ฝากขัง “แม็ก” มือสังหารชิงรถเก๋งสาวหล่อ

วันที่ 21 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้า ตำรวจ สภ. นครชัยศรี ได้ควบคุมตัวนายเเม็ก ไปทำแผน โดยนายแม็ก ยังคงมีอาการปวดท้อง และอิดออด ไม่ยอมทำตามคำสั่ง จนตำรวจต้องพูดย้ำหลายรอบ กว่านายแม็ก จะยอมลุกมาใส่กุญแจมือ และยอมใส่เสื้อเกราะ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามนายแม็กเกี่ยวกับประเด็นนายเอ็มว่า เป็นบุคคลที่มีตัวตนหรือไม่ นายแม็กไม่ยอมตอบคำถาม แต่พยักหน้า

จากนั้นตำรวจได้คุมตัวนายแม็ก ไปยังจุดพบศพ โดยนายแม็ก ยังทำท่ามีอาการเจ็บท้อง แต่ก็พูดคุยโต้ตอบกับตำรวจ เมื่อตำรวจให้นายแม็ก ชี้จุดจอดรถและชี้จุดทิ้งศพ นายแม็ก กลับไม่ยินยอมที่จะชี้จุด และบอกกับตำรวจว่า ตัวเองไม่ได้ฆ่า แต่นายเอ็มเป็นคนฆ่า

ผู้สื่อข่าวจึงถามข้อมูลของนายเอ็มจากนายแม็ก ซึ่งนายแม็ก เล่าว่า วันเกิดเหตุมีคนอยู่บนรถจำนวน 3 คน คือ ตัวเอง นายเอ็ม และนางสาวทราย โดยได้แวะรับนายเอ็ท ที่โรงแรมอินอินน์ จังหวัดนนทบุรี แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่านายเอ็มไปไหน วันที่ตัวเองโดนจับ ทั้ง 2 คนนี้ก็ไม่โดนมาจับด้วย ทั้งที่ตอนตัวเองถูกจับนางสาวทราย ก็นอนอยู่กับตัวเอง

ซึ่งในตอนลงมือสังหารนั้น นายเอ็ม นั่งเบาะด้านหลังคนขับ ตัวเองนั่งอยู่ตรงกลาง ส่วนนางสาวทรายนั่งอยู่ซ้ายมือสุด จากนั้น นายเอ็ม ใช้แขนรัดคอผู้ตายจากด้านหลัง ส่วนสายชาร์จโทรศัพท์นั้น นายเอ็ม หยิบออกมาจากคอนโซนกลางรถ ซึ่งตัวเองไม่รู้ว่านายเอ็มเอาไปรัดคอผู้ตายตอนไหน จากนั้น นายเอ็ม ได้ลากผู้ตายไปทิ้งไว้ที่ข้างทาง ซึ่งในตอนเกิดเหตุนั้น คนในรถไม่มีใครห้ามนายเอ็มเลย และตัวเองก็ไม่กล้าห้าม เนื่องจากกลัว และก็ไม่เคยมีคดีฆ่าคนตายมาก่อน

จากนั้น ก็ขึ้นรถและขับออกไป ส่วนนางสาวทราย และนายเอ็ม นั่งอยู่ด้านหลังรถ ตัวเองเห็นว่านายเอ็มหยิบมือถือของผู้ตายโยนทิ้งไปในป่า ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ไม่ทราบว่าหายไปไหน

ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุ ตัวเองไม่มีเงินติดตัวสักบาท หลังนำรถไปขายได้จำนวน 15,000 บาท นายเอ็ม เอาเงินไป 3,000 บาท เหลือให้ตัวเอง 12,000 บาท โดยนายเอ็ม เป็นคนนำรถไปขาย และกลับมาส่งตัวเองที่วัดไผ่หูช้าง ขอยืนยันว่า ตัวเองไม่ได้เป็นคนลงมือฆ่าผู้เสียชีวิต แต่ทำไมนายเอ็ม กับนางสาวทราย ไม่โดนจับ ทำไมคนโดนจับต้องเป็นตัวเองเพียงคนเดียว อย่างไรก็ตาม นายเเม็ก ไม่ยอมขอโทษผู้เสียชีวิต และครอบครัวของผู้เสียชีวิต

จากนั้น ตำรวจ สภ.นครชัยศรี ได้ควบคุมตัวนายแม็กมา สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินการฝากขังต่อศาลในคดีลักทรัพย์ ซึ่งในระหว่างที่นายแม็ก ถูกคุมตัวอยู่ในห้องขัง ก็ได้ใช้หัวโขกกับลูกกรงจนเป็นแผลแตกตรงบริเวณกลางหน้าผาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไประงับเหตุและทำการห้ามเลือดปฐมพยาบาลให้เรียบร้อย

ต่อมาเวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายแม็ก ออกจากห้องขังเพื่อไปฝากขังที่ศาลอาญามีนบุรี ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายแม็กว่า เอาหัวโขกกับลูกกรงทำไม โดย นายแม็ก เผยว่า เครียดที่โดนจับ ไม่มีที่ระบาย ตนไม่เคยลักทรัพย์ใคร และในคดีนี้ไม่ได้ทำคนเดียว ยังมีอีก 2 คน ที่ไม่โดนจับ

ขณะเดียวกันมีรายงานข่าว ว่า ผู้หญิงที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 8 เชิญตัวมาสอบปากคำ หลังจากที่ตำรวจสามารถสะกดรอยตามจนพบว่า เป็นผู้ขับรถยนต์MGของผู้ตาย จาก จ.นครสวรรค์ ไปยัง จ.ภูเก็ต ซึ่งจากการสอบปากคำก็ยืนยันว่า หญิงคนดังกล่าวเป็นตำรวจสังกัดกองบัญชาการ สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แต่เบื้องต้นไม่พบว่ามีความผิดเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนางสาวฐิติรัตน์ ส่วนจะมีความเขื่อมโยงกับขบวนการค้ารถเถื่อน หรือไม่ ขณะนี้ ได้ส่งรายงานการสอบปากคำไปให้กองบัญชาการตำรวจภูธภาค 7 และ 6 ร่วมกันขยายผลถึงที่มาของการซื้อขายรถจากนายแม็ก

และเนื่องจากการซื้อขายรถครั้งนี้ เริ่มจากนายแม็กได้นำรถของผูตายไปขายให้กับบุคคลหนึ่งใน จ.นครปฐม ที่คาดว่าจะเป็นอดีตตำรวจ โดยมีเงื่อนไขจะต้องให้นายแม็กนำรถไปส่งมอบอีกทอดหนึ่งให้กับผู้รับซื้อที่เป็นสามีภรรยาที่ จ.นครสวรรค์ จากนั้นสามีคู่ดังกล่าว ก็จะนำรถไปให้กับพ่อของตำรงจหญิงที่รับซื้อทอดสุดท้าย ก่อนที่ตำรวจหญิงคนดังกล่าวจะบินตรงจาก จ.ภูเก็ต มารับรถที่จ.นครสวรรค์ พร้อมบิดาที่เป็นคนซื้อรถให้ในราคา 35,000 บาท จนกระทั่งมาถูกจับกุม

อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีในเรื่องของการรับซื้อของโจร ขณะนี้ ยังไม่ปรากฏในสำนวนคดีว่า มีบุคคลใดเข้าไปเกี่ยวข้องบ้าง แต่ในส่วนของวินัยที่มีข้าราชการตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดก็จะมีการเชิญเข้าไปให้ข้อมูลอย่างแน่นอน