28 ธันวาคม 2566 ย้ายแล้ว "ครูกายแก้ว" พ้นพื้นที่ โรงแรม เดอะ บาซาร์ แบงค็อก เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจากมีคำสั่งของ การรถไฟแห่งประเทศไทย เนื่องจากผิดกฎหมายควบคุมอาคาร พร้อมสั่งปรับ 1.3 ล้านบาท
เช้าวันนี้ บริษัทสวนลุมไนท์บาร์ซ่า รัชดาภิเษก จำกัด และเจ้าของโรงแรม เดอะ บาซาร์ แบงค็อก และผู้บริหารโรงแรมฯ ได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีทางศาสนา เพื่อถอนรูปปั้นครูกายแก้ว, รูปปั้นจิ้งจอก 9 หาง, พระพรหม, พระแม่อุมาเทวี, ขุนแผน, เทพเห้งเจีย, เทพนาจา และเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย รวม 8 รูปปั้น ออกจากพื้นที่ลานด้านหน้าโรงแรม และเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ หลังจากนำมาให้ประชาชนที่มีความเชื่อได้กราบไหว้เพียง 4 เดือน
ทั้งนี้พบว่า บริเวณลานดังกล่าว มีการเก็บข้าวของที่เคยใช้เป็นอุปกรณ์ในการไหว้ครูกายแก้วออกไปบางส่วนแล้ว เหลือเพียงโต๊ะ กระถางธูป และพาน บางส่วนเท่านั้น และไม่ได้อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ามาในพื้นที่ตั้งแต่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา
นายไพโรจน์ ทุ่งทอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทสวนลุมไนท์บาซาร์ รัชดาภิเษก จำกัด เจ้าของโรงแรม เดอะ บาซาร์ แบงค็อก กล่าวว่า ได้กลับมาเป็นผู้บริหารของโครงการแล้ว และในวันนี้ (28 ธันวาคม 2566) เริ่มทำการย้ายรูปปั้น ครูกายแก้ว และ รูปปั้นจิ้งจอกเก้าหาง ออกจากพื้นที่ด้านหน้าโรงแรม
ทั้งนี้เป็นไปตาม คำสั่งของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่ให้ย้ายออกจากพื้นที่ภายใน 30 วัน หรือภายในวันที่ 30 ธ.ค.66 พร้อมให้บริษัทจ่ายค่าปรับเป็นจำนวนเงินกว่า 1.3 ล้านบาท เนื่องจากในพื้นที่บริเวณดังกล่าวห้ามมีการก่อสร้างใดๆ ตามกฎหมายควบคุมอาคาร โดยได้จ่ายค่าปรับไปแล้วเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา
สำหรับ รูปปั้น ครูกายแก้ว และ รูปปั้นจิ้งจอกเก้า จะย้ายไปเก็บไว้บริเวณด้านหลังก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้เราให้บริษัท ครูกายแก้ว จำกัด มาย้ายแล้ว แต่บริษัทไม่ดำเนินการใดๆ เราจึงต้องย้ายไปเก็บไว้ในพื้นที่ไม่มีคนเห็นก่อน หากใครสนใจก็สามารถติดต่อขอรับได้
ส่วนพื้นที่บริเวณนั้น นายไพโรจน์ กล่าวว่า เราจะนำมาทำเป็นลานกิจกรรม เพื่อรองรับลูกค้าที่มาพักโรงแรม ซึ่งตอนนี้มีอัตราเข้าพัก 80-85% ส่วนใหญ่เป็นต่างชาติและในปีหน้าเราจะเริ่มกลับมาทำการตลาดมากขึ้นทั้งโรงแรมและพื้นที่เช่าร้านค้าต่างๆ
เจ้าของ "ครูกายแก้ว" ประกาศฟ้องแน่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ทางโรงแรม ได้เตรียมเครน มาเคลื่อนย้ายรูปปั้นครูกายแก้ว นายเทพฤทธิ์ แป้นสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท ครูกายแก้ว จำกัด พร้อมทีมงาน ได้เดินทางมาติดตามดูการเคลื่อนย้าย ทำให้ทาง ทนายความของบริษัท แบงค์ค็อกไนท์บาซาร์ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ได้เข้าไปพูดคุยเจรจา
ทนายความ ยืนยันว่า จำเป็นต้องย้ายออก เนื่องจากพื้นที่ของการรถไฟ ไม่สามารถอนุญาตให้มีการปล่อยเช่าช่วงได้ และผู้บริหารชุดเก่า ที่ใช้ชื่อบริษัทสวนลุมไนท์บาร์ซ่า ไปปล่อยให้เช่าก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเจ้าของพื้นที่จริงๆที่ได้รับสิทธิ และทำสัญญากับการรถไฟฯ คือ บริษัท แบงค์ค็อกไนท์บาซาร์ โดยสั่งให้รื้อถอนภายใน 30วัน ดังนั้นเมื่อทางบริษัทหนังสือจากการรถไฟก็กลัวถูกบอกเลิกสัญญา จึงได้ดำเนินการเสียค่าปรับ และรีบทำตามระเบียบของการรถไฟทันที
พร้อมกันนี้ มองว่า บริษัทครูกายแก้ว น่าจะถูก ผู้บริหารชุดเดิมที่ให้เช่า หลอก เพราะหากดูสัญญาเช่า จากผู้ให้เช่าแต่เดิม ก็จะรู้ว่าไม่มีสิทธิที่จะให้เช่าช่วงได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารบริษัทครูกายแก้ว ยืนยันว่า ตนเองดำเนินการถูกต้องตามสัญญาเช่าเช่นกัน และไม่แสดงความจำนงค์ว่าไม่ยินยอมที่จะให้ย้ายออก พร้อมโชว์ใบแจ้งความ ที่ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ว่า ตนเองไม่ยินยอมให้ย้ายออก
นายเทพฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทครูกายแก้ว บอกภายหลังเจรจา ว่า บริษัทตนเองได้ดำเนินการตามสัญญานเช่าที่อย่างถูกต้อง และหลังจากนี้จะยื่นให้ศาลพิจารณาและมีความคุ้มครอง เพราะมองว่าจะเป็นทางออกได้ดีที่สุด
ส่วนการเคลื่อนย้ายวันนี้ ถ้าเขายกเขาก็ต้องรับผิดชอบไป ส่วนจะเอาไปไว้ไหนคงไว้ในนี้ก่อน ยังไม่เอาออกไปไหน เพราะเราก็มีหนังสือ มีสัญญาถูกต้อง ถ้าหากการย้าย การยก แล้วเสียหายก็ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะประเมินมูลค่าความเสียหายแล้ว หลายสิบล้านบาท
ส่วนที่อ้างว่า บริษัทครูกายแก้วถูกหลอกนั้น มองว่า ทางบริษัท มีเอกสารชี้แจงชัดเจน และยืนยันว่า หลังจากนี้ดำเนินการฟ้องกลับแน่นอน
แห่ส่องทะเบียนรถขนย้าย "ครูกายแก้ว"
ทั้งนี้ภายหลังจากกระแสข่าวดังกล่าวเผยแพร่ไป โลกโซเชียลต่างเข้ามาชมภาพและคลิป พร้อมทั้งมองหา หมายเลขทะเบียนรถ "ครูกายแก้ว" เนื่องจากก่อนหน้านี้ในวันที่เคลื่อนย้ายมาในครั้งแรก ผลการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลไปตรงกับหมายเลขทะเบียนรถ
สำหรับเลขทะเบียนรถที่ใช้บรรทุก ครูกายแก้ว พบว่าหมายเลขทะเบียน "72-5524"