svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าวทั่วไทย

หลานรักป่วยจิต สังหารตาวัย 88 ปี ดับสลด

หนุ่มวัย 22 ปี จิตหลอน คว้ามีดพร้าสังหารตาวัย 88 ปี ซึ่งเป็นตาแท้ๆ ดับสลด พ่อเลี้ยงเห็น โร่แจ้งตำรวจเข้าคุมตัวได้ทัน คาดเกิดจากขาดยาจิตเวช

วันที่ 4 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (3 ก.ค. 2567) เวลา 16.00 น. พ.ต.อ.ประทีป ปัญโญวัฒน์ ผกก.สภ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.ท.สำเนียง สำโรงพล รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.หนองเรือ เข้าตรวจสอบเหตุฆาตกรรม บริเวณกระท่อมท้ายบ้านป่าเสี้ยว ม.7 ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ซึ่งหลังเกิดเหตุ แม่และพ่อเลี้ยงของผู้ก่อเหตุ เห็นลูกชายถือศีรษะของผู้เป็นตา เดินไปเดินมาอยู่ภายในกระท่อมนา จึงรีบโทรแจ้งตำรวจ ก่อนที่ลูกชายจะวางศีรษะของตาตัวเองไว้บนตักตา แล้วเดินลงไปที่ทุ่งนา

 

หลานรักป่วยจิต สังหารตาวัย 88 ปี ดับสลด

ที่เกิดเหตุพบชายก่อเหตุสภาพไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงขาสั้น เดินถือศีรษะของผู้เสียชีวิตไปมา ก่อนจะนำไปว่างใกล้ๆร่างผู้ตาย จากนั้นตำรวจได้เข้าควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายธีรภัทร ชัยอาจ อายุ 22 ปี ขณะที่ บริเวณกระท่อมพบร่างผู้เสียชีวิตในสภาพน่าสยดสยอง ร่างกายนั่งอยู่บนเก้าอี้โดยมีศีรษะที่ถูกตัดวางอยู่ข้างตักข้างที่พักแขน และที่ลำตัวบริเวณหน้าอกมีบาดแผลถูกฟันเป็นแผลขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ที่ท้ายทอยพบบาดแผลอีก 1 แห่ง ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายสาย ชัยอาจ อายุ 88 ปี ซึ่งเป็นตาแท้ๆของผู้ก่อเหตุ จากนั้น ได้ควบคุมนายธีรภัทร (ผู้ก่อเหตุ) ไปสวบสวน ที่ สภ.หนองเรือ ทันที

นายบัวรอง ถาวงษ์กลาง ผู้ใหญ่บ้านนาคำ หมู่ 15 ตำบลบ้านเม็ง เล่าว่า ตนเองได้รับแจ้งเหตุจากนายสาคร (พ่อเลี้ยงของผู้ก่อเหตุ) จึงเดินทางมาที่เกิดเหตุทันที เมื่อมาถึงก็ได้รีบโทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัย รวมถึงแจ้งนายอำเภอหนองเรือให้ทราบ กระทั่งตำรวจเดินทางมาที่เกิดเหตุ ได้บอกให้นายธีรภัทร หมอบลงกับพื้นก่อนจะเข้าควบคุมตัว 

สำหรับนายธีรภัทร เป็นลูกบ้านของตนเอง มีประวัติพบการเสพยาเสพติดมานาน จนกระทั่งประมาณปี 2563 ได้นำตัวนายธีรภัทร ไปบำบัดรักษาที่โรงพยาบาลหนองเรือ ก่อนที่จะส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชราชนครินทร์ขอนแก่น แต่ก็ไม่ทราบว่านายธีรภัทรได้กินยาตามที่แพทย์สั่งหรือไม่

ขณะที่ นายสาคร นิลคีรี อายุ 56 ปี (พ่อเลี้ยงของผู้ก่อเหตุ) เล่าว่า ผู้ก่อเหตุเป็นลูกเลี้ยงของตนเอง โดยมีบ้านติดกับกระท่อมของผู้เสียชีวิต และผู้เสียชีวิตมีศักดิ์เป็นลุงของตน ทั้งสองคนไม่เคยมีเรื่องทะเลาะมาก่อน ก่อนเกิดเหตุคุณตาได้มานั่งที่กระท่อมริมสระน้ำตามปกติ โดยทางนายธีรภัทร ได้ไปนั่งเล่นด้วยตามปกติของหลานกับตา จนกระทั่งตนเองได้ยินเสียดังผิดปกติดังตุ๊บๆ หลายครั้ง ทีแรกคิดว่านายธีรภัทร ทำร้ายสุนัขที่เลี้ยงไว้ แต่สุนัขเห่าผิดปกติ จึงคิดว่านายธีรภัทร ไปเตะสุนัข จึงออกจากบ้านมาดู พบนายธีรภัทรถือหัวตาอยู่ เมื่อตนตั้งสติได้ จึงบอกให้นายธีรภัทร นำศีรษะตาไปไว้ที่ร่าง นายธีรภัทร จึงได้นำศีรษะไปวางไว้ ก่อนที่จะไปนอนที่เปลด้านหลังของร่างคุณตา และนอนสูบบุหรี่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งนี้ เมื่อ 2 วันที่ ผ่านมา ตนเองแอบเห็น นายธีรภัทร เสพยาบ้า จากนั้นก็จะนั่งสูบบุหรี่ไม่กินข้าวกินปลา และไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุแบบนี้ 

ด้าน พ.ต.ท.สำเนียง สำโรงพล รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตำรวจได้ไปค้นห้องนอนของนายธีรภัทร พบว่ามียารักษาอาการทางประสาทของนายธีรภัทร ภายหลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชราชนครินทร์ขอนแก่น โดยเข้ารักษาตัวล่าสุดเมื่อเดือน เม.ย.67 ที่ผ่านมา แต่นายธีรภัทร ไม่ค่อยได้กินยา เพราะปกติแม่จะเป็นผู้จัดยาให้ แต่แม่ต้องเดินทางไปขายของทุกวัน ทำให้นายธีรภัทร ไม่ได้กินยารักษาอาการทางประสาทอย่างสม่ำเสมอ 

และจากการสอบสวน เบื้องต้น นายธีรภัทร ยอมรับว่าใช้มีดปาดคอตาจริงและให้การเพียงว่าเครียด ก่อนจะเงียบขรึมไม่ยอมพูดจาใดๆ ซึ่งมูลเหตุการลงมือสังหารคุณตา คาดว่าไม่ยอมกินยารักษาอาการจิตเวช และจากการตรวจปัสสาวะนายธีรภัทร ไม่พบว่ามีสารเสพติดในร่างกายแต่อย่างใด ตำรวจได้เตรียมแจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” 

จากนั้นตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 4 ได้เดินทางมาเก็บตัวอย่าง DNA ในร่างกายของนายธีรภัทร และที่มีดพร้าที่ใช้ก่อเหตุ เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีตามกฎหมาย กับนายธีรภัทรต่อไป

ต่อมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่จุดเกิดเหตุที่กระท่อมนาของผู้เสียชีวิต ซึ่งพบว่ายังมีคราบเลือดกระเซ็นไปทั่วพื้น และบนเก้าอี้ โดยชาวบ้านได้นำดินมาปกคลุมกองเลือดบริเวณเก้าอี้เอาไว้ และพบว่าบริเวณที่นาของผู้เสียชีวิตมีสัตว์เลี้ยง ทั้งสุนัข ไก่ ปลา และควาย 

จากนั้น ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของนายสาย ชัยอาจ (ผู้เสียชีวิต) โดยพบว่าญาติๆของผู้เสียชีวิต และชาวบ้านต่างจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ท่ามกลางความสะเทือนขวัญของชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะญาติๆ ซึ่งต่างอยู่ในอาการโศกเศร้าที่คุณตาสาย ถูกหลานรักฆ่าตาย 
.
โดยผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นางมะลิวรรณ ชัยอาจ อายุ 54 ปี  (ลูกสาวของคุณตาผู้เสียชีวิต และเป็นป้าของผู้ก่อเหตุ)  เล่าว่า น้องเขยมาเล่าให้ฟังว่า หลานถือหัวตาไปหาน้องเขย บอกว่าตัวเองฆ่าตา น้องเขยจึงบอกให้เอามาคืน ซึ่งตอนเกิดเหตุนั้น น้องเขยได้ยินเสียงฟัน แต่ไม่รู้ว่าเสียงอะไร เป็นเสียงดังตุบๆ และเอะอะ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นลูกเลี้ยงฆ่าตาตัวเอง มารู้ตอนที่เอาศีรษะตามาให้ดู ซึ่งหลานชายคนนี้กินยาจิตเวชมานานแล้ว เมื่อก่อนจะมีอาการหูแว่วได้ยินว่าคนนั้นคนนี้จะมาฆ่า ก็ถือมีดออกมาโวยวายอาละวาดบ่อยๆ ก่อนจะมากินยา อาการก็ลดลง 

แต่ครั้งนี้คาดว่าจะหลานชายไม่ยอมกินยา แต่ตนเองได้ยินตาพูดอยู่ว่าหลานคงโกรธให้ตา เพราะไปว่าหลานแต่ไม่เป็นรู้เรื่องอะไร และไม่เห็นมาสองวันแล้ว ปกติหลานจะมานอนเล่นกับตาเป็นประจำ ตารักหลานชายมากเพราะไม่มีลูกชาย ส่วนหลานชายก็รักตามาก ซึ่งหลังเกิดเหตุเหมือนไม่มีสติแล้ว แต่รู้ตัวว่าตัวเองฆ่าตา แต่ไม่พูดอะไร สีหน้านิ่งเฉย ไม่พูดไม่จา กวาดสายตามองไปรอบๆ ดูชาวบ้านที่มา และตำรวจที่มาควบคุมตัว แต่แม่ของหลานชายบอกว่าหลานไปเสพยาบ้า จึงไม่ได้ให้กินยาจิตเวชเพราะกลัวว่าฤทธิ์ยาจะตีกัน และก็ไม่มีใครทราบว่าไปเสพยาตอนไหน เพราะแอบเล่น เรื่องดังกล่าวถือเป็นอุทาหรณ์ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวตัวเอง เห็นแต่ที่อื่น