svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เบื้องลึกศูนย์บำบัดยาเสพติด ชุบชีวิตผู้หลงผิด I Nation Crime

24 มีนาคม 2568
เกาะติดข่าวสาร >> NationTV
logoline

เจาะเบื้องลึก ศูนย์บำบัดยาเสพติด กระบวนการชุบชีวิตผู้เสพคืนสู่สังคม ฟังเสียงสะท้อนผู้เคยหลงผิด จนมีชีวิตใหม่ I Nation Crime

การปราบปรามยาเสพติด จัดเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ในการยกระดับการซิลพื้นที่ชายแดนเพิ่มมากขึ้น โดยเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน ในพื้นที่ 14 จังหวัด แบ่งเป็นจังหวัดที่ติดกับประเทศเมียนมา 4 จังหวัด  คือ กาญจนบุรี  ตาก แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่  จังหวัดที่ติดกับประเทศลาว 10 จังหวัด คือ เชียงราย พะเยา น่าน เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี

 

เบื้องลึกศูนย์บำบัดยาเสพติด ชุบชีวิตผู้หลงผิด I Nation Crime

 

นอกจากการปราบปรามผู้ค้ายาเสพติดในทุกระดับแล้ว การแก้ไขปัญหาด้านผู้เสพยาเสพติดก็สำคัญไม่แพ้กัน

 

Nation Crime โฟกัสศูนย์บำบัดยาเสพติด เพื่อคืนชีวิตใหม่ให้กลุ่มคนหลงผิด ดึงผู้ที่อยู่ในวงจรนี้กลับคืนสู่สังคม ที่ต้องยอมรับว่าไม่ง่ายและต้องใช้ความอดทนสูงสุด   

พื้นที่ ที่น่าสนใจในการนำร่องโครงการบำบัดผู้ป่วยยาเสพติด ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพ หรือ ป.ป.ส. คือ จ.บึงกาฬ เป็นเขตพื้นที่รอยต่อ ระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง จ.บึงกาฬ ถือเป็นหนึ่งพื้นที่สำคัญ เนื่องจากอยู่ใกล้ชายแดน การหาซื้อเป็นเรื่องที่ง่ายดาย ส่งผลให้คนในพื้นที่ ใช้ยาเสพติดมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ ทำให้การตั้งศูนย์บำบัดผู้ป่วยจากยาเสพติดมีความสำคัญ

 

เบื้องลึกศูนย์บำบัดยาเสพติด ชุบชีวิตผู้หลงผิด I Nation Crime
 

ความน่าสนใจของ จ.บึงกาฬ คือ เป็นจังหวัดที่อยู่ตรงข้าม แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว เป็นพื้นที่พักยาเสพติดที่สำคัญ มี 4 อำเภอ ที่ติดกับเส้นชายแดนที่มีแม่น้ำโขงกั้น ประกอบด้วย อำเภอปากคาด อำเภอเมือง อำเภอบุ่งคล้า และ อำเภอบึงโขงหลง

 

วุฒิชัย ชัยภูวนารถ  นายอำเภอปากคาด จ.บึงกาฬ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดยังคงมีอยู่  อำเภอปากคาด มีสภาพติดพื้นที่ชายแดน 13 กิโลเมตร ตำรวจทหารในพื้นที่ก็พยายามสกัดกั้น ยาเสพติดที่จะทะลักเข้ามาในเขตประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนพื้นที่ชั้นในจะเป็นหน้าที่ของตำรวจและฝ่ายปกครอง จากการจับยาเสพติด การขนยาเสพติด จะเป็นความร่วมมือของคนทั้งสองฝั่ง จะมีคนของฝั่งไทยไปรับ หรือฝั่งของ สปป.ลาว มีการใช้เรือข้ามเข้ามาทางฝั่ง แนวชายแดนของเราตามอำเภอห้วยคลาด น้ำจะยกระดับขึ้น เขาจะสามารถใช้เรือข้ามเข้ามาในพื้นที่ชั้นไหน

Nation Crime โฟกัสกระบวนการบำบัดผู้ติดยาเสพติด เพื่อคืนชีวิตใหม่ให้กลุ่มคนหลงผิด ดึงผู้ที่อยู่ในวงจรนี้กลับคืนสู่สังคม ที่ต้องยอมรับว่าไม่ง่ายและต้องใช้ความอดทนสูงสุด   

 

พื้นที่ ที่น่าสนใจในการนำร่องโครงการบำบัดผู้ป่วยยาเสพติด ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพ หรือ ป.ป.ส. คือ จ.บึงกาฬ เป็นเขตพื้นที่รอยต่อ ระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง จ.บึงกาฬ ถือเป็นหนึ่งพื้นที่สำคัญ เนื่องจากอยู่ใกล้ชายแดน การหาซื้อเป็นเรื่องที่ง่ายดาย ส่งผลให้คนในพื้นที่ ใช้ยาเสพติดมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ ทำให้การตั้งศูนย์บำบัดผู้ป่วยจากยาเสพติดมีความสำคัญ
 

ความน่าสนใจของ จ.บึงกาฬ คือ เป็นจังหวัดที่อยู่ตรงข้าม แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว เป็นพื้นที่พักยาเสพติดที่สำคัญ มี 4 อำเภอ ที่ติดกับเส้นชายแดนที่มีแม่น้ำโขงกั้น ประกอบด้วย อำเภอปากคาด อำเภอเมือง อำเภอบุ่งคล้า และ อำเภอบึงโขงหลง

 

วุฒิชัย ชัยภูวนารถ  นายอำเภอปากคาด จ.บึงกาฬ วุฒิชัย ชัยภูวนารถ  นายอำเภอปากคาด จ.บึงกาฬ

 

วุฒิชัย ชัยภูวนารถ  นายอำเภอปากคาด จ.บึงกาฬ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดยังคงมีอยู่  อำเภอปากคาด มีสภาพติดพื้นที่ชายแดน 13 กิโลเมตร ตำรวจทหารในพื้นที่ก็พยายามสกัดกั้น ยาเสพติดที่จะทะลักเข้ามาในเขตประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนพื้นที่ชั้นในจะเป็นหน้าที่ของตำรวจและฝ่ายปกครอง จากการจับยาเสพติด การขนยาเสพติด จะเป็นความร่วมมือของคนทั้งสองฝั่ง จะมีคนของฝั่งไทยไปรับ หรือฝั่งของ สปป.ลาว มีการใช้เรือข้ามเข้ามาทางฝั่ง แนวชายแดนของเราตามอำเภอห้วยคลาด น้ำจะยกระดับขึ้น เขาจะสามารถใช้เรือข้ามเข้ามาในพื้นที่ชั้นไหน

 

วิถีชีวิตคนที่นี่ การเกษตรของเขาก็คือยางพาราเป็นหลัก วิถีชีวิตก็คืออาจจะต้องมีการตื่นเช้า ในการที่จะต้องเข้าไปกรีดยาง ทำมาหากินเป็นรายวัน หลายคนก็ต้องใช้ยาเสพติด เป็นตัวกระตุ้นตัวช่วย ในการทำงาน ตอนแรกก็คงไม่คิดว่ามันจะเกิดผลกระทบกับตัวเองมากมายขนาดนี้ อาจจะทำเพื่อประกอบอาชีพ พอหลังมาก็กลายเป็นเริ่มติดต้องเสพ

 

แล้วมันก็จะขยายไปถึงพวกเยาวชน เป็นปัญหาที่ต่อเนื่องยาวนาน พอใช้นานๆเข้าจากที่เคยใช้ๆหยุดๆได้ ตอนนี้มันไม่สามารถหยุดได้ ต้องเพิ่มปริมาณขึ้น ก็เกิดปัญหาทางจิตประสาท กลายเป็นผู้ป่วยจิตเวช เหมือนกับระเบิดเวลา ว่ามันจะระเบิดขึ้นมาในพื้นที่เมื่อไหร่

 

เบื้องลึกศูนย์บำบัดยาเสพติด ชุบชีวิตผู้หลงผิด I Nation Crime

 

Nation Crime ลงพื้นที่ ศูนย์นาคาล้อมรักษ์ จ.บึงกาฬ เป็นโมเดลแห่งแรกของประเทศ ในการดำเนินงานบำบัด รักษาผู้ป่วยยาเสพติดในระดับประเทศ ริเริ่มจากหน่วยงานท้องถิ่น และข้าราชการ เห็นปัญหาผู้เสพยาเสพติด ที่มีเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ จ.บึงกาฬ  และได้แรงหนุนงบประมาณจาก ป.ป.ส. ที่มีนโยบายในการแก้ไขปัญหาผู้ป่วยจิตเวช จากยาเสพติด ทำให้ก่อเกิดศูนย์บำบัดผู้ป่วยแบบครบวงจร

 

ตั้งแต่ผู้ป่วยจิตเวช  ที่มีอาการหูแว่ว จนไปถึงผู้ป่วยที่มีอาการคลุ้มคลั่ง นอกนี้ในพื้นที่ จ.บึงกาฬ ยังมีจัดตั้งค่ายฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ในพื้นที่ อ.ปากคาด อ.พรเจริญ และ อ.โซ่พิสัย โดยการบำบัดจะเป็นลักษณะการเข้าค่ายฟื้นฟู 120 วัน 60 วันแรกเป็นฟื้นฟูสมอง ทั้งในแง่ของการให้ยา และการพูดคุยทำความเข้าใจ  จากนั้น 60 วัน ต่อมา จะเป็นการฝึกอาชีพ เพื่อให้ผู้ป่วยนำไปต่อยอด หลังออกจากค่ายบำบัด

 

ลุงสายชล ลุงสายชล

 

ลุงสายชล ชายวัย 51 ปี หนึ่งในผู้ป่วยจิตเวช จากยาเสพติด เล่าว่า ใช้สารเสพติดต่อเนื่อง มานานกว่า 30 ปี  สาเหตุที่ใช้ยาเสพติด เพียงเพราะเป็นตัวช่วยในการทำงานกลึงเหล็ก แต่เมื่อใช้ติดต่อยาวนาน ส่งผลให้เกิดอาการหูแว่ว และโมโหร้าย ลูก และภรรยาเกิดความหวาดกลัว จนหนีออกจากบ้าน

 

“มีอาการหงุดหงิด ใครพูดอะไรก็รู้สึกอยากจะต่อยเพราะแค่คำพูดผิดหู ลูกค้ามาเร่งงานก็รู้สึกโมโห เกือบทำร้ายภรรยา ทะเลาะกันตลอดก่อนหน้านี้ภรรยาไม่มาหาเลย เขากลัว กลัวผมนี่แหละ ผมจะทำร้ายเขาไง แต่หลังจากบำบัดแล้ว ก็ไม่ได้ทะเลาะแล้ว

 

“มีอาการหงุดหงิดใจร้อนตั้งแต่อายุ 45 ปี ต่อยกันหลายทีกับภรรยา หลังบำบัดลูกก็โทรมาให้กำลังใจตลอด มีลูก 3 คน พ่อกำลังใจดีๆนะ น้ำตามันก็จะไหล ก็ลูกกับเมียนี่แหละที่ทำให้หยุด”ลุงสายชลเล่า

 

ร่องรอยหน้าต่างที่พังชำรุด และถูกตีปิดทับด้วยไม้กระดาน อย่างแน่นหนา  ล้อมลวดหนาม ที่อยู่บนกำแพง และล้อมรอบศูนย์นาคาล้อมรักษ์ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของโรงพยาบาลพรเจริญ เป็นผลมาจากการพยายามหลบหนีของผู้ป่วย ความพิเศษของศูนย์บำบัดแห่งนี้ คือ การบำบัดผู้ติดยาเสพติดขั้นรุนแรง

 

ณิชาพัชร์ หันดี พยาบาลวิชาชีพ ณิชาพัชร์ หันดี พยาบาลวิชาชีพ

 

ณิชาพัชร์ หันดี พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มงานจิตเวช และยาเสพติด เล่าถึงการดูแลผู้ป่วยจิตเวชจากยาเสพติด ว่า “มันไม่ใช่แค่งานหิน แต่มันเป็นงานที่ใหญ่มาก ผู้ป่วยที่มาที่นี่ จะเป็นผู้ป่วยที่มีอาการจิตเวชที่รุนแรง ควบคุมตัวเองไม่ได้ อาละวาด หูแว่ว พูดคนเดียว หรือแม้แต่เชื่อว่าตัวเองเป็นร่างอวตาล

 

“คนไข้ที่ใช้ยาเสพติดมักจะมีอาการเอะอะอาละวาด พูดบ่นคนเดียวไม่หลับไม่นอน ทำร้ายร่างกายครู จะทำร้ายพ่อแม่ ทำร้ายคนในครอบครัว บางคนก็มีหูแว่ว ภาพหลอน ได้ยินเสียงคนมาพูดมาคุย ยังมีความหลงผิดว่า ตัวเองเป็นนั่นเป็นนี่อยู่ บางคนเป็นองค์เทพก็มี บางคนเป็นพญานาค บางคนเป็นทหารเป็นพระ เป็นอะไร บางคนวันพระก็จะมีการมายืนฟ้อนรำ อาการพวกนี้ต้องมีการปรึกษาจิตแพทย์ เนื่องจากมันเป็นอาการทางจิต”ณิชาพัชร์ เผย

 

เบื้องลึกศูนย์บำบัดยาเสพติด ชุบชีวิตผู้หลงผิด I Nation Crime

 

โดยผู้ป่วยจิตเวช จากการใช้สารเสพติด แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ประกอบด้วย

  • สีแดง จะมีอาการรุนแรงทำร้ายร่างกายตัวเองและผู้อื่น อย่างบางคนได้ยินเสียงแว่วในหูมีคนมาสั่งให้ฆ่า หรือทำร้าย
  • สีส้ม จะมีอาการเดินไปเดินมา พูดจาวกวน  มีภาพหลอน ไม่หลับไม่นอน เที่ยวหวาดระแวง
  • สีเหลืองเกือบปกติ แต่จะมีอาการทางจิต ที่ยังสามารถควบคุมได้ 
  • สีเขียวจะเป็นพฤติกรรมของคนใช้ยาเสพติดปกติ แต่จะไม่มีอาการ

 

ขั้นตอนการจำแนกการดูแลผู้ป่วยจิตเวช จากยาเสพติด ที่มีอาการรุนแรง ขั้นแรกจะมีการระงับอาการอาละวาดด้วยการให้ยา ซึ่งฤทธิ์ของยา จะส่งผลให้ผู้ป่วย ง่วงซึม และมีฤทธิ์ในการต้าน ไม่เกิดความอยากยาเสพติด เมื่อผู้ป่วยมีสติพูดคุยได้ เจ้าหน้าที่จะเริ่มทำการพูดคุย ทำความเข้าใจ เพื่อให้ผู้ป่วยยอมรับความจริง และรู้ตัวว่ากำลังจะทำอะไรต่อไป ภายหลังการเข้ารักษา 14 วัน จะมีการ ประเมินสุขภาพจิต โดยจิตแพทย์ ว่า อาการของผู้ป่วยนั้นจะต้องได้รับการรักษาต่อ ในลักษณะของผู้ป่วยจิตเวชหรือสามารถเข้าสู่ศูนย์บำบัดฟื้นฟู

 

เราจะประเมินผู้ป่วย 3 ระดับ ตามความรุนแรง ถ้าระดับ 3 จะต้องมีการฉีดยา จะมีจิตแพทย์ที่โรงพยาบาลบึงกาฬมาดูแล ยาที่ฉีดจะเป็นยาควบคุมอาการ ให้คนไข้นอน เพื่อลดอาการรุนแรงตอนนั้น ให้คนไข้สงบก่อน เมื่อคนไข้มาถึงบางคนก็ตื่นเร็ว มีอาการสะลึมสะลือ หลังจากตื่น เราจะจัดที่ให้นอน

หลายครั้งที่ผู้ป่วยพยายามหนี ทั้งที่เจ้าหน้าที่ พยายามช่วยให้เขาออกมาจากขุมนรก หลายครั้งที่ผู้ป่วย กลับไปใช้ยาเสพติดอีก จนเกิดคำถามกับตัวเอง ว่า กำลังทำอะไรอยู่ หรือเราดูแลเขาได้ไม่ดีพอ ทุกครั้งที่เห็นผู้ป่วยกลับไปใช้ยาเสพติดซ้ำ ก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า อยากน้อยๆ ขอให้เขากลับมาหาเราอีกครั้ง เราจะช่วยพูด จะช่วยให้กำลังใจ รวมไปถึงรับฟัง และเข้าใจปัญหาชีวิตของเขา

 

เบื้องลึกศูนย์บำบัดยาเสพติด ชุบชีวิตผู้หลงผิด I Nation Crime

 

จากการพูดคุยกับ ผู้ป่วยที่เข้ามารักษาตัว  มีไม่กี่สาเหตุที่ผู้ป่วยเริ่มติดยาเสพติด รวมถึง หันกลับไปใช้ยาเสพติดซ้ำ คือ 1.ปัญหาครอบครัว 2.ไม่มีความรู้ หรือตระหนักถึงผลกระทบจากการใช้ยาเสพติด โดยมีสังคม และเพื่อนเป็นตัวกระตุ้น

 

“ตอนที่ผู้ป่วยกลับไปเสพซ้ำ เราก็รู้สึกว่า ที่เราทำมา มันคืออะไร เขาต้องการอะไร ทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ หรือเราให้การบริการไม่เพียงพอ แต่ถ้าจริงๆแล้วคือยังไม่เพียงพอ ต้องบำบัดต่อ เขาไม่ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากการใช้ยา ที่นี่ในชุมชนแทบทุกหลังคาเรือน วัยรุ่นไม่มีเป้าหมายอยากเลิก เขามองไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง พ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วย ไม่มีใครเอาใจใส่ ทำให้เขาติดเพื่อน” ณิชาพัชร์ กล่าว

 

นายเต้ นายเต้

 

ด้าน นายเต้  ผู้บำบัดยาเสพติดอีกคน กล่าวว่า เสพยามาตั้งแต่อายุ 16 ปี ตอนนั้นอยู่กับเพื่อน ก็เลยลองดู ใช้ยาวันละ 3 เม็ด เม็ดละ 50 บาท หาซื้อง่าย ความรู้สึกเหมือนกับว่า กระปรี้กระเปร่า ดึงพลังภายในของเราออกมาใช้ เหมือนมีแรงเยอะ กรีดยางได้ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ถึงสว่างเลย

 

ผมเคยเสพ ไม่หลับไม่นอน 3 วัน แม่ก็เลยแจ้งศูนย์ ทางตำรวจก็เลยมารับผมที่บ้าน มาส่งต่อบำบัด ตอนนี้ที่ยังอยู่ศูนย์บำบัด คือทำให้แม่ยิ้มได้จนกว่าแม่จะพอใจ ตอนนี้อยู่ด้วยความเต็มใจ ผมสมัครอยู่ต่อ และแม่อยากให้อยู่ด้วย ตอนนี้เลิกใช้ 100 เปอร์เซ็นต์ กลับบ้านไปก็ไม่อยาก ไม่หิวยา เคยคิดแว่บๆว่าอยากไปเสพอีก แต่ผมก็เปิดเพลงไม่อยากคิดถึงมัน

 

อารีภักดิ์ เงินบำรุง รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด อารีภักดิ์ เงินบำรุง รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

 

ด้าน น.ส.อารีภักดิ์ เงินบำรุง รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กล่าวว่า จริงๆแล้ว ปลายเหตุก็คือต้นเหตุ เพราะคนที่ปลายเหตุ พร้อมจะกลับเข้าไปสู่วงเวียนเดิมๆ ในขณะที่ เราทำบำบัดรักษานี่คือวงจรสุดท้าย

 

จากการตรวจเยี่ยมศูนย์บำบัดยาเสพติด ทั้ง 4 แห่ง ในพื้นที่ จ.บึงกาฬ  พบว่า นอกจากความเข้มแข็งของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งสาธารณะสุข ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ที่สำคัญ คือ คนในชุมชุน สังเกตได้จากการพยายามแจ้งเบาะแส รวมไปถึงการส่งลูกหลานเข้าคิวพักคอย เพื่อรอการเข้าบำบัด

 

อย่างไรก็ดี นอกจากการบำบัดและการฝึกอาชีพแล้ว การให้โอกาสจากสังคมถือเป็นส่วนสำคัญ และเป็นภูมิคุ้มกัน ให้คนเหล่านี้มีจิตใจที่เข้มแข็ง และไม่หันกลับไปเสพยาเสพติดอีก 

 

ชมคลิปรายการ Nation Crime

 

logoline