จากกรณีอดีตแม่ชีรายหนึ่งได้โพสต์เฟซบุ๊กและสื่อโซเชียลโดยกล่าวหาว่า พระวัดดัง อดีตเจ้าคณะตำบลแห่งหนึ่ง ใน อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับตนเองมาตั้งแต่เดือน เม.ย. 58 ต่อมา เพจ "อีดำขยำหน้า" ได้เปิดแชทข้อความ พระวัดดัง เริงรักกับแม่ชี จนโซเชียลร้อนฉ่า
13 มกราคม 2568 อดีตแม่ชีคนดังกล่าว ได้เดินทางมาแจ้งความยัง สภ.นิคมคำสร้อย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งกับอดีตแม่ชีให้ไปที่วัดเหล่าต้นยม หมู่9 ต.หนองแวง อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร เพื่อให้ทางสำนักพระพุทธศาสนาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสอบปากคำถึงกรณีที่แม่ชีโพสต์คลิปลงบนโซเชียล
ต่อมาอดีตแม่ชีเดินทางมาถึงยังวัดดังกล่าว ได้เข้าไปภายในอาคารที่ทางวัดเหล่าต้นยมจัดเตรียมไว้เพื่อสอบปากคำอดีตแม่ชี
โดยใช้เวลาในการสอบปากคำประมาณ 2 ชั่วโมงจึงจะแล้วเสร็จ โดยมีพระครูวชิรธรรมพินิตเจ้าคณะอำเภอนิคมคำสร้อยเป็นประธานในการสอบปากคำ และคณะสงฆ์ประมาณ 10 รูป
ภายหลังจากที่อดีตแม่ชีสอบปากคำเสร็จสิ้นได้เดินออกมาจากห้องประชุม อดีตแม่ชี เล่าว่า วันนี้เป็นการสอบสวนเบื้องต้น ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งต้องรอฝ่ายคู่กรณี ซึ่งวันนี้ตนเองได้มอบคลิปเสียงสนทนาและแชตไลน์พูดคุยระหว่างตนเองและพระพล ซึ่งแชตไลน์และคลิปเสียงที่มอบให้เจ้าหน้าที่ทั้งหมดเริ่มตั้งแต่ปี 60 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งในแชตไลน์พูดคุยในฐานะฉันสามี ภรรยา ตลอดมา
ซึ่ง เวลา 13.00 น. พระพล จะเดินทางมายังวัดเหล่าต้นยม เพื่อให้คณะสงฆ์และคณะคุ้มครองพรพุทธศาสนาสอบปากคำ
หากผลการสอบสวนแล้วปรากฏว่า พระวินัยธรอนุชา อธิปัญโญ มีความผิดจริงอาจต้องให้ พระครูวชิรธรรมพินิต เจ้าคณะอำเภอนิคมคำสร้อย ทำการสึกและขาดจากการเป็นพระทันที
ขณะที่ พระพล ได้เดินทางมายืนยันความบริสุทธิ์ โดยเผยว่า ไม่ซีเรียส ทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนกฎหมาย ความจริงก็คือความจริง ส่วนคลิปไม่สะดวก โดยวันนี้มายืนยันความบริสุทธิ์ เขาต้องการทำลายศาสนา ไม่ใช่ทำลายแต่เฉพาะพระอาจารย์
เราก็อยากได้ความเป็นทำ ชั่วโมงนี้เราไม่ได้รับความเป็นธรรม วันนี้ไม่รู้จะโดนอะไร รู้สึกไม่ได้รับความชอบธรรม โดนรังแก