svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าวทั่วไทย

แม่ป่วยมะเร็ง ลงทุน "ดิไอคอน" หวังหาเงินรักษาตัว สุดท้ายสูญเงินเปล่า 5 แสน

แม่ป่วยมะเร็ง หาวิธีหาเงินมารักษาตัวเอง เปิดเจอคอร์สเรียนการตลาดออนไลน์ 97 บาท เครือ "ดิไอคอนกรุ๊ป" หลงเชื่อเหมือนโดนล้างสมอง เปิดบิลดิลเลอร์ไป 500,000 บาท เอาสินค้ามาขาย สุดท้ายขายไม่ออก คืนของไม่ได้ เครียดหนักอาการทรุดจนเสียชีวิต

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Pattarachat Netsomboon” โพสต์ภาพขณะที่ตัวเองรถน้ำศพ และแตะแก้มคุณแม่ เพื่อแสดงความอาลัย พร้อมข้อความระบุว่า  “เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2566 วันสุดท้ายของแม่กู ข้อความแสดงความเสียใจ แม้แต่ประโยคเดียวยังไม่มี อย่าถามพวงหรีด เค้าลงทุนกับมึงขนาดนี้ น้ำใจของทีมมึงไม่มีสักนิดเลยหรอ เป็นคนให้ได้ก่อนเนอะ ก่อนเป็นบอส *วัดที่ออกข่าววันนี้ คือวัดบ้านกูเอง งื้อออ บอสเคยมานิ ไม่มาเผาแม่กูหน่อยละ”

วันที่ 17 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพูดคุยกับผู้ที่โพสต์ข้อความดังกล่าว คือ นายชนัสก์นันท์ เนตรสมบูรณ์ อายุ 36 ปี หรือ "คุณแบงค์" ชาว จ.ขอนแก่น ลูกชายนางสุดใจ เนตรสมบูรณ์ อายุ 62 ปี เสียชีวิต เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2566 ซึ่งลูกชายเชื่อว่า หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้แม่อาการทรุดจนเสียชีวิต เพราะเครียดจากการไปลงทุนสินค้ากับ "ดิไอคอน" สุดท้ายสินค้าขายไม่ออก คืนสินค้าก็ไม่ได้ แม่เกิดความเครียดบวกกับโรคประจำตัวที่เป็นจนสุดท้ายเสียชีวิต 

โดยนาย ชนัสถ์นันท์ ได้เปิดเผยข้อความแชทที่เคยพูดคุยกับแม่เกี่ยวกับการลงทุนกับทางดิไอคอนกรุ๊ป ซึ่งเคยเตือนแม่ว่าอย่าไปลงทุนสินค้าออนไลน์ หลังจากที่แม่มาถามว่า ไปมัลดีฟต้องใช้เงินเท่าไหร่ ซึ่งแบงค์ ลูกชายตอบแม่ว่าไม่เท่าไหร่อยากไปไหมละ เพราะคิดว่าถ้าแม่อยากเที่ยวก็จะพาไป แต่กลายเป็นว่า แม่มาเปิดเผยว่าตัวเองได้สมัครเป็นแม่ค้าออนไลน์ โดยมีโปรโมชั่นไปเที่ยวมัลดีฟ เดือน พ.ค. 2565 ซึ่ง แบงค์ ก็พยายามสอบถามข้อมูลว่า คืออะไร ทำไมไปได้ง่ายดายขนาดนั้น และยังแนะนำให้ดูข้อตกลงดีดี ต้องเปิดบิลกับเขาเท่าไหร่ ให้แบงค์ช่วยดูอีกที โดยแม่ได้ส่งภาพบิลดิลเลอร์ที่จะได้ตั๋วเที่ยวมัลดีฟ 1 ใบ ระบุ ราคาจ่ายปกติ 261,940 บาท จะได้สินค้าเป็นกาแฟ 500 แพ็ค และคอลลาเจน 275 กล่อง แต่จะได้รับเงินคืน 26,250 บาท ซึ่งระบุเงินที่จะจ่ายจริงเป็นเงิน 235,690 บาท 

แม่ป่วยมะเร็ง ลงทุน \"ดิไอคอน\" หวังหาเงินรักษาตัว สุดท้ายสูญเงินเปล่า 5 แสน

และยังมีเงื่อนไขพิเศษ หากไม่ไปมัลดีฟ จะได้เงินคืนอีก 40,000 บาท ทำให้ยอดเงินที่จ่ายบิลดิลเลอร์ตัวนี้แบบไม่เอาตั๋วเที่ยวมัลดีฟอยู่ที่ราคาทั้งสิ้น 195,690 บาท พร้อมทั้งบอกลูกชายให้เข้าไปดูในเฟซบุ๊กของ "บอสปัน" โดยคุณแบงค์ ลูกชายได้บอกแม่ว่า จ่าย 2 แสน สามารถไปได้ทั้งครอบครัว แต่คุณแม่ได้ทำการลงทุนเปิดบิลดิลเลอร์ตัวนี้ไปแล้ว และยังบอกอีกว่าเป็นของ "บอสพอล" เป็นการขายออนไลน์ ซึ่งจะให้ของมาให้เราขาย และไม่ต้องสต็อกของ ไม่ต้องเดินขาย ยิงการตลาดขายทางออนไลน์เอา อีกทั้ง ยังได้ชักชวนลูกให้มาร่วมทำออนไลน์กับแม่ โดยแม่จะลงทุนให้อีกด้วย และให้แบงค์ไปศึกษาเกี่ยวกับ ดิไอคอนดูเพราะน่าสนใจ ซึ่งคุณแบงค์ ก็พยายามดึงสติคุณแม่กลับมา อย่าใจร้อนให้มองหลายๆมุม แต่สุดท้ายแม่ก็ยังคงร่วมลงทุนเช่นเดิม และเข้าคอร์สเรียน คอร์สอบรม ตามจังหวัดต่าง ๆ อีก ทุก ๆ สัปดาห์

และที่คุณแบงค์มาทราบภายหลัง ถึงเหตุผลที่แม่อยากเรียนการตลาดออนไลน์ ลงทุนซื้อสินค้ากับ "ดิไอคอน"มาขาย เพราะแม่ต้องการหาเงินมารักษาตัวเองที่ป่วยเป็นมะเร็งและมีโรคประจำตัว โดยแม่ส่งข้อความบอกแบงค์ว่า “แม่ก็คิดแล้วว่าเงินมันคงไม่พอจะใช้ในการรักษา แม่ก็เลยคิดว่าจะหาเงินจากทางไหนเพิ่มดี เพราะไม่มีใครช่วยแม่ ถ้าแม่ไม่ช่วยตัวเอง” โดยคุณแบงค์ก็พยามพูดให้แม่คิดและออกมาจาก "ดิไอคอน" แต่สุดท้ายแม่ก็เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2566 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งยังได้เปิดเผยภาพขณะที่แม่ไปร่วมอบรมกับเครือข่ายขายสินค้าดิไอคอนกรุ๊ป ทั้งที่ กทม. อุดรธานี ซึ่งแม่ได้เก็บภาพต่างๆ ที่ถ่ายร่วมกันเอาไว้ ทั้งการอบรม การเต้นตามจังหวะเพลง 

แม่ป่วยมะเร็ง ลงทุน \"ดิไอคอน\" หวังหาเงินรักษาตัว สุดท้ายสูญเงินเปล่า 5 แสน

นอกจากนี้ ยังมีกระดาษ 1 แผ่น ที่แม่ไปประชุมกับเครือข่ายดิไอคอนกรุ๊ป เป็นกระดาษที่วาดเขียนกระดานความฝันของแม่เอาไว้ โดยเป็นความฝันที่แม่อยากจะให้เกิดขึ้นจริงภายใน 4 ปี เมื่อเข้าสู่เครือข่ายของดิไอคอนกรุ๊ปแล้ว โดยแม่ได้เข้ามาร่วมลงทุนในเดือน พ.ค.2565 ความฝันแรกของแม่ที่เขียนในกระดานความฝันคือ เป็นระดับ โกลด์ดิลเลอร์ มีชุดสูตรสวยๆใส่ในราคาหมื่นอัพ ตั้งใจให้สำเร็จในเดือน ส.ค.65 ความฝันที่ 2 อยากให้เกิดขึ้นในเดือน พ.ค.66 โดยไปถึงระดับ แกรนด์ ดิลเลอร์ ซื้อกระเป๋าใบละ 2-3 หมื่นมาใช้ ความฝันต่อมาในเดือน พ.ค.67 ไปถึงระดับ แพลทตินั่ม ดิลเลอร์ ดาวส์รถ BMW สีขาวมาขับ และความฝันที่ 4 ไปให้ถึงระดับ เพลซิเดนเชี่ยล ดิลเลอร์ โดยมีความฝันที่จะหยุดการทำงานทุกอย่าง พาครอบครัวไปเยี่ยมเพื่อนที่อเมริกา

นายชนัสก์นันท์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวอีกว่า จุดเริ่มต้นของแม่ที่เข้าไปอยู่ในดิไอคอนกรุ๊ปนั้น มาจากที่แม่ต้องการหาเงินรักษาตัวเอง ซื้อยานอกที่เบิกไม่ได้ และเปิดไปเจอสอนออนไลน์เมื่อช่วงเดือน พ.ค.2565 และมาถามตนเองว่าเรียนแต่งรูปออนไลน์มันแค่ 98 บาทเอง เดี๋ยวแม่ลองไปเรียน ถ้าไม่เข้าใจแม่จะมาถามนะ หลังจากนั้นไม่นานแม่ก็เริ่มมีการสั่งของมาที่บ้าน ตนเองก็คิดว่าคงจะเอาไปทดลองขาย ทำโฆษณาออนไลน์ดูตามที่เรียนมา ซึ่งตนเองก็เริ่มเห็นว่า เริ่มเยอะขึ้น กระทั่งแม่มาถามเกี่ยวกับไปเที่ยวมัลดีฟมันแพงไหม ซึ่งทีแรกตนเองคิดว่าแม่อยากไปเที่ยว ไปพักผ่อน ซึ่งตนเองสามารถพาไปได้แต่กลายเป็นว่าเป็นเรื่องการลงทุนสินค้า เพราะแม่ไปลงทุนสมัครขายสินค้าออนไลน์ไว้แล้วได้ตั๋วมัลดีฟมา ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าคืออะไร จึงไปเปิดหาดูในออนไลน์ พบว่าต้องเปิดบิลดิลเลอร์ราคากว่า 2 แสนบาท จึงได้มาพูดคุยกันว่าใช้เงินเยอะเกินไปจนกลายเป็นมีปากเสียงกัน และแม่เริ่มมีโลกส่วนตัว ไปต่างจังหวัดประชุมอบรมตลอด และแม่ก็ไม่สบายไปต่างที่บ่อยๆ และจะมีกลุ่มครูซึ่งเป็นเพื่อนๆที่แม่รู้จัก แต่ตนเองไม่ทราบในรายละเอียดลึกๆว่าใครเป็นบอส หรือแม่เป็นลูกทีมของใคร แต่แม่ไม่ได้มีใครแนะนำให้รู้จัก "ดิไอคอน" แม่มารู้จักจากโปรโมชั่นทำการตลาดออนไลน์ 90 กว่าบาท ส่วนสินค้าที่ได้มานั้น บางส่วนก็ยังอยู่ บางส่วนก็ได้ไปแจก และนำไปทิ้ง เพราะไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไรต่อได้ ซึ่งแม่เสียเงินเปิดบิลดิลเลอร์ไป 2 บิล ทั้งของแม่ และใช้ชื่อพ่อ รวม 500,000 บาท และสลิปโอนเงินยิบย่อยอีกหลายอย่าง

ช่วงที่แม่ป่วยก็ไม่มีทีมงาน หรือแม่ข่ายของดิไอคอนมาดูแลแต่อย่างใด พ่อได้ติดต่อไปทีมของแม่ตั้งแต่วันที่ป่วยจนทรุดเข้าโรงพยาบาล กระทั่งเสียชีวิต ก็มีแค่บอกว่าเดี๋ยวจะติดต่อไปอีกครั้ง จนกระทั่งวันเผาศพแม่ ก็ไม่มีใครติดต่อมาแต่อย่างใด กระทั่งเมื่อวานที่ผ่านมา เห็นข่าวที่บอสพอลไปทำบุญที่วัด ซึ่งเป็นวัดเดียวกันที่เผาศพแม่ ตนเองจึงเอะใจขึ้นมาว่า ในเมื่อวัดที่บอสพอลมาทำบุญกันนั้น เป็นวัดที่เผาแม่เรา ทำไมเขาถึงจะไม่รู้ว่าแม่จะอยู่ที่นี่ เพราะวันไปทำบุญแม่ก็อยู่ที่นี่ด้วย จะบอกว่าอยู่ไกลก็ไม่ใช่เพราะคุณก็เคยมาทำบุญ 

จุดประสงค์ที่โพสต์นั้น ตนเองเสียใจ เสียความสัมพันธ์กับแม่ไประดับหนึ่งเลย การเรียกร้องก็ไม่ทราบว่ามีสิทธิอะไรไหมว่าทำได้ จึงโพสต์ไปเผื่อจะมีคนให้คำแนะนำได้ และอยากจะเตือน สำหรับคนหลังวัยกระเษียณ คนใกล้ชิดควรอยู่กับเขามากๆ อย่าปล่อยให้ไปเจออะไรไปแบบนี้ ซึ่งตนเองได้คำตอบจากแม่มา 1 ประโยคคือ แม่อยากประสบความสำเร็จในชีวิต ซึ่งคำพูดนี้ตนเองถึงกับอึ้ง เพราะแม่เป็นข้าราชการเกษียณ มีครอบครัวอบอุ่น มีบ้าน มีรถ มีลูกที่ทำงานมั่นคง ซึ่งคำพูดนี้ไม่ใช่คำพูดของคนปกติที่จะพูดคำนี้ออกมา เหมือนแม่โดนล้างสมอง การแจ้งความนั้น ตนเองก็ไม่ทราบว่าสามารถทำได้ไหม ก็อยากให้มีคนมาแนะนำ สิ่งที่แม่เสียไปนั้นก็อยากให้ได้กลับคืนมาอยู่ สิ่งที่แม่ลงทุนไปนั้นตนเองไม่เคยเห็นได้อะไรตอบแทนมา ที่บอกว่าได้ไปเที่ยวมัลดีฟ เที่ยวฝรั่งเศสก็ไม่ได้ไป ขายใครก็ไม่ได้ แจกให้คนข้างบ้านบ้าง ทำเป็นสังฆทานถวายวัดบ้าง 

แม่ป่วยมะเร็ง ลงทุน \"ดิไอคอน\" หวังหาเงินรักษาตัว สุดท้ายสูญเงินเปล่า 5 แสน

ส่วนตัวเชื่อว่า สาเหตุที่แม่อาการทรุดลงและเสียชีวิตนั้น นอกจากโรคประจำตัวแล้ว เชื่อว่าเกิดจากงานที่แม่ทำ ไปอบรมประชุมสัมนาหลายๆที่ ไปบ่อยมากทุกสัปดาห์ ขายให้ใครก็ไม่มีใครซื้อ ส่วนใหญ่มีแค่คนรู้จักกันสงสารก็ซื้อบ้าง ทักไปหาทีมตัวเองจะคืนสินค้าก็ไม่รับคืน หรืออยากให้เอาไปขายให้ก็ไม่ได้รับการชข่วยเหลืออะไร เชื่อว่าแม่จะเครียดจากส่วนนี้ด้วย ตนเองไม่มีอะไรจะพูดหรือจะฝากถึงกับบุคคลเหล่านั้น แม้แต่คำเสียใจก็ไม่เคยมีมาให้ ตอนนี้รู้สึกเสียดายความสัมพันธ์กับแม่ที่เสียไปมากกว่า ตนเองไม่มีอะไรจะพูดกับคนแบบนั้น