ค้านแต่งตั้ง เจ้าอาวาส “วัดหลวงพ่อโอภาสี”

17 ธันวาคม 2567 ที่ วัดหลวงพ่อโอภาสี ถนนพุทธบูชา แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. ช่วงเช้า มีชาวบ้านมารวมตัวกัน เพื่อประท้วง การแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดฯ ภายหลังพระครูสุทธิญาโณภาส (อุสา มะลิพันธุ์) อดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อโอภาสี ได้ถึงแก่มรณภาพลง เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 โดยมีการแต่งตั้ง พระครูโอภาสวัชรานุกูล (สุชาติ) เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อโอภาสี แต่เนื่องจากรักษาการเจ้าอาวาสมีพฤติกรรมบางประการที่ไม่สอดคล้องตามพระธรรมวินัย จนเกิดวิกฤติศรัทธาจากชาวบ้านจำนวนมาก

โดยชาวบ้าน ระบุว่า เนื่องจาก วัดหลวงพ่อโอภาสี เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมาเฉพาะ หลวงพ่อโอภาสี (ชวน มะลิพันธุ์) ได้ธุดงค์ออกจากวัดบวรนิเวศวิหารฯ มาบำเพ็ญธรรมตามแนวเตโชกสิณในพื้นที่นี้ เป็นอริยสงฆ์ที่เลื่อมใสศรัทธาของประชาชน เมื่อหลวงพ่อละสังขารลง จึงตั้งสังขารหลวงพ่อโอภาสีไว้ในจุฬามณีปราสาทเพื่อเป็นที่สักการะยึดเหนี่ยวจิตใจของลูกศิษย์ ซึ่งที่ผ่านมาภิกษุผู้ดูแลสถานที่ และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสถึงปัจจุบัน ล้วนเป็นสายเลือด เช่น เป็นน้องชาย หลานชายแห่งหลวงพ่อโอภาสีทั้งสิ้น

ปัจจุบัน วัดหลวงพ่อโอภาสี เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ โดยได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2536 นับเป็นวัดเดียวในประเทศไทย ที่ใช้ชื่อ “หลวงพ่อ” นำหน้าและตั้งเป็นชื่อวัดอย่างเป็นทางการ โดยที่ พระครูสุทธิญาโณภาส (อุสา มะลิพันธุ์) เจ้าอาวาสรูปล่าสุดที่มรณภาพลง ได้เคยบอกกล่าวไว้ในหลายโอกาสว่า

“หลวงพ่อโอภาสีบอกว่าผู้อยู่วัดนี้ได้ ต้องเป็นทายาทท่านหรือสายโลหิต กล่าวคือ เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อโอภาสี ต้องเป็นทายาทหรือสายโลหิตของท่าน”

หากจำเป็นต้องระบุถึง พระยุทธนา ยติโก (ยุทธนา มะลิพันธุ์) ท่านคือบุคคลที่ชาวบ้านสนับสนุนเป็นหลานแท้ๆ ของ “หลวงพ่อโอภาสี” ท่านเป็นพระนักพัฒนา เป็นผู้นำกิจกรรมสร้างความดีแก่สังคมอย่างต่อเนื่อง เป็นเลือดเนื้อเชื้อไข เป็นหลานปู่ของหลวงพ่อโอภาสี จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ชาวบ้านให้ความเคารพ รวมถึงได้รับมอบจากพระครูสุทธิญาโณภาส ในการปฏิบัติหน้าที่แทนในระหว่างที่ท่านอาพาธในประเพณีสำคัญที่ได้ปฏิบัติต่อเนื่องมาทุกปี เช่น พิธีสรงน้ำหลวงพ่อโอภาสี วันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี ประเพณีทอดกฐินในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ของทุกปี

ที่ผ่านมา ได้รวบรวมรายนามผู้มีความศรัทธากว่า 1,000 ชื่อ ยื่นต่อเจ้าคณะจังหวัดกรุงเทพมหานคร เพื่อเสนอ “พระยุทธนา” เป็นเจ้าอาวาส และแจ้งพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้รักษาการเจ้าอาวาส แต่ยังไม่ได้รับคำชี้แจงที่ชัดเจนลงมา ก็ได้มีการรวบรัดแต่งตั้งพระครูโอภาสวัชรานุกูล (สุชาติ) เป็นเจ้าอาวาสโดยปกปิดข่าว ไม่มีการสอบถาม หรือรับฟังความเห็นจากชาวบ้านในพื้นที่แต่อย่างใด เพิ่งมีการขึ้นป้ายไวนิลเล็กๆ ข้างพระอุโบสถเมื่อวานนี้ (16 ธ.ค.2567) ช่วงเย็นก่อนวันแต่งตั้งในเช้าวันรุ่งขึ้น จึงเป็นเหตุให้แกนนำชาวบ้านเฉพาะที่ทราบข่าวในช่วงดึกตัดสินใจออกมาคัดค้านเบื้องต้น และจะนัดรวมตัวใหญ่เพื่อรวมพลังกันอีกครั้ง

สำหรับรายละเอียดข้อมูลต่างๆ ชาวบ้านจะได้ถ่ายทอด และให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง ส่วน “พระยุทธนา” ไม่ใช่แกนนำคัดค้าน เพียงแต่เป็นผู้ให้ข้อมูลสนับสนุน หากมีการสอบถามเรื่องราวจากท่านเท่านั้น

ขณะที่รายนามอดีตเจ้าสำนักพุทธญาณโอภาสี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “อาศรมบางมด” ซึ่งปัจจุบันคือ “วัดหลวงพ่อโอภาสี”

1. หลวงพ่อโอภาสี (มะลิพันธุ์) เจ้าสำนักพุทธญาณโอภาสี หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “อาศรมบางมด” (ปัจจุบันคือวัดหลวงพ่อโอภาสี) ตั้งแต่ พ.ศ. 2483 – 2498     
2. หลวงปู่ชม ปภากโร (มะลิพันธุ์) เจ้าสำนักพุทธญาณโอภาสี หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “อาศรมบางมด” (ปัจจุบันคือวัดหลวงพ่อโอภาสี) ตั้งแต่ พ.ศ. 2499 – 2526
3. หลวงปู่กิมเส็ง จิตธัมโม (มะลิพันธุ์) เจ้าสำนักพุทธญาณโอภาสี หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “อาศรมบางมด” (ปัจจุบันคือวัดหลวงพ่อโอภาสี)  ตั้งแต่ 2500 -  2535 โดยดำรงเจ้าสำนักพุทธญาณโอภาสี ตั้งแต่ 2527 เป็นต้นไป ภายหลังจากหลวงปู่กิมเส็งมรณภาพ
4. พระครูสุทธิญาณโณภาส (อุสา มะลิพันธุ์) อดีตเจ้าอาวาสหลวงพ่อโอภาสีตั้งแต่ พ.ศ. 2536 จนมรณภาพลง เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2567

เบื้องต้น ทางคณะกรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ได้เลื่อนการแต่งตั้ง พระครูโอภาสวัชรานุกูล (สุชาติ) เป็นเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อโอภาสี ออกไปก่อนจนกว่าจะพิสูจน์ความจริงในเรื่องที่ชาวบ้านร้องเรียนมาได้ ทั้งนี้ เพื่อความสง่างาม และ การเหมาะสมให้เป็นที่ยอมรับของชาวบ้านต่อไป