26 มีนาคม 2568 เปิดโปงขบวนการทุจริตยา โรงพยาบาลทหารผ่านศึก ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. , พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมกำลัง ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) , สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) , สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) , องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) และ กรมบัญชีกลาง ร่วมกันสืบสวนจับกุมขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก
1. แพทย์หญิงบรินดา อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 38/68 เจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่ บ้านพัก ในซอยสุคนธสวัสดิ์ 3 แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
ถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน
2. พันเอกหญิงกัญญารัตน์ อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 39/68 ถูกจับกุมที่บ้านพักข้าราชการทหาร แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ
3. นายสมปราช อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 40/68
4. ร้อยตรีหญิง ภาวนา อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 41/68
โดยผู้ต้องหาที่ 3-4 ถูกจับกุมที่ บ้านพัก ในต.ประจันตคาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี
5. นางสาวสุรีย์ อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 42/68
6. นายสมพงศ์ อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 43/68
โดยผู้ต้องหาที่ 5-6 ถูกจับกุมที่ บ้านพักบริเวณถนนแสงจันทร์-รูเบีย แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
7. นายทินกร อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 44/68 ถูกจับกุมที่ สภ.เมืองลพบุรี ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี
8. นางอภิญญา อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 45/68 ถูกจับกุมที่ โรงพยาบาลอานันทมหิดล ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี
โดยผู้ต้องหาลำดับที่ 2-8 ถูกดำเนินคดีในข้อหา
ผู้อำนวยการองค์การทหารผ่านศึก เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(ปปป.) ให้ดำเนินการคดีกับแพทย์หญิงบรินดา กับพวก กรณีมีขบวนการทุจริตยาของโรงพยาบาล เพื่อนำไปขายต่อให้กับบุคคลภายนอก
จากการรวบรวมพยานหลักฐานได้ความว่า เมื่อปี 2561 ถึง 2568 พญ.บรินดา ขณะดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลทหารผ่านศึก (ฝ่ายการแพทย์) และปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ชำนาญการ โรงพยาบาลทหารผ่านศึก มีหน้าที่ในการวินิจฉัยและรักษาอาการผู้ป่วยทั่วไป ได้กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เป็นลักษณะของการแบ่งหน้าที่ทำกับ พ.อ.หญิง กัญญารัตน์ และพวก
โดย พ.อ.หญิง กัญญารัตน์ ทำหน้าที่ชักชวนกลุ่มบุคคลในลักษณะเครือข่ายแม่ทีม และลูกข่ายในพื้นที่ จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่มีสิทธิเบิกจ่ายตรงในการรักษาพยาบาลกับกรมบัญชีกลาง ตระเตรียมวางแผนให้ผู้เข้าร่วมขบวนการที่จะมาตรวจรักษากับ พญ.บรินดา ว่าจะต้องแจ้งกับพยาบาลว่าอย่างไร แต่ละรายจะต้องทานอะไรมาก่อน ต้องแจ้งแพทย์ว่ามีอาการอย่างไร จะต้องขอยาอะไรเพิ่มบ้างเพื่อให้ได้ ยาแผนปัจจุบันมา
แล้วนำยาดังกล่าวทั้งหมดไปขายเพื่อนำเงินที่ได้มาแบ่งให้กับผู้ร่วมขบวนการในการทุจริตยาของ รพ.ทหารผ่านศึก
ลูกทีมแต่ละคนจะได้รับค่าตอบแทนรายละ 500 บาทต่อครั้ง และหากนำยาออกมาจากโรงพยาบาลจะได้ค่าจ้าง 10% จากยอดเงินตามใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล หรือตามที่แม่ทีมได้ตกลงกับลูกทีมในแต่ละรายไว้
ส่วนแม่ทีมจะได้ค่าตอบแทนจาก พ.อ.หญิง กัญญารัตน์ เป็นรายหัวตามจำนวนลูกทีม หัวละ 1,500 บาท อีกทั้งและมีการจัดหารถรับส่งคนมาพบแพทย์ที่รพ.ทหารผ่านศึกด้วย
จากการสืบสวนทราบว่า ในขบวนการนี้มีแม่ทีมทั้งหมด 6 สาย แต่ละสายมีลูกทีมประมาณ 80-100 คน วนเวียนมาพบ พ.ญ.หญิง บรินดา ตามนัดเพื่อรับยาและเมื่อได้ยามาแล้ว แม่ทีมจะเก็บยาทั้งหมด ใบเสร็จ และใบนัด นำไปมอบให้กับ พ.อ.หญิง กัญญารัตน์ หรือบางครั้ง พ.อ.หญิง กัญญารัตน์ จะมารับยาจากแม่ทีม พร้อมทั้งจ่ายเงินให้กับแม่ทีม
หาก พ.อ.หญิง กัญญารัตน์ ไม่ได้มารับยาด้วยตนเอง ก็จะให้แม่ทีมนำยาไปส่งให้ที่แฟลต หรือคอนโดมิเนียม ตามที่ พ.อ.หญิง กัญญารัตน์ แจ้งให้ทราบ
ในรายที่ลูกทีม ไม่มาพบหมอตามนัด แม่ทีมจะไปขอบัตรประจำตัวประชาชนของลูกทีม เพื่อนำไปเปิดสิทธิของรับยาแทน โดยจะจัดหาคนไปรับยาแทน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลูกทีมที่ต้องเข้าไปพบแพทย์ในวันนั้น หรือบางครั้งก็เป็นตัวแม่ทีมไปยื่นขอรับยาแทนลูกทีม ซึ่งลูกทีมที่ไม่ได้ไปรับยาก็จะได้ค่าตอบแทนด้วย แต่อาจจะถูกหักค่าตอบแทนบางส่วน เพื่อนำไปให้กับคนที่ไปรับยาแทนตนเอง
ขบวนการนี้มีการนำยาที่ได้จากลูกทีมทั้งหมด ไปขายต่อตามร้านขายยาในท้องตลาด ลูกทีมทั้งหมด ไม่มีผู้ใดได้รับยาที่ได้จาก รพ.ทหารผ่านศึก ไปรับประทานเลย โดยลูกทีมที่มีอาการป่วย และต้องการยาในการรักษา จะต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอื่นหรือโรงพยาบาลเดิมที่ตนรักษาตัวอยู่ก่อนแล้ว ตามที่อยู่ของลูกทีม จะพบว่าประวัติการรักษาของลูกทีมเหล่านี้จะมีอาการเจ็บป่วยน้อยกว่าประวัติการรักษา ที่ รพ.ทหารผ่านศึก
หลังรับแจ้งความแล้ว บก.ปปป. ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย และขอหมายค้น เข้าตรวจค้น 17 จุด ในเขตพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี , นนทบุรี , ชลบุรี , ปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร พร้อมจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดี
เบื้องต้น ผู้ต้องหาทุกรายให้การปฏิเสธ ตลอดข้อกล่าวหา