19 ธันวาคม 2567 พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. พร้อม พ.ต.อ.ปัญญา นิรัตติมานนท์ ผกก.สภ.เกาะพะงัน, พ.ต.อ.นฤวัต พุทธวิโร ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว การจับกุม นายเฟเดริโก้ หรือ MR.FEDERICO อายุ 36 ปี สัญชาติอิตาลี ในความผิดฐาน “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี, เอ็กตาซี) และยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) โดยไม่ได้รับอนุญาต, สมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน(มูลฐานยาเสพติด)และฟอกเงิน” และข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี,เมตแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย
พร้อมของกลางอื่นจำนวน 24 รายการ พร้อมอายัดบัญชีธนาคาร 1 บัญชี ยอดเงิน 6.6 ล้านบาท ที่ดินในนามบริษัทพิทยาแลนด์ จำกัด เนื้อที่ 2 ไร่เศษ จำนวน 1 แปลง มูลค่า 8 ล้านบาท ยึดรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า จำนวน 1 คัน และอยู่ระหว่างตรวจสอบที่ดินอีก 2 แปลง ซึ่งน่าจะถือครองในชื่อของบุคคลอื่น รวมทั้งธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่นายเฟเดริโก้ เป็นกรรมการว่า เข้าข่ายมีการประกอบในลักษณะนอมินีหรือไม่
นอกจากนี้ ยังสามารถขยายผลจับกุมนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่พบว่ามาซื้อยาเสพติดจากนาย เฟเดริโก้ ได้อีก 2 ราย คือ นายโรมัน หรือ MR.ROMAN อายุ 37 ปี สัญชาติฝรั่งเศส และนายแอนทอน หรือ MR.ANTON อายุ 39 ปี สัญชาติรัสเซีย สำหรับยาเสพติดที่ตรวจพบ เช่น โคเคน เห็ดขี้ควาย ซึ่งเป็นยาเสพติดที่แพร่หลายในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ
พล.ต.ต.ภาณุมาศ กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 1 มี.ค.67 เจ้าหน้าที่ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ได้ทำการจับกุม นายปีเตอร์ หรือ MR.PETER สัญชาติอังกฤษ ข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองฯ และศาลจังหวัดเกาะสมุย ตัดสินจำคุกเป็นเวลา 5 ปี 11 เดือน ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้สืบสวนขยายผลพบว่า นายปีเตอร์ สั่งซื้อยาเสพติดมาจากนายเฟเดริโก้ โดยมียอดการสั่งซื้อมากกว่า 200,000 บาท ในระยะเวลากว่าปีเศษ
และในห้วงเวลาเดียวกันพบว่า นายเฟเดริโก้ ได้รับโอนเงินจากชาวต่างชาติรายอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เกาะสมุย และเกาะพะงันอีกหลายราย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเงินที่ได้มาจากการซื้อขายยาเสพติดในเครือข่ายเดียวกัน โดยมีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 71 ล้านบาท
ด้าน พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ฯ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี และ ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ตนได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานจนนำไปสู่การขออนุมัติออกหมายจับนายเฟเดริโก้ และเข้าตรวจค้นเครือข่ายอีก 3 จุด จนกระทั่งจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 2 ราย
พล.ต.ต.ทรงโปรด ผบก.ตม.6 กล่าวด้วยว่า นายแอนทอนได้มีจัดตั้งบริษัท เพียว เฮ้าส์ พะงัน จำกัด ขึ้นมาประกอบธุรกิจให้บริการรับทำความสะอาดวิลล่าที่พักอาศัย สวน และสระน้ำให้กับชาวต่างชาติ โดยมีลักษณะให้คนไทยเข้ามาถือหุ้นแทนหรือนอมินี เพื่อบังหน้าปกปิดการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยบริษัทดังกล่าวมีทุนจดทะเบียน 4,000,000 บาท มีลักษณะการถือหุ้นที่ผิดปกติ มีคนไทยถือหุ้น ในสัดส่วน 100 เปอร์เซ็นต์ แต่มีนายแอนทอน และภรรยาชาวรัสเซีย เป็นกรรมการ
ซึ่งจากการสืบสวนพบว่ามี น.ส.มีนา บุคคลสัญชาติไทย เป็นผู้ถือหุ้นแทนนายแอนทอน เพื่อให้ได้ประกอบธุรกิจในราชอาณาจักร ตามเงื่อนไขกฎหมาย แต่เงินที่ใช้ในการลงทุนทั้งหมด เป็นของนายแอนทอน
เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน แจ้งความที่ สภ.เกาะพะงัน เพื่อเอาผิด น.ส.มีนา และนายแอนทอน ตามกฎหมายที่เกี่ยว
รรท.ผบช.สตม.กล่าวอีกว่า ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ทุกหน่วย เร่งกวาดล้างบริษัทนอมินี ที่ใช้คนไทยถือหุ้นบังหน้า รวมทั้งกวาดล้างอาชญากรรม ที่กระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ตามนโยบายหลักของ นายกรัฐมนตรี ต่อจากนี้ไปจะให้ ตม.ทุกจังหวัด ประสานการปฏิบัติกับตำรวจพื้นที่ เร่งตรวจสอบพฤติกรรมชาวต่างชาติ และบริษัทที่ประกอบธุรกิจในลักษณะที่เป็นนอมินี หากตรวจพบจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดทุกราย