จากกรณีมีผู้เผยแพร่คลิป โรงเรียนบ้านท่าใหม่ ม.17 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ให้เด็กนักเรียนอนุบาลกิน "ขนมจีนคลุกน้ำปลา" ในถาดหลุม และ มีเสียงถามเด็กว่า รับประทานกับน้ำปลาใช่ไหม บางรายมีลักษณะเหมือน ขนมจีนราดแกง ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล ตั้งคำถามว่า เกิดการทุจริตในโครงการอาหารกลางวันหรือไม่ พร้อมเรียกร้องให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริง
ต่อมาได้มีคำสั่งย้าย นายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ ผอ.โรงเรียนดังกล่าว ออกจากพื้นที่ ไปช่วยราชการประจำ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุราษฎร์ธานี เขต2 (สพป.สฎ เขต 2 ) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.61 ที่ผ่านมา และทางเขตพื้นที่การศึกษาร่วม ป.ป.ช.ประจำ จ.สุราษฎร์ธานีได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียนให้ตรวจสอบความผิดของ ผอ.โรงเรียนจำนวน 10 ข้อ พบปมทุจริตความไม่โปร่งใสในการใช้จ่ายเงินอาหารกลางวันตามที่เสนอข่าวไปอย่างต่อเนื่องนั้น
เวลา10.00น. (8 มิ.ย.61) ) พล.ท.โกศล ปทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสาโรจน์ บุตรเนียน ที่ปรึกษาด้านกฏหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ/นายชุมพล ศรีสังข์ ศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี/นายประทีป ทองด้วง ผอ.สพป.สฎ เขต2ลงพื้นที่ ร.ร.บ้านท่าใหม่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานีสอบถามข้อเท็จจริงกับครู ครูเล่าความจริงทั้งน้ำตาว่าถูก ผอ.บังคับทุกอย่างและโรงเรียนนี้มีแต่ครูผู้หญิงพูดอะไรมากไม่ได้
หลังจากฟังเบื้องต้นแล้วพลโทโกศล กล่าวว่าแบบนี้คงจะเอาไว้ไม่ได้แล้วแต่ทั้งนี้อยู่ที่ศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานีว่าจะเอาไว้หรือไม่ ขณะที่นายชุมพล ศรีสังข์ ศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานีกล่าวในที่ประชุมว่ารอกรรมการฝ่ายสืบสรุปวันนี้จากนั้นเป็นขั้นตอนการสอบสวนและสรุปหากเป็นจริงก็จะดำเนินการทางวินัยร้ายแรงอาจจะพักราชการหรือไล่ออก
เวลา 11.00 น. ทางคณะไปตรวจดูอาหารกลางวันวันนี้ซึ่งเป็นช่วงพักกลางวันของเด็กเล็กมีต้มข่าไก่กับผัดเป็ดปลาดุก/ผลไม้เป็นเงาะโรงเรียนเด็กเล็กพัก 11.00 น. กินต้มข่าไก่เด็กโตพัก 12.00 น.
ต่อมานายจักรรินทร์ อภิสมัย รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 2 (รอง ผอ.สพป.สฎ เขต 2) หัวหน้าชุดทีมสืบสวนข้อเท็จจริงได้สรุปผลการสืบสวนที่ชาวบ้านร้องเรียน 10 เรื่อง มี 5 เรื่องที่เข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรงคือ 1.เรื่องโครงการอาหารกลางวันไม่ได้คุณภาพ "ขนมจีนกับน้ำปลา" 2.เรื่องถนนภายในโรงเรียนที่ไม่ได้มาตรฐาน 3.ขายน้ำอัดลมให้เด็ก 4.ขายปาล์มน้ำมันโรงเรียนนำเงินไปใช้ส่วนตัว 5.เสาไฟฟ้า 8 ต้นปักจริง 6 ต้น และเรื่องที่ 6. มีมูลแต่ไม่ร้ายแรงคือไม่ทำตามระเบียบเรื่องประตูเหล็กปรับเป็นไม้/หน้าต่างเหล็กปรับเป็นไม้/กระดานดำเป็นไวน์บอร์ด
พล.ท.โกศล ปทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังการฟังการสรุปผลการสืบสวนว่าทั้ง 5 เรื่องผิดวินัยร้ายแรง ขั้นตอนต่อทางศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานีต้องดำเนินการต่อแล้ว (เสียง)
ขณะที่นายชุมพลศรีสังข์ ศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานีกล่าวว่า ขั้นต่อไปเป็นการตั้งกรรมการสอบวินัยและคาดว่าจะเริ่มสอบวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เป็นวันทำการที่นายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ ผอ.โรงเรียนดังกล่าวจะต้องมาปฏิบัติงานวันแรกที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุราษฎร์ธานี เขต 2 (สพป.สฎ เขต2) หลังจากที่ลากิจครบกำหนด คาดว่าเรื่องดังกล่าวน่าจะสอบสวนข้อเท็จจริงเสร็จและสรุปได้ว่าจะมีมาตรการลงโทษทางวินัยอย่างไรต่อไป
ด้านนายพลศรัธโธ ผอ.ปปช.ประจำ จ.สุราษฎร์ธานีนำทีมงานลงพื้นที่โรงเรียนบ้านท่าใหม่เช่นเดียวกันสอบปากคำครูในโรงเรียน ก่อนที่จะสรุปเรื่องทั้งหมดเพื่อเสนอตั้งอนุกรรมการไต่สวนในประเด็นการทุจริต
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าระหว่างที่คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีศึกษาธิการสอบถามครูนั้น ครูหลายคนร้องไห้เพราะกลัวในความผิดโดยเฉพาะประเด็นที่ ผอ.บังคับให้เซ็นต์รับงานและการตกแต่งบัญชีย้อนหลัง ขณะที่พลโทโกศล ปทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและนายสาโรจน์ บุตรเนียน ที่ปรึกษาด้านกฏหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้กำลังใจและขอให้บอกความจริงทุกอย่าง ไม่ต้องกลัวความผิดหรืออิทธิพลใดๆทั้งสิ้น
ส่วนบรรดาผู้ปกครองประมาณ 30 คน ที่มาเฝ้าดูบรรยากาศที่โรงเรียนต่างปลาบปลื้มดีใจเป็นอย่างมากที่ผู้หลักผู้ใหญ่ให้ความสนใจเรื่องนี้และเป็นกรณีตัวอย่างสำหรับโรงเรียนอื่นๆต่อไป