svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

สิ้นลาย สืบนครบาล รวบ “เสือแอร์ ประเวศ” โจรลักสายไฟผันตัวเป็นหัวจ่าย

สืบนครบาล รวบ "เสือแอร์ประเวศ" จากโจรลักตัดสายไฟ ผันตัวเป็นขาใหญ่ระดับหัวจ่าย ปล่อยยาเสพติดให้กับวัยรุ่นในชุมชนย่านประเวศ หนีหมายจับ ทิ้งแฟนสาวไว้กับของกลาง ก่อนกระโดดห้องพักชั้น 2 หนี ตร.กัดไม่ปล่อยตามรวบถึงห้องพักย่านซอยเฉลิมพระเกียรติ 65

วันที่ 18 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (17 ก.ย.2567) เวลา 16.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจับกุมตัว นายทองใบ หรือแอร์ เนตรวงศ์ อายุ 41 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 หมายจับ ดังนี้

1.หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.1339/2565 ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2565 ข้อหา 
“ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถาน ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อพาทรัพย์หลบหนี หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม หรือรับของโจร ”

2.หมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.478/2567 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 ข้อหา 
“มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า และยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้าฯ”

โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุบ "เสือแอร์" ได้ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ บริเวณกลางซอยเฉลิมพระเกียรติ 65 แยก 2 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม.

สิ้นลาย สืบนครบาล รวบ “เสือแอร์ ประเวศ” โจรลักสายไฟผันตัวเป็นหัวจ่าย

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติของ "เสือแอร์" พบคดีอาญายาวเป็นหางว่าว 8 คดี ดังนี้
1.วันที่ 4 พ.ย. 50 ถูกดำเนินคดีข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1” พื้นที่ สน.อุดมสุข
2.วันที่ 29 มิ.ย. 51 ถูกจับกุมข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1” พื้นที่ สน.อุดมสุข
3.วันที่ 2 ก.พ. 55 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถาน สถานที่ราชการ” พื้นที่ สน.อุดมสุข
4.วันที่ 11 ก.พ. 55 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” พื้นที่ สน.อุดมสุข
5.วันที่ 1 ก.ย. 60 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน หรืออนุพันธ์แอมเฟตามีน) มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ตั้งแต่ 375 มก.ขึ้น” พื้นที่ สน.พลับพลาไชย2
6.วันที่ 3 ต.ค. 65 ถูกดำเนินคดีข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ประเภท 2 หรือประเภท 5” พื้นที่ สภ.บางพลี ภ.จว.สมุทรปราการ
7.วันที่ 1 ธ.ค. 65 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถาน สถานที่ราชการ” พื้นที่ สน.ลำผักชี 
8.วันที่ 12 มิ.ย. 67 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน หรืออนุพันธ์แอมเฟตามีน) (ยาบ้ารวม 812 เม็ด ยาไอซ์ 6.18 กรัม)” พื้นที่ สน.ประเวศ

สำหรับพฤติการณ์ของ "เสือแอร์" (หมายจับลักทรัพย์สายไฟ) ย้อนกลับไป วันที่ 26 พ.ย. 2565 เจ้าของโครงการบ้านจัดสรรชื่อดังย่านลำผักชี ต้องเครียดหนักเพราะบ้านจัดสรร ที่กำลังจะเสร็จพร้อมขายให้กับลูกค้า ถูกคนร้ายลักลอบเข้ามาตัดสายไฟนับ 10 หลัง ความเสียหายหลายแสนบาท ทำให้ไม่สามารถส่งมอบบ้านได้ทันกำหนด จึงรีบเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ลำผักชี ต่อมาพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายทองใบ  ซึ่งเป็นขี้ยาตระเวนลักเล็กขโมยน้อยละแวกดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่อขอศาลอาญามีนบุรีอนุมัติหมายจับแล้ว นายทองใบ กลับหายไปในกลีบเมฆ ไม่สามารถติดตามตัวได้ 

ส่วน(หมายจับยาเสพติด) ต่อมาวันที่ 12 มิ.ย. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเบาะแสจากพลเมืองดีว่า นายทองใบ (ทราบชื่อภายหลัง) หรือ "เสือแอร์" เป็นขาใหญ่ คอยปล่อยยาเสพติดให้กับวัยรุ่นในชุมชนย่านประเวศ จึงลงพื้นที่เข้าจับกุม ขณะอยู่ในห้องพัก ภายในซอยอ่อนนุช 65 แยก 4 ถนน ถนนอ่อนนุช (ซอยสุขุมวิท 77) แขวงประเวศ เขตประเวศ จังหวัดกรุงเทพมหานคร แต่นายทองใบ ไหวตัวทัน กระโดดหลังห้องพักชั้น 2 หลบหนีไปได้ ทิ้งให้ น.ส.มณทิรา แฟนสาว ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม พร้อมของกลาง ยาบ้ารวมจำนวนกว่า 812 เม็ด และยาไอซ์รวมกว่า 6.18 กรัม 

โดย น.ส.มณทิรา (แฟนสาว) ให้การว่า ของกลางทั้งหมดเป็นของ นายทองใบ พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ยื่นขอหมายจับต่อศาลอาญาพระโขนง เพื่อขอหมายจับ

สิ้นลาย สืบนครบาล รวบ “เสือแอร์ ประเวศ” โจรลักสายไฟผันตัวเป็นหัวจ่าย ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงติดตามตัวนายทองใบ ผู้ต้องหาตามหมายจับ จนได้รับเบาะแสว่า จากการกระโดดห้องพักชั้น 2 กระแทกกับพื้นเพื่อหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้นายทองใบ ได้รับบาดเจ็บตรงอวัยวะเพศชาย ทำให้ไม่สามารถปัสสาวะได้ จึงต้องเข้ารับการผ่าตัดที่ รพ. ด้วยการสอดท่อเข้าท้อง เพื่อระบายปัสสาวะออกจากร่างกาย และหนีไปกบดานกับแฟนใหม่อยู่ที่ซอยเฉลิมพระเกียรติ 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงพื้นที่ติดตามจับกุม เมื่อไปถึงห้องเช่าของนายทองใบ อยู่บริเวณชั้น 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปิดล้อมและเรียกให้นายทองใบ เปิดประตู แต่นายทองใบ ไม่ยอมเปิด ผ่านไปครู่หนึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจะพังประตูเพื่อเข้าจับกุม แต่แฟนใหม่ของนายทองใบ เกิดความกลัว จึงยอมเปิดประตู เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสามารถจับกุมตัวนายทองใบ ไว้ได้ 

เบื้องต้นในชั้นจับกุม นายทองใบ หรือ “แอร์ ประเวศ” ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า คดีลักทรัพย์ของตนของปี 65 ตนก็รับสารภาพว่าตอนนั้นตนติดยาเสพติดอย่างหนัก ไม่มีเงินซื้อ เมื่อผ่านบ้านจัดสรรโครงการใหม่ ย่านลำผักชี ดูแล้วไม่มีใครเฝ้า จึงไปลักตัดสายไฟมาขาย โดยตัดไปหลายสิบเส้น ได้มา 10 กว่ากิโลกรัม ขายได้เงิน 4,000 กว่าบาท นำเงินมาซื้อยาเสพติดเพื่อเสพ จากนั้นก็หนีมาตลอด จนปัจจุบันเป็นขาใหญ่ของย่านประเวศ เมื่อใช้ชีวิตประจำวันก็จะมีคนรู้จักมาขอซื้อยาเสพติดจากตน แรกๆตนก็ไม่มีขาย แต่เห็นช่องทางหาเงินจึงไปรับซื้อยาเสพติดจากชายที่อยู่ในชุมชนแถวกองขยะ ไม่ทราบชื่อนาสกุลจริง ในราคาเม็ดละ 30 บาท 

จากนั้นนำมาแบ่งขายให้วัยรุ่นย่านประเวศในราคา เม็ดละ 50 บาท จนเมื่อเดือน มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา จนเคยถูกตำรวจไล่จับแล้วครั้งนึง แต่กระโดดห้องพักชั้น 2 หลบหนีมาได้ ทำให้ป่วยปัสสาวะไม่ออก ต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษา โดยหมอผ่าตัดเจาะท้องเพื่อระบายปัสสาวะ ทำให้ตนต้องหิ้วถุงทิ้งปัสสาวะไปด้วยทุกที่ หลังจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลำผักชี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สิ้นลาย สืบนครบาล รวบ “เสือแอร์ ประเวศ” โจรลักสายไฟผันตัวเป็นหัวจ่าย

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “การเสพและจำหน่ายยาเสพติดมีอัตราโทษที่สูง ถึงขั้นประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต ยาเสพติดเป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกคน ภัยร้ายของยาเสพติดนั้น มิได้เกิดขึ้นและส่งผลกระทบเฉพาะตัวของผู้เสพเท่านั้น แต่ส่งกระทบต่อบุคคลในครอบครัว คนใกล้ชิด รวมถึงคนที่เรารัก ยังสร้างความไม่ปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน ของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ดังเช่นกรณีในครั้งนี้ผู้ต้องหาเริ่มจากเป็นผู้เสพยาเสพติด ตะเวนลักทรัพย์จนสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนผู้ใช้ชีวิตอย่างปกติสุข จากนั้นผู้ต้องหาหันมาจำหน่ายยาเสพติดในชุมชน จำหน่ายไปนับหมื่นเม็ด ทำลายอนาคตของวัยรุ่นในชุมชน ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ และยังเป็นจุดเริ่มต้นอาชญากรรมในชุมชนนั้นๆ ขอให้ประชาชนทุกๆคนช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมปราบปรามยาเสพติดในทุกพื้นที่ ดังนั้นหากใครพบเบาะแสของยาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแสมายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม.ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล”