รวบแล้ว 2 ใน 7 แก๊งไอ้โม่งทำร้ายสาวลาวปล้นทรัพย์ ไม่ใช่มาเฟีย

จากกรณีเมื่อวันที่ 2 ก.พ.2568 ที่ผ่านมาเกิดเหตุ กลุ่มคนร้ายจำนวน 7 คน เป็นผู้หญิง 1 คน และชายฉกรรจ์ 6 ราย สวมไอ้โม่งปิดบังใบหน้า แล้วดักซุ่มทำร้าย น.ส.แววตา เจริญสุข อายุ 26 ปี สัญชาติลาว โดยพฤติกรรมสุดอุกอาจ มีคนใช้อาวุธปืนคุมเชิงดูต้นทาง แล้วผู้หญิงเปิดฉาก ตบ ทำร้ายร่างกาย ใช้มีดกรีดใบหน้า มิหนำซ้ำชายฉกรรจ์ยังลงมือเตะราวกับโกธรแค้นอย่างมาก จนสาวลาวได้รับบาดเจ็บ ก่อนชิงเอาเงินสด 7,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง พาสปอร์ต และกุญแจรถจักรยานยนต์ไป เหตุเกิดภายในซอยเทพประสิทธิ์ พัทยา สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้เสียหายเป็นอย่างมาก ก่อนจะนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปร้องขอความช่วยเหลือกับ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ "กัน จอมพลัง" ซึ่งมาติดตามความคืบหน้าที่ สภ.เมืองพัทยา เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา 

26 มีนาคม 2568 ความคืบล่าสุด เมื่อเวลา เวลา 21.00 น. เมื่อวานนี้ (25 มี.ค.2568) พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วย พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้นำตัว 2 ผู้ต้องหา จากทั้งหมด 7 ราย มาสอบปากคำที่ สภ.พัทยา ทราบชื่อคือ น.ส.ฤทัย สุ่มเข็มทอง หรือ "กิ๊ฟ" อายุ 23 ปี ผู้รับงานจ้างและทำร้ายผู้บาดเจ็บ และ นาย พีรรัช อยู่สบาย หรือ "โอม" อายุ 28 ปี โดยเจ้าหน้าที่สามารถติดตามไปจับกุมตัวได้ที่ ห้องพักแห่งหนึ่งย่านพัทยากลาง พร้อมรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุนำไปพ่นสีทับ เป็นรถ จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จากสีแดง ดำ เป็นสีเทา เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ 

พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา กล่าวว่า ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ รู้ตัวผู้ต้องสงสัยแล้วทั้งหมด 9 คน แบ่งเป็นผู้ชี้เป้า 2 คน และผู้ก่อเหตุ7 คน ไม่มีกลุ่มแก๊งต่างชาติมาเฟียอย่างที่เป็นข่าว เป็นแค่กลุ่มวัยรุ่นและเยาวชน ที่รับจ้างมาทำร้าย หลังจากที่มีปัญหากัน เรื่องขัดผลประโยชน์กันในเรื่องค้าขายภายในตลาด มั่นใจว่าอีกไม่นานนี้ ชุดสืบ สภ.เมืองพัทยา จะสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุที่เหลือมาดำเนินคดีได้ทั้งหมด

ทั้งนี้ นายพีรรัช อยู่สบาย หรือ "โอม" 1 ในผู้ก่อเหตุได้กล่าวว่า พวกตนได้รับงานว่าจ้างมาจากนายซาเมา โดย น.ส.ฤทัย สุ่มเข็มทอง หรือ "กิ๊ฟ" เป็นผู้รับงานมา ให้มาสั่งสอนผู้บาดเจ็บ โดยมีแค่ น.ส.กิ๊ฟ เป็นผู้ทำร้ายเท่านั้น ส่วนผู้ชายที่ไปด้วยเป็นแค่คนยืนคุมเชิง และไม่ทราบว่าหนึ่งในผู้ก่อเหตุหยิบโทรศัพท์มือถือไป ส่วนเงินจำนวน 7,000 บาท ที่ผู้บาดเจ็บอ้างว่าถูกขโมยไปนั้น พวกตนไม่ได้เอาไปเลย

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อกล่าวหา "ร่วมกันปล้นทรัพย์ และทำร้ายร่างกายผู้อื่น" ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.เอนก ยืนยันว่า แต่ละเคสไม่เคยนิ่งนอนใจ ดำเนินการตามจับกุมให้ประชาชนทุกเคส แต่บางเคสต้องใช้เวลา เนื่องจากต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นพอก่อนจะออกหมายจับและดำเนินคดี จากนั้น ทาง ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้มอบสินน้ำใจให้กับชุดสืบสวนที่คลี่คลายคดี เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ