14 เมษายน 2568 เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ สน.วังทองหลาง นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานอนุกรรมการคลินิกช่าง ภายใต้สภาวิศวกร และวุฒิสมาชิก สาขาวิศกรรมสิ่งแวดล้อม ได้เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อไปให้ปากคำเพิ่มเติม กรณีถูกอ้างชื่อว่า เป็นวิศวกรควบคุมงานก่อสร้างอาคาร สตง. ที่พังถล่มลงมาจากเหตุแผ่นดินไหว โดยมีตำรวจ สน.บางซื่อ เดินทางมาร่วมสอบด้วย
นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานอนุกรรมการคลินิกช่าง ที่ถูกแอบอ้างชื่อคุมสร้างตึก สตง.
นายสมเกียรติ เปิดเผยว่า เมื่อปี 2563 มีคนรู้จักในบริษัท PKW ติดต่อมาชักชวนให้เข้าร่วมเป็นวิศวกรควบคุมโครงการดังกล่าว เนื่องจากตนเองเป็นวิศวกรระดับสูง ที่มีวุฒิวิศวะ 2 สาขา คือ วิศวกรโยธา และวิศวกรสิ่งแวดล้อม แต่ยังไม่ทันจะได้ตกลง อีกฝ่ายก็เงียบหายไป ตนเองสงสัยว่า อาจเพราะการว่าจ้างวิศวกรที่มี 2 คุณวุฒิ มีค่าจ้างสูงตั้งแต่หลักแสนจนถึงหลักล้าน หากว่าจ้าง 5 ปี ก็เป็นเงินหลายล้านบาท จึงไม่ว่าจ้างตนเองแล้ว
นายสมเกียรติ กล่าวว่า กระทั่งมาทราบหลังอาคาร สตง. ถล่ม และปรากฎชื่อตนเองเป็นวิศวกรควบคุมโครงการของอาคารดังกล่าว ซึ่งเรื่องค่าจ้างสูง ก็อาจเป็นสาเหตุที่มีการแอบอ้างชื่อตนเอง แต่ไม่ได้ว่าจ้างจริง พร้อมทั้งกล่าวยืนยันว่า "ตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาคาร สตง. ไม่ได้เซ็นคุมงานใดๆ มานาน 20 ปีแล้ว หลังรับทราบก็ได้ตรวจสอบไปทางสภาวิศวกร ก็ไม่ปรากฎชื่อว่าตนเองรับงานใด ๆ
ซึ่งเมื่อตนเองโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ทางบริษัท PKW ก็ติดต่อมา ว่าจะทำอะไรได้บ้าง แลกกับการที่ตนจะไม่ดำเนินคดี แต่ตนเองเห็นว่าเรื่องนี้ยอมไม่ได้ เป็นการแอบอ้างชื่อและปลอมลายเซ็นตนเองมานานถึง 5 ปี ตนจึงไม่คุย และเข้ามาลงบันทึกประจำวันต่อพนักงานสอบสวนตำรวจ แต่เรื่องที่จะดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว ที่แอบอ้างชื่อและปลอมลายเซ็นตนหรือไม่นั้น ยังต้องขอปรึกษากับนักกฎหมายก่อน เนื่องจากยังกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในดำเนินการต่าง ๆ ทางศาล
นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานอนุกรรมการคลินิกช่าง ที่ถูกแอบอ้างชื่อคุมสร้างตึก สตง.