26 มีนาคม 2568 ช่วงเช้าที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำโดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) นำกำลังตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. นำโดย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.อ.เพิ่มวุฒิ ประทุมราช ผกก.1 บก.ปปป. พร้อมด้วย บก.ปคบ. /บก.ปอศ./ ป.ป.ท. /ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่ อ.ย. เข้าตรวจค้นจับกุมบุคคลตามเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตโรงพยาบาลทหารผ่านศึก 17 จุด ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ลพบุรี ปราจีนบุรี และชลบุรี โดยมีหมายจับผู้ร่วมอยู่ในขบวนการนี้ทั้งหมด 8 หมายจับ แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ 2 ราย และยี่ปั๊วของขบวนการนี้อีก 6 ราย
รวบ พันเอกหญิง และแพทย์หญิง ตัวการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก
https://www.nationtv.tv/news/crime/378958805
โดยหนึ่งในเป้าหมายสำคัญ คือ ที่พักของ พันเอกหญิง กัญญารัตน์ (สงวนนามสกุล) หรือ "จิ้งหรีด" ข้าราชการบำนาญ ในย่านเกียกกาย ซึ่งถือเป็นหัวหน้าขบวนการ ทำหน้าที่จัดหาแม่ทีม และเครือข่ายจากจังหวัดลพบุรี เพื่ออ้างเป็นผู้ป่วยเข้ามารับยาจากโรงพยาบาลทหารผ่านศึก และบุคคลที่อ้างเป็นผู้ป่วย ก็จะนำยาทั้งหมดที่ได้ส่งให้กับแม่ทีมเครือข่าย แลกกับค่าจ้าง 10%ของค่ายา ซึ่งแม่ทีมเครือข่ายเองก็จะได้ค่าจ้างรายหัวอีก รายละ 1,500 บาท จากนั้นแม่ทีมก็จะนำยาทั้งหมดมาส่งมอบให้กับ พันเอกหญิงกัญญารัตน์ หัวหน้าขบวนการ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทหารได้ทำการควบคุมตัวพันเอกหญิงไว้ ก่อนส่งมอบตัวผู้ต้องหาให้กับตำรวจ ปปป.
จากนั้น ตำรวจได้นำตัว พันเอกหญิง กัญญารัตน์ มาค้นคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 4 ซึ่งถือเป็นจุดพักยาที่ได้มาจากการทุจริตเครือข่ายนี้ โดยเมื่อได้ยามาแล้ว จะนำยามาเก็บไว้ในร้านซักรีด บริเวณชั้นลานจอดรถ
เมื่อมาถึงตำรวจ ปปป. ได้อ่านหมายค้น และหมายจับแจ้งกับ พันเอกหญิงกัญญารัตน์ ก่อนจะเดินมาตรวจค้นที่ร้านซักรีด ซึ่งระหว่างนี้ นักข่าว พยายามสอบถามให้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่าได้กระทำผิดจริงหรือไม่ ทำเป็นขบวนการหรือไม่ และได้ทำการทุจริตยาจริงหรือไม่ แต่เจ้าตัวไม่ตอบคำถามใด ๆ และท่าทางดูอิดโรย
จนเมื่อมาถึงหน้าห้องซักรีด พันเอกหญิงกัญญารัตน์ มีอาการวูบจะเป็นลม ทำให้ตำรวจต้องเข้าประคองไปนั่งด้านในร้าน เพื่อให้อาการดีขึ้น ซึ่งเจ้าตัวแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า มีอาการป่วย จากนั้นเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นภายในร้านซักรีด ซึ่งได้ตรวจยึดถุงกระสอบขนาดใหญ่ ลักษณะเดียวกับที่ใส่ยาที่ได้จากโรงพยาบาลทหารผ่านศึกมาพักไว้
นอกจากนี้ ยังได้เข้าค้นห้องพักภายในคอนโดมิเนียม ชั้น 32 ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของคนในครอบครัวพันเอกหญิงกัญญารัตน์ เพิ่มเติมด้วย
ด้าน พล.อ.เดชนิธิศ เหลืองงามขำ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก บอกเบื้องต้นภายหลังการตรวจค้นและจับกุมพันเอกหญิงกัญญารัตน์ ว่า เจ้าหน้าที่ได้ไปรับตัวมาจากที่พัก และนำตัวมาตรวจค้นห้องที่เช่าไว้ ซึ่งเป็นร้านซักรีด และจากการตรวจค้นทำให้ได้พยานหลักฐานเพิ่มเติม จากที่มีพยานหลักฐานก่อนหน้านี้ และขณะนี้ พันเอกหญิงกัญญารัตน์ ยังไม่ได้ให้การใดๆ แต่ภาพรวมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และยังไม่ทราบว่า สาเหตุที่เจ้าตัวป่วยเป็นเพราะอะไร เนื่องจากทราบว่าพันเอกหญิงกัญญารัตน์ ลาที่ทำงานเพื่อไปหาหมอ
ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกเบื้องต้นว่า จากการเข้าตรวจค้นห้องพักชั้น 32 ยังไม่เจอตัวยาเพิ่มเติม แต่ได้ยึดสมุดบัญชีธนาคารไปทำการตรวจสอบ ส่วนถุงกระสอบที่ตรวจยึดก็เป็นพยานหลักฐานหนึ่งที่ได้จากการตรวจค้น และจะนำไปตรวจสอบเพิ่มเติมหลังจากนี้ โดยภายหลังตรวจค้นเสร็จสิ้น ตำรวจได้คุมตัวพันเอกหญิงกลับมาดำเนินคดี และสอบปากคำ ที่ บก.ปปป. ทันที
ทั้งนี้ จากแนวทางการสืบสวน พบว่า เมื่อนำยามาพักไว้ร้านซักรีด ย่านพระราม 4 แล้ว มีการส่งยาไปที่จังหวัดปราจีนบุรี ให้กับบุคคลที่ประกอบธุรกิจขายยา เพื่อให้ทำหน้าที่ในการกระจายยา นำเข้ามาในระบบยาที่เป็นยี่ปั๊วเถื่อน ซึ่งไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ และนำเข้าสู่ร้านขายยา
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของ พันเอกหญิง กัญญารัตน์ พบว่าในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ปี 2561-2568 มีเงินถูกโอนเข้าบัญชีรวมกว่า 40 ล้านบาท ขณะที่ความเสียหายจากการทุจริตดังกล่าวพบเงินหมุนเวียนในขบวนการนี้ ตั้งแต่ปี2561 มีประมาณ 80 ล้านบาท
สำหรับพันเอกหญิงกัญญารัตน์ ถูกดำเนินคดีในข้อหา "เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ม.157 ,เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์ ,เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร อันเป็นเท็จ,เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ"
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมแม่ข่าย และผู้ที่เกี่ยวข้องในขบวนการ รวมถึงเข้าตรวจค้นร้านขายยาในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร 11จุด และชลบุรี อีกด้วย