10 คนร้ายบุกเผาอาคารเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลาบาลา วอด 3 หลัง
บ้านพัก-อาคารเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลาบาลา นราธิวาส ถูกไฟเผาวอด 3 หลัง หลัง 10 คนร้ายอาวุธครบมือบุกจับ 4 เจ้าหน้าที่มัดมือ มัดเท้า ก่อนวางเพลิงอาคาร
เกิดเหตุคนร้ายพร้อมอาวุธปืนครบมือ ซึ่งมีจำนวนกว่า 10 คน เข้าไปจับตัวเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลาบาลา ซึ่งตั้งอยู่บ้านบาลา ม. 5 ต.โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส จากนั้นเข้าไปในอาคารและควบคุมตัว จนท.ป่าไม้ จำนวน 4 คน (ไทยพุทธ 1 คน และอิสลาม 3 คน) พร้อมยึดมือถือ และนำตัวออกมานอกอาคาร ก่อนจุดไฟเผาอาคาร 3 หลัง โดยมัดมือ มัดเท้า จนท. จากนั้นคนร้ายได้พากันหลบหนีขึ้นภูเขาไปตามเส้นทางเดิม
ต่อมาเมื่อคนร้ายหลบหนีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทั้ง 10 คน สามารถหลุดรอดจากพันธนาการ ได้แจ้งประสานไปยังหน่วยกำลังในพื้นที่ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บูเก๊ะตา เจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองได้รับทราบ ก่อนที่จะสนับสนุนรถดับเพลิงเข้าไปฉีดน้ำดับไฟ พร้อมทั้งได้กันพื้นที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้
โดยทาง พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ได้แจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ให้สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครอง เฝ้าระวังพื้นที่เกรงกลุ่มคนร้ายจะมีการวางแผนนัดแนะ เพื่อก่อเหตุในลักษณะนี้กับหน่วยงานสังกัดป่าไม้ในพื้นที่รับผิดชอบ
โดยเฉพาะฐานปฏิบัติการณ์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ล่อแหลมและเสี่ยงภัย ให้มีมาตรการตั้งรับป้องกันเหตุอย่างมีระบบ และสามารถตอบโต้กลุ่มคนร้ายได้ทันท่วงทีหากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น เมื่อช่วงดึก วันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา
22 กันยายน 2567 ล่าสุด ทีมข่าว Nation TV สอบถามไปยัง พ.อ.เอกวริทธิ์ ชอบชูผล โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่า เกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงอาคารบ้านพักในสำนักงานป่าไม้ เขตพิทักษ์พันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา จริง โดยคนร้ายได้จับตัวเจ้าหน้าที่ป่าไม้ 4 ราย มัดมือมัดเท้า และชิงอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มิลลิเมตร จำนวน 1 กระบอก พร้อมโทรศัพท์มือถือของเจ้าหน้าที่ ก่อนหลบหนีไป จากข้อมูลยืนยันขั้นต้น มีอาคารได้รับความเสียหาย ประมาณ 2-3 หลัง แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมพื้นที่เกิดเหตุ รวมทั้งได้ปิดกั้นการจราจร และประสานรถดับเพลิงเข้าดำเนินการควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว กำลังรอเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจที่เกิดเหตุ และรวบรวมวัตถุพยานหลักฐานต่างๆ อย่างละเอียด เพื่อขยายผลติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด