26 มีนาคม 2568 จากกรณีเมื่อวานนี้ ( 25 มี.ค.2568) เวลา 10.20 น. ร.ต.อ.บุญเลิศ หวานแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.กันตัง จ.ตรัง ได้รับแจ้งจาก นายวิเชฐ ปราบเสร็จ ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง ว่ามีเหตุยิงกันตายในสวนยางพารา ทางไปท่าเรือท่าปลิง-บ้านควนกลาง ม.5 ต.บางสัก หลังรับแจ้ง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ประดิษฐ ชัยพล ผกก.สภ.กันตัง พ.ต.ท.นัทธพงศ์ ใจสมุทร รอง ผกก.(สส.) สภ.กันตัง พ.ต.ท.ปราโมทย์ สังข์ทอง รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ชนพัฒน์ ทองขำดี สว.สส. ฝ่ายปกครองท้องที่ ตร.พิสูจน์หลักฐาน จ.ตรัง แพทย์เวร รพ.กันตัง หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง จุด อ.กันตัง
ที่เกิดเหตุอยู่กลางสวนยางพารา พบร่างผู้เสียชีวิต คือ นายรุ่งเรือง นาควงศ์ หรือ "บ่าวรุ่ง" อายุ 33 ปี นอนจมกองเลือดสภาพหงายท้อง สวมเสื้อนักกีฬาสีม่วง นุ่งกางเกงยีนส์แบบตัดขา สวมรองเท้ายางแบบหุ้มข้อ มีรอยสักตรงขอบตา และแขนทั้งสองข้าง ตรวจสอบพบถูกยิงด้วยอาวุธปืน ชนิดออโตเมติกไม่ทราบขนาด เข้าที่บริเวณกกหูซ้าย จำนวน 2 นัด นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ จำนวน 4 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามญาติ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ถือถุงใบกระท่อมออกมาจากบ้าน เพื่อนำไปขายลูกค้าที่โทรเข้ามาสั่งซื้อตามปกติ ตั้งเวลาตอนย่ำรุ่งในวันเกิดเหตุ กระทั่งช่วงเช้าเวลา 08.30 น.วันเกิดเหตุ มีชาวบ้านที่ออกไปหาเห็ดพบศพ "บ่าวรุ่ง" นอนตายในสวนยาง จึงโทรมาบอกญาติ และโทรแจ้งผู้ใหญ่บ้านประสานไปยังเจ้าหน้าที่ ตร.เข้ามาตรวจสอบ คาดว่า "บ่าวรุ่ง" เสียชีวิตมาแล้วหลายชั่วโมง เบื้องต้น ตร.สันนิษฐานว่า สาเหตุโดนยิงมาจากปัญหาความขัดแย้งเรื่องยาเสพติด เนื่องจากผู้ตายมีประวัติพัวพันกับเรื่องยาเสพติด และเคยถูกจับกุมดำเนินคดีบ่อยครั้ง
จากการตรวจสอบประวัติคดีอาญาของผู้ตาย พบว่า
ต่อมาเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน สภ.กันตัง ได้เรียกพยานมาสอบปากคำ และแกะรอยข้อมูลจนทราบตัวกลุ่มผู้ต้องสงสัยโพสต์ลงสเตอรี่กับกลุ่มเพื่อนหลังก่อเหตุ จึงนำกำลังเข้าไปตรวจค้นบ้านร้างไม่มีเลขที่ ถ.เขื่อนเพชร ต.กันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง ก่อนแสดงตัวเข้าจับกุม นายมอส อายุ 14 ปี และ นายบอล อายุ 15 ปี (ชื่อเล่น) พร้อมยึดของกลาง อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อ LAMA ไม่มีหมายเลขทะเบียน ขนาด.32 จำนวน 1 กระบอก ยึดปลอกกระสุนปืน ขนาด.32 จำนวน 4 ปลอก และพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ110 สีดำ 1 คัน
เบื้องต้น ได้แจ้งข้อกล่าวหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่น,พกพาอาวุธปืน,เครื่องกระสุนปืนไปในทางสาธารณะ เมือง หมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร" และได้สอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา สาเหตุมาจากความขัดแย้งส่วนตัวเรื่องยาเสพติด อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะร่วมกับสหวิชาชีพ เพื่อสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.กันตัง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ความคืบหน้าล่าสุด เช้าวันนี้ เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสำนักสงฆ์หว้าทอง ต.บางสัก พบว่าทางญาติกำลังตระเตรียมสถานที่จัดงานบำเพ็ญกุศลศพ ระหว่างรอศพส่งไปผ่าพิสูจน์ที่ รพ.สงขลานครินทร์ (ม.อ.) สงขลา ทราบว่าจะกลับมาเวลา 15.00 น.วันพรุ่งนี้ สอบถาม นางขวัญอ่อน นาควงศ์ อายุ 55 ปี อาชีพแม่ค้าขายปลายในตลาดนัด (แม่ของผู้ตาย) เปิดเผยว่า ตนเองทราบข่าวการตายของลูกเวลา 09.00 น. ก่อนเกิดเหตุมีคนมารับผู้ตายออกไปเมื่อ เวลา 03.04 นาที หัวรุ่งวันเกิดเหตุ ผู้ตายเป็นลูกคนที่ 2 มีลูก 1 คนได้เลิกรากับภรรยา ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีการพูดคุยถึง หรือเอ่ยปากเล่าถึงปัญหาอะไรกับแม่เลย ซึ่งผู้ตายไม่ได้ทำงานเป็นหลักแหล่ง ใครว่าจ้างอะไรก็ไปทำ เช่น ทำสวน แม่ก็ยังติดใจ เชื่อว่าเด็ก 2 คน ไม่มีกำลัง เรี่ยวแรงที่จะฆ่าคนตายได้ น่าจะมีคนอื่นร่วมด้วย ซึ่งดูจากจุดที่เกิดเหตุห่างจากบ้านผู้ตาย 5 กม. ก่อนหน้านี้ยอมรับว่าลูกชายเคยต้องคดียาเสพติด แต่ก็นานมาแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนโทรเข้ามาสั่งซื้อใบกระท่อม ก่อนที่ผู้ตายจะนำไปส่ง โดยมีรถ จยย.ขับมารับ กระทั่งมาพบกลายเป็นศพโดนยิงในสวนยาง เชื่อเป็นการวางแผนล่อออกมายิง ไม่ใช่มือปืนวัยโจ๋ทั้ง 2 ราย คิดวางแผนเพียงลำพัง
ด้าน พ.ต.ท ผจญ เนียมรินทร์ รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.กันตัง พร้อมเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ร่วมกันสอบปากคำ 2 เยาวชนชาย อายุ 14 ปี และ 15 ปี หลังได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงนายรุ่งเรือง เสียชีวิต โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบผู้ตายในสภาพถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ ส่วนบริเวณหน้าผากถูกตีด้วยของแข็ง และบริเวณลำคอถูกแทง 1 แผล
ทั้งนี้ ในการสอบปากคำเยาวชนทั้้ง 2 โดย มีแม่ร่วมรับฟังด้วย เบื้องต้นทราบว่าสาเหตุเกิดจากปัญหาความขัดแย้งภายในแก๊งเรื่องยาเสพติด โดยพื้นที่เกิดเหตุเป็นสวนยางพาราและขนำอยู่หนึ่งหลังริมคลอง ซึ่งเยาวชนชายและผู้ตาย มักไปพบปะและมั่วสุมกันที่ขนำดังกล่าวบ่อยครั้ง คาดว่าน่าจะทะเลาะกันก่อน ก่อนที่จะมีการทำร้ายร่างกายผู้ตาย และผู้ตายได้วิ่งหนีจนกระทั่งมาถูกยิง และเสียชีวิตในจุดที่พบศพ
โดยเยาวชนทั้ง 2 คน ไม่ได้เรียนหนังสือแล้ว ส่วนชนวนเหตุที่แท้จริง รวมทั้งอาวุธปืนที่เยาวชนครอบครองได้มาจากไหน หรือใครให้มา ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผย บอกว่า ต้องรอความชัดเจนหลังการสอบปากคำของทีมสหวิชาชีพ และเตรียมนำตัวเยาวชนทั้ง 2 คน ส่งสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดตรังต่อไป ขณะที่ศพผู้ตายทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งไปตรวจพิสูจน์ และเก็บหลักฐานที่ รพ.สงขลานครินทร์สงขลา