ตร.สืบฯภาค 7 นำมือฆาตกรรมสาวทอมชิงรถ ส่งดำเนินคดีเก่าลักจยย.เพื่อนก่อน

กรณีพบศพ น.ส.ฐิติรัตน์ (สงวนนามสกุล) หรือกะทิ อายุ 47 ปี สาวทอมรุ่นใหญ่ ไดรเวอร์ขับรถรับส่งผู้โดยสารแอปพลิเคชันชื่อดัง ถูกลวงไปฆ่าเสียชีวิตในพื้นที่ จ.นครปฐม ก่อนหน้านี้ ครอบครัวโพสต์ตามหาโชเฟอร์สาวทอมรายนี้ที่หายตัวไป ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา

 

 

 

 

กระทั่งล่าสุดเมื่อคืนช่วง 23.00 น. วันที่ 19 ก.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 7 สามารถจับกุม "นายณรงค์ศักดิ์ (สงวนนามสสกุล) หรือแม๊ก" อายุ 35 ปี  ได้ในพื้นที่อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ผู้ต้องหาที่ได้เรียกรถ ของผู้ตายจากย่านซอยสุขุมวิท77 ไปส่งที่ จ.นครปฐม ก่อนจะลวงไปฆ่าชิงรถ และนำไปขายต่อ จนตำรวจภูเก็ตยึดรถของกลางได้เมื่อวานนี้ 

20 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้า ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 7 นำ "นายณรงค์ศักดิ์" มาส่งดำเนินคดี ที่สน.มีนบุรี ตามหมายจับเก่า คดีลัก จยย.เพื่อน ช่วงปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา 

 

 

 

 

เบื้องต้น ร.ต.อ.วันชาติ เหล่ากอปิกืจ รอง สว.(สอบสวน) สน.มีนบุรี เจ้าของคดีลักรถ จยย. เผยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 ส.ค.67 นายณรงค์ศักดิ์ ยืมรถจยย.กับเพื่อน ที่เคยรู้จักกันสมัยถูกจำคุกอยู่ที่เรือนจำพิเศษมีนบุรี อ้างว่า จะนำรถไปเติมเงินโทรศัพท์มือถือที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง แต่นายณรงค์ศักดิ์ไม่นำรถมาคืน และเจ้าของรถไม่สามารถติดต่อนายณรงค์ศักดิ์ได้ จึงเข้าแจ้งความ ตำรวจ สน.มีนบุรีจึงรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียกให้นายณรงค์ศักดิ์มาพบพนักงานสอบสวน แต่ผู้ต้องหาไม่มาตามหมายเรียก ศาลอาญามีนบุรี จึงออกหมายจับข้อห าลักทรัพย์ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนส.ค.ที่ผ่านมา 

 

 

เมื่อเช้านี้ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 7 นำนายณรงค์ศักดิ์มาส่งดำเนินคดีสอบปากคำเบื้องต้น นายณรงค์ศักดิ์ ให้การปฏิเสธข้อหาลักทรัพย์ตามหมายจับเก่า อ้างมีเพื่อนมายืมรถ จยย.ต่ออีกทอดหนึ่ง และไม่รู้ว่าเพื่อนคนดังกล่าวยืมรถจยย.ไปไหนต่อ ส่วนคดีลักทรัพย์ตามหมายจับเก่านั้น ถือว่าเรียบร้อยแล้ว วันพรุ่งนี้ (21 ก.ย.นี้) จะส่งฝากขังที่ศาลอาญามีนบุรี แต่ในส่วนของคดีที่นายณรงค์ศักดิ์ฆาตกรรมชิงรถเก๋งสาวทอมที่ จ.นครปฐม ยังไม่ได้มีการสอบปากคำ เนื่องจากเป็นคดีคนละท้องที่ และไม่ได้มีการพูดคุยสอบถามรายละเอียด นายณรงค์ศักดิ์แต่อย่างใด ต้องรอให้พนักงานสอบสวน สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เจ้าของคดีมาประสานเรื่องอายัดตัวนายณรงค์ศักดิ์ ดำเนินคดีต่อไป 

 

 

ทั้งนี้มีรายงานว่า สภ.นครชัยศรี ได้ส่งเรื่องประสานดำเนินคดีและอายัดนายณรงค์ศักดิ์มายัง สน.มีนบุรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในช่วงบ่ายวันนี้พนักงานสอบสวน สภ.นครชัยศรี จะมาสอบปากคำและนำตัวนายณรงค์ศักดิ์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ จ.นครปฐม ก่อนที่จะส่งตัวกลับมายัง สน.มีนบุรี เพื่อให้พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินการส่งฝากขังคดีเก่าต่อศาลให้เรียบร้อยก่อน 

 

 

"นายณรงค์ศักดิ์ (สงวนนามสกุล) หรือแม๊ก"

 

 

 

 

 

นอกจากนี้ตรวจสอบประวัติ "นายณรงค์ศักดิ์" เคยถูกจับกุมดำเนินคดีตามศาลมีนบุรีเมื่อวันที่ 10 ส.ค.53 ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี พรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากความปกครองของผู้ปกครองเพื่อการอนาจารโดยเด็กนั้นไม่ยินยอม หน่วงเหนี่ยวกักขัง และทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย ท้องที่ สน.โคกคราม 
 

 

ผบช.ภ.7 ยันผู้ต้องหาใช้แขนรัดคอสาวทอมภายในรถจนหมดสติ ก่อนใช้สายชาร์จโทรศัพท์รัดคอซ้ำจนตาย เร่งขยายผลขบวนการรับซื้อรถเถื่อน พบประวัติก่อคดีตั้งแต่ปี 53 ติดคุกมากว่า 10 ปี

 

 

วันเดียวกัน พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แถลงผลจับกุมนายณรงค์ศักดิ์ ว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้เรียกใช้บริการรถของผู้ตายผ่านแอปพลิเคชั่นชื่อดัง เพื่อให้มารับที่บริเวณหน้า สน.พระโขนง จากนั้นให้พาไปที่พักย่านนนทบุรี เพื่อเอาของ ก่อนจะให้ขับไปส่งที่บ้านแฟนสาวที่ จ.นครปฐม แต่ระหว่างทางสบโอกาสใช้แขนรัดคอผู้ตายภายในรถจนหมดสติ ก่อนที่จะใช้สายชาร์จโทรศัพท์ของผู้ต้องหารัดคอซ้ำจากนั้นนำร่างผู้ตายลงจากรถไปทิ้งบริเวณจุดที่พบศพ และจากพยานหลักฐานตำรวจ เชื่อว่าผู้ต้องหาจะน่าจะลงมือสังหารตรงบริเวณที่พบศพ

 

 

ส่วนมูลเหตุตำรวจยืนยันว่า เป็นเรื่องประสงค์ต่อทรัพย์ เนื่องจากผู้ตายและผู้ต้องหาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน โดยเป็นการเรียกใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น จากนั้นผู้ต้องหาได้นำรถของผู้เสียชีวิตไปจอดที่บ้านแฟนสาว ย่านกำแพงแสน ก่อนจะนำรถไปขายเช้าวันที่ 12 ก.ย. โดยการขายครั้งแรกคือที่ จ.นครปฐม ก่อนจะพบรถเปลี่ยนมือหลายทอดไปอยู่ที่ จ.นครสวรรค์ และสุดท้ายพบรถคันดังกล่าว พร้อมคนขับที่เป็นผู้หญิงที่ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลว่ารถคันดังกล่าว มีการซื้อขายในราคาเท่าไร และมีบุคคลใดเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง ยืนยันว่าหากผู้ใดกระทำความผิดก็จะดำเนินการโดยไม่ละเว้น พร้อมย้ำว่าขณะนี้ผู้ต้องหาที่ลงมือฆ่ามีเพียงคนเดียว ส่วนการซื้อขายรถยังไม่พบตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง

 

ทั้งนี้ยืนยันว่า ผู้ต้องหาไม่เคยมีคดีเกี่ยวกับการฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่แอบอ้างข่มขู่กับครอบครัวของภรรยา แต่เป็นคดีทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่กู้ภัย พื้นที่ สภ.ราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี และได้มีการเจรจายอมความกันแล้ว หลังจากนี้ตำรวจ สภ.นครชัยศรี จะไปอายัติตัวผู้ต้องหาจาก สน.มีนบุรี เพื่อมาสอบปากคำจากนั้นก็จะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและดำเนินการฝากขังต่อไป