svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เหยื่อคดีเซาเซียนเฮ ตร.เตรียมเฉลี่ยคืนทรัพย์ที่ยึดได้กว่า 2.5 พันล้านให้

ข่าวดีเจ้าทุกข์! ตำรวจไซเบอร์ ร่วม ปปง. แถลงเฉลี่ยคืนทรัพย์สินผู้เสียหาย ถูกหลอกให้ลงทุน “คดีเซาเซียน” กว่า 2.5 พันล้านบาท ใครที่ถูกขบวนการนี้ตุ๋นรีบยื่นเรื่องภายในวันที่ 25 ธ.ค.นี้

17 ธันวาคม 2567 พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทนจเรจำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และ นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ร่วมแถลงความคืบหน้า การรับคำร้องขอคุ้มครองสิทธิ์ เพื่อเฉลี่ยทรัพย์มูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท คืนให้ผู้เสียหาย 1,500 คน ในคดีหลอกให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ หรือ Hybrid Scam (คดีเซาเซียน)

สืบเนื่องมาจาก ช่วงเดือน ก.ย.65 ที่ผ่าน มามีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความว่า ถูกหลอกลวงจากกลุ่มมิจฉาชีพ ที่ติดต่อผ่านทางโซเชียล โดยพูดคุยสร้างความสนิทสนม หลังจากนั้นชักชวนให้โอนเงินเพื่อลงทุนผ่านแอพพลิเคชั่น steaming จนสูญเงินไปหลายล้านบาท โดยจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า ยอดเงินถูกโอนไปยังบัญชีธนาคารของ นายสฤษฎ์ กับพวกอีกหลายราย แล้วถูกโอนต่อเป็นทอดไปยังผู้รับประโยชน์ชาวจีน และบริษัทแห่งหนึ่งของจีน
เหยื่อคดีเซาเซียนเฮ ตร.เตรียมเฉลี่ยคืนทรัพย์ที่ยึดได้กว่า 2.5 พันล้านให้

 

ต่อมา ตำรวจไซเบอร์ ได้ทำการสอบสวนขยายผลจนพบว่า คดีดังกล่าว มีผู้เสียหายจำนวนมากประมาณ 1,351 ราย รูปแบบคดีเป็นลักษณะขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ความเสียหายในเบื้องต้นอยู่ที่ประมาณ 2,201 ล้านบาท จึงได้ดำเนินคดีอาญาที่ 80/2566 กับนายสฤษฎ์ กับพวก พร้อมสืบสวนเส้นทางการเงิน จนได้พยานหลักฐานที่เชื่อมโยงไปถึงทรัพย์สิน ที่เกี่ยวข้องในขบวนการดังกล่าว และต่อมาคณะกรรมการธุรกรรม สำนักงาน ป.ป.ง. ได้มีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง กับการทำความผิดชั่วคราว

ประกอบด้วยโฉนดที่ดิน คอนโดหรู และเงินฝากในบัญชีธนาคาร รวมทั้งโครงการคฤหาสน์หรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนที่ดินประมาณ 30 ไร่ติดถนนสนามบินน้ำ  ที่คาดว่ามีราคาเริ่มต้นที่ 100-700 ล้านบาทต่อหลัง รวมยึดและอายัดทรัพย์สิน 52 รายการมูลค่า 2,561,188,503.70 บาท

ปปง. ได้ประกาศให้ผู้เสียหาย ยื่นคำร้องเพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีดังกล่าว โดยกำหนดให้ผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายโดยตรงจากคดีนี้ ยื่นคำร้องพร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียดแห่งความเสียหาย ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ปปง. ภายใน 90 วัน ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 25 ธ.ค. 67 นี้

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า แผนประทุษกรรมดังกล่าว มีความคล้ายกับคดีคที่เกิดขึ้นในห้วงเวลาที่ผ่านมา  โดยมิจฉาชีพจะเลือกผู้เสียหาย เพื่อทำการหลอกลวงมีทั้งการหลอกให้รัก หลอกให้ซื้อสินค้า และหลอกให้ลงทุน เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินให้กับผู้คนร้าย เครือข่ายดังกล่าวจะมีการกระจายทันทีในรูปแบบต่างๆ ทั้งนำไปลงทุนซื้อทรัพย์สิน แปลงสกุลเงินเป็นดิจิทัล เพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ซึ่งในกรณีนี้เช่นกันที่เมื่อทำสำเร็จแล้ว กลุ่มผู้เสียหายที่เป็นชาวไทยจะนำไปซื้อทรัพย์สิน และนำเงินส่วนหนึ่งส่งต่อให้บริษัทจีน กลุ่มชาวจีน

โดยตำรวจจะขยายผลต่อว่า ในเครือข่ายดังกล่าว ยังมีผู้ต้องหาและทรัพย์สินส่วนไหน ที่ยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบ อีกทั้งประสานไปยังประเทศของกลุ่มผู้ต้องหาต่างชาติ เพื่อพิจารณาในเรื่องของการออกหมายจับ รวมไปถึงการตรวจสอบบริษัทที่เปิดโดยคนไทยว่า เข้าข่ายลักษณะเป็นนอมินีให้กับกลุ่มทุนจีนด้วยหรือไม่

ในส่วนของการเฉลี่ยคืนทรัพย์สิน นายเทพสุ กล่าวว่า ผู้เสียหายแต่ละคนสูญเสียทรัพย์สินไม่เท่ากัน การจะเฉลี่ยคืนได้ ต้องผ่านขั้นตอนของการตรวจสอบ และยืนยันข้อมูลความเสียหาย รวมถึงพิจารณาจำนวนผู้เสียหายจากคดีความทั้งหมด ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องผ่านกระบวนการของศาลแพ่ง ที่จะต้องพิจารณาคดีความผิด สำหรับทรัพย์สินในคดีนี้ ที่ส่วนมากเป็นอสังหาริมทรัพย์ ของแบรนด์เนม จะต้องผ่านการขายทอดตลาดก่อน จึงจะนำเงินมาเฉลี่ยคืนให้ผู้เสียหายได้