30 ตุลาคม 2567 ที่ จ.เชียงใหม่ สามเณรจากหลายวัด ที่บวชเรียนในโรงเรียนพระปริยัติธรรมดอยสะเก็ดผดุงศาสน์ ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ สวมหน้ากากกันแสง โชว์ทักษะเชื่อมเหล็ก ซ่อมแซมโต๊ะเก้าอี้ที่ชำรุดเสียหายภายในโรงเรียน รวมทั้งยังโชว์ผลงานการผลิตล้อเข็น สำหรับช่วยทุ่นแรงในการขนย้ายเก้าอี้ หลังจากผ่านหลักสูตรการเรียนรู้ด้านงานเชื่อมเป็นเวลา 12 ชั่วโมง จนสามารถเชื่อมเหล็กกันได้อย่างคล่องแคล่ว
ซึ่งผลงานการเชื่อมเหล็กของเหล่าสามเณร ออกมาดูดีมีคุณภาพไม่แพ้ช่างมืออาชีพเลยทีเดียว นอกจากงานเชื่อมโลหะ สามเณรอีกกว่า 30 รูป ยังได้เรียนรู้ทักษะเบื้องต้นด้านวิศวกรรมศาสตร์อีกหลายสาขา มีทั้ง งานไฟฟ้าภายในอาคาร , งานไม้ และ การออกแบบผ่านซอฟแวร์คอมพิวเตอร์ โดยมีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จ.เชียงใหม่ ใช้ช่วงเวลาวันหยุดเสาร์อาทิตย์วันละ 6 ชั่วโมงในการถวายความรู้ให้กับสามเณรเหล่านี้
อาจารย์ศุภกาล ตุ้ยเต็มวงศ์ หัวหน้าหลักสูตรเตรียมวิศวกรรมศาสตร์ มทร.ล้านนา เปิดเผยว่า การถวายความรู้เป็นการพัฒนาศักยภาพให้กับสามเณร ภายใต้ยุทธศาสตร์ “ใต้ร่มพระบารมี” ของ มทร.ล้านนา ที่มีการส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาอาชีพให้กับกลุ่มคนทุกช่วงวัยและผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา หนึ่งในเป้าหมายยังเป็นถวายความรู้แก่สามเณรกลุ่มโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาในวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการทำนุบำรุงศาสนสถาน ผ่านหลักสูตรความรู้เบื้องต้นด้านวิศวกรรมศาสตร์สำหรับสามเณร
ที่ผ่านมา มทร.ล้านนา ได้สนับสนุนอาจารย์ นักวิจัย และบุคลากรของอบรมถวายความรู้ให้แก่สามเณรโรงเรียนพระปริยัติธรรมโรงเรียนดอยสะเก็ดผดุงศาสน์ (วัดปทุมสราราม) ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ และโรงเรียนบาลีสาธิตศึกษามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วัดสวนดอก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ หลักสูตรการซ่อมบำรุงเครื่องจักรกลเกษตรและจักรยานยนต์ และ การพัฒนาฝีมือด้านช่างไม้
มีสามเณรที่สำเร็จหลักสูตรมากกว่า 100 รูป ก่อนจะเพิ่มหลักสูตรช่างเชื่อม ช่างก่อสร้าง และ ช่างไฟฟ้า เพิ่มเติม ล่าสุดอยู่ระหว่างเรียนอีก 30 กว่ารูป สามเณรที่ผ่านหลักสูตร นอกจากจะมีทักษะทางวิชาชีพติดตัวยังได้รับใบประกาศนียบัตรรับรอง ซึ่งจะสามารถนำไปต่อยอดในการสมัครเรียนในระดับที่สูงขึ้น หรือ นำไปต่อยอดประกอบอาชีพได้หากลาสิกขาบทในอนาคต
ล่าสุด มทร.ล้านนา อยู่ระหว่างจัดทำ “หลักสูตรห้องเรียนปริญญาตรีสำหรับภิกษุสามเณร” เพื่อให้พระเณรได้เรียนในสิ่งที่สนใจโ ดยที่ไม่ต้องลาสิกขาบท ซึ่งสามเณรในโรงเรียนพระปริยัติธรรม เป็นเยาวชนกลุ่มหนึ่งในประเทศไทย ที่ต้องได้รับโอกาสในการศึกษาและพัฒนาเท่าเทียมผู้อื่น โดยจะเปิดสาขาวิชาที่เหมาะสมกับพระเณรโดยเฉพาะ อาทิ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ วิศวกรรมอิเลกทรอนิคส์ สถาปัตยกรรมที่เกี่ยวข้องกับพุทธศิลป์ เพื่อเปิดโอกาสทางการศึกษา เนื่องจากที่ผ่านมามหาวิทยาลัยสงฆ์ จะเน้นไปทางด้านสังคมศาสตร์และพุทธศาสตร์เป็นหลัก
ด้าน พระมหาเอกราช อัตตะมนัญญู รองผู้อำนวยการโรงเรียนพระปริยัติธรรมโรงเรียนดอยสะเก็ดผดุงศาสน์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันจำนวนสามเณรลดลงอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหนึ่งมาจากการขยายโอกาสทางการศึกษา จากการสำรวจพบว่าเมื่อสามเณรที่บวชเรียนจบ ม.3 จะลาสิกขาบทเพื่อศึกษาต่อในระดับ ปวช. มากกว่าร้อยละ 60 หรือ จบ ม.6 ลาสิกขาเพื่อศึกษาต่อในระดับ ปวส.มากกว่าร้อยละ 80 ซึ่งการลาสิกขาบทออกไปเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ทำให้คณะสงฆ์ขาดแคลนบุคลากร เพื่อเข้ามาศึกษาวิชาการทางพระพุทธศาสนา
ความร่วมมือระหว่าง มทร.ล้านนา กับ โรงเรียนพระปริยัติธรรม ในการให้ความรู้เพิ่มทักษะทางวิชาชีพ รวมทั้งห้องเรียนในระดับปริญญาตรี ที่จะตามมาในอนาคต เป็นทางเลือกที่จะช่วยให้สามเณร ได้เรียนโดยที่ไม่ต้องลาสิกขาบท ได้บวชเรียนยู่ในพุทธศาสนานานมากขึ้น พร้อมกับได้โอกาสทางการศึกษา เพราะส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ที่ผ่านมาพบว่าหากสึกไปเรียน ก็จะประสบปัญหาทางด้านทุนทรัพย์ เกิดปัญหาสังคม
นอกจากนี้เมื่อมีความรู้พื้นฐาน จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของวัด ในส่วนของการซ่อมบำรุงศาสนสถาน แต่สุดท้ายหากตัดสินใจลาสิกขาออกไป ก็จะได้มีความรู้ติดตัวไปต่อยอดประกอบอาชีพ และเป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้