svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

นำหลักฐานการโอน "USDT" แลกเป็น "ETH" ว่าเอี่ยวโยกเงิน "ดิไอคอน" หรือไม่

"สายไหมต้องรอด" นำตัวอย่างที่การโอนแลกเปลี่ยน "USDT" เป็น "ETH" มาให้ บช.ก.ตรวจสอบว่าเป็นเงินของ "บอสดิไอคอน" หรือไม่

18 ตุลาคม 2567 ที่ กองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นำหลักฐาน ธุรกรรมการโอน เงินดิจิตอล หรือ คริปโตเคอเรนซี่ แลกเงิน USDT มูลค่า 9,849 ล้านบาท คาดเป็นการโยกเงินของ "ดิไอคอนกรุ๊ป"

 

 

นำหลักฐานการโอน \"USDT\" แลกเป็น \"ETH\" ว่าเอี่ยวโยกเงิน \"ดิไอคอน\" หรือไม่

นายเอกภพ กล่าวว่า เมื่อวานตอนช่วงค่ำ ผู้เชี่ยวชาญด้านคลิปโต ได้ส่งข้อมูลมาให้ตนได้เข้าไปดูเพื่อตรวจสอบ ในระบบ USDT Explorer ซึ่งเป็นบริการดู Tranaction (ธุรกรรมทางโอน) ของเหรียญ USDT ทั้งโลก จึงได้ไปเจอกับ 5 Transaction (ธุรกรรมทางโอน)

 

ที่น่าสงสัย เพราะมีการโอนแลกเปลี่ยนเงิน USDT จาก chain ETH (อีเทอเรี่ยม) หรือ ERC-20 กับ chain TRON หรือ (TRC-20) จำนวนมูลค่ารวม 297,093,292 USDT หรือ 9,849 ล้านบาท ไปยังกระเป๋าปลายทางที่เป็น Exchange หนึ่งของประเทศ USA รัฐแคลิฟอเนีย 

โดยต้นทางมาจาก Exchange (แลกเปลี่ยน) จากอีกประเทศหนึ่ง แล้วหลังโอนเสร็จ ก็มีผู้ต้องหาคนสำคัญคนนึงในคดี ดิไอคอน เข้ามอบตัว

 

ขณะนี้จากที่ตรวจสอบเหรียญ USDT ถูกตั้งขายเป็น ETH (อีเทอเรียม)​ ซึ่ง USDT เป็น stable coin โดยราคามันจะอ้างอิงกับเหรียญดอลล่าห์สหรัฐ ทำให้เชื่อว่าผู้กระทำจงใจโอนเงิน USDT ไปแลกเปลี่ยนทั้งหมดให้เป็น ETH (อีเทอเรี่ยม) ซึ่งเป็นเหรียญที่ตามตรวจยึดยาก กว่า USDT ปัจจุบันกระเป๋าปลายทางยังคงขายเหรียญ USDT เป็น ETH (อีเทอเรี่ยม) อยู่ทุกนาที คาดว่าเป็นการตั้งขายอัตโนมัติ  

 

จากข้อมูลทั้งหมด ตนจึงขอให้ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตรวจสอบ Tranaction (ธุรกรรมทางโอน) ดังกล่าว ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในคดีหรือไม่ หากเกี่ยวข้องจะได้ทำการตรวจยึดเพื่อนำมาแลกเป็นเงินมาคืนให้กับผู้เสียหายต่อไป