กองทัพอากาศยูเครน ระบุว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ลูกหนึ่ง จากแคว้นอัสตราคานช่วงเช้ามืดวันพฤหัสบดี (21 พฤศจิกายน) โดยพุ่งเป้าเมืองดนีโปร ทางภาคตะวันออกของยูเครน นอกจากนี้ยังมีการยิงขีปนาวุธหลายชนิดโจมตีเมืองนี้ และสำนักงานกิจการฉุกเฉินแห่งรัฐของยูเครน เผยแพร่ภาพอาคารพักอาศัยหลังหนึ่งเกิดไฟลุกไหม้ และความเสียหายของศูนย์ฟื้นฟูผู้พิการในเมืองดนีโปร
แต่รัสเซียยังไม่แสดงความเห็นต่อข่าวนี้ ซึ่งหากอาวุธที่ใช้เป็น ICBM ที่มีพิสัยการยิงไกลหลายพันกิโลเมตรจริง ก็นับเป็นครั้งแรกที่รัสเซียใช้อาวุธชนิดนี้นับจากเริ่มเปิดฉากสงครามในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ขณะที่เจ้าหน้าที่ของชาติตะวันตกคนหนึ่ง บอกว่า ขีปนาวุธดังกล่าวไมใช่ขีปนาวุธข้ามทวีป
นอกจากนี้กองทัพยูเครนยังอ้างว่า สามารถยิงทำลายขีปนาวุธร่อนชนิด Kh-101 ของรัสเซียจำนวน 6 ลูก
ข่าวการโจมตีของรัสเซียมีขั้นหลังจากยูเครนเพิ่งถูกระบุว่า ยิงขีปนาวุธพิสัยไกล “สตอร์ม ชาโดว์ ของอังกฤษ โจมตีแคว้นคูสค์ของรัสเซียเป็นครั้งแรกในวันพุธ หลังได้รับอนุญาตจากอังกฤษให้ใช้อาวุธชนิดนี้โจมตีในดินแดนรัสเซียได้ และเกิดขึ้นเพียง 1 วัน หลังยูเครนยิงขีปนาวุธพิสัยไกล ATACMS ของสหรัฐฯ ถล่มแคว้นเบรียนสก์ของรัสเซียเป็นครั้งแรก และรัสเซียขู่ว่าจะตอบโต้ชาติตะวันตก หลังอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีดินแดนรัสเซีย
ในวันนี้กระทรวงกลาโหมของรัสเซีย อ้างว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถยิงทำลายขีปนาวุธร่อน สตอร์ม ชาโดว์ ที่ผลิตโดยอังกฤษ 2 ลูก รวมทั้งทำลายจรวด HIMARS จำนวน 6 ลูก และโดรนอีก 67 ลำ
ด้านคริสตอฟ ซาเลย์ โบโบรฟนิซกี รัฐมนตรีกลาโหมของฮังการี ประกาศจะติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศใกล้พรมแดนที่ติดกับยูเครน โดยอ้างภัยคุกคามที่เพิ่มมากขึ้นจากการสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน