบชิงชนะเลิศโกปา อเมริกา 2021 ด้วยสกอร์ 1-0 และเป็นฝ่ายคว้าชัยครั้งแรกในประวัติศาสตร์ศึกคัดเลือกฟุตบอลโลกบนแผ่นดินบราซิลเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 ซึ่งโมเมนตัมดังกล่าวส่งผลถึงเกมนี้ เมื่ออาร์เจนตินานำ 3-1 ตั้งแต่ครึ่งแรก ท่ามกลางเสียงเชียร์กระหึ่มของแฟนบอลที่สนามเอสตาดิโอ โมนูเมนทัล
ฮูเลียน อัลวาเรซ กองหน้าของแอตเลติโก มาดริด เป็นผู้เบิกสกอร์แรกให้ทีมฟ้าขาวตั้งแต่นาทีที่ 4 ก่อนที่เอนโซ่ เฟร์นานเดซ กองกลางจากเชลซี จะซัดเพิ่มในนาทีที่ 12 ทำให้แฟนบอลอาร์เจนไตน์เฮลั่นสนาม บราซิลดูเล่นผิดพลาดและขาดระเบียบในแนวรับ ทำให้อาร์เจนตินาโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บราซิลตีไข่แตกได้ในนาทีที่ 26 จากความผิดพลาดของคริสเตียน โรเมโร กองหลังอาร์เจนตินาที่เสียบอลให้มาเธอุส กุนญา จากวูล์ฟแฮมป์ตัน ก่อนยิงผ่านเอมิเลียโน มาร์ติเนซ เข้าไป แต่บราซิลก็ยังคงเสียเปรียบ จนกระทั่งอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ทำประตูที่สามในนาทีที่ 37 และปิดท้ายด้วยลูกยิงมุมแคบของจูเลียโน ซิเมโอเน ในนาทีที่ 71 ซึ่งเป็นจังหวะสัมผัสบอลครั้งแรกของเขาหลังถูกเปลี่ยนตัวลงมา
ลิโอเนล เมสซี่ ไม่ได้ลงเล่นในช่วงเบรกทีมชาติครั้งนี้เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อ แต่ทีมของสกาโลนียังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โรดริโก เด ปอล กัปตันทีม กล่าวว่า "เราเล่นเหมือนเดิมทุกครั้งที่ใส่เสื้อทีมชาติ ไม่ว่าจะเป็นรายการไหนก็ตาม และคืนนี้เราต้องการมอบความสุขให้แฟนบอล"
ติอาโก อัลมาด้า กองกลางของลียง ได้รับโอกาสลงเล่นแทนเมสซี่ในเกมกับอุรุกวัยและบราซิล เขาทำประตูชัยสุดสวยในเกมกับอุรุกวัย และแอสซิสต์ให้กับอัลวาเรซในเกมนี้ แสดงให้เห็นถึงขุมกำลังที่แข็งแกร่งและสมบูรณ์แบบของทีมแม้ไม่มีซูเปอร์สตาร์เบอร์หนึ่งของพวกเขา
อาร์เจนตินาผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2026 อย่างเป็นทางการ และจะมีเวลาพักเพื่อเตรียมทีมก่อนเดินทางไปเยือนชิลีและเปิดบ้านรับโคลอมเบียในช่วงฟีฟ่าเดย์เดือนมิถุนายน ขณะที่บราซิลต้องเผชิญกับความกดดันหนัก หลังจากฟอร์มย่ำแย่และการพ่ายแพ้อย่างหมดรูปให้กับอาร์เจนตินา โดริวัล จูเนียร์ กุนซือของทีมจะถูกจับตามองอย่างหนักก่อนเกมพบเอกวาดอร์และปารากวัย
แม้ว่าบราซิลจะยังมีโอกาสสูงในการคว้าตั๋วไปฟุตบอลโลก แต่ฟอร์มการเล่นที่ตกต่ำและการขาดเอกลักษณ์ในสนามถือเป็นปัญหาใหญ่สำหรับชาติที่เคยครองความเป็นเจ้าแห่งวงการลูกหนังโลก