เค้นสอบเมียนมาโหด มัดมือสังหารโชเฟอร์แท็กซี่

จากกรณี คนร้ายฆ่าโหดคนขับรถแท็กซี่ โดยจับมือมัดไพร่หลัง ก่อนนำศพไปทิ้งริมป่าหญ้าข้างบ่อปลา เหตุเกิดในพื้นที่ หมู่ 7 ซอยข้างโรงพยาบาลรามาธิบดี สมุทรปราการ ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งต่อมาทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายมีชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี ชาว อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น  และเป็นโชว์เฟอร์ขับรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า สีเขียว-เหลือง หมายเลขทะเบียน 1-มค-69 กรุงเทพมหานคร  โดยผู้เสียชีวิตได้รับผู้โดยสารจาก จ.นนทบุรี ในช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. และขับรถมาส่งคนร้ายในบริเวณจุดเกิดเหตุ

อย่างไรก็ตาม ช่วงค่ำวานนี้ (27 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางพลี ได้เชิญตัว นายยอด  (สงวนนามสกุล) ลูกชาย และนางระเบียบ  (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ญาติของผู้ตาย เดินทางมาให้ปากคำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำนาน2 ชั่วโมง ก่อนจะพาตัวลูกชายของผู้เสียชีวิตเดินทางไปที่บ้านพักย่านบางบัวทอง ในเวลาต่อมา 
 

ขณะที่ นางสาวระเบียบ ญาติของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่า พ่อเสีย ทำให้รู้สึกตกใจมาก และเสียใจมาก และอยากจะเห็นหน้าคนร้าย หรือผู้ก่อเหตุ ว่ายังเป็นคนอยู่ไหม ทำไมถึงฆ่าคนเป็นๆได้ อยากถามว่า มันยังเป็นคนอยู่ไหม เพิ่งรู้ว่าผู้ก่อเหตุไม่ใช่คนไทย เป็นเมียนมา ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นตนก็ไม่รู้ เพราะพ่อไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลย เวลาโทรคุยกัน หรือคุยแชทกัน ก็แค่ถามข่าวคราวธรรมดา ในความคิดของตน ก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่า เป็นการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ไหม หรือเพราะเรื่องอะไร 

ตอนแรกผู้ก่อเหตุ โทรศัพท์มาเพื่อขอเงิน 20,000 บาท กับแฟนของลูกชายผู้เสียชีวิต แค่บอกว่าอยากได้เงินก็จะหาให้ ไม่ต้องมาฆ่ากันแบบนี้ ตนไม่รู้ว่าเขาให้เวลาหาเงินเท่าไหร่ เพราะแฟนของน้องไม่ได้คุยต่อตัดสายไปเลย  แต่เรื่องนี้ลูกชายไม่รู้เรื่องเลย เขาใช้เบอร์ผู้ตายโทรมาหา แล้วได้ยินเสียงผู้ตายร้องด้วย แล้วตัวผู้ตายก็บอกว่า ห้ามบอกยอด (ลูกชายผู้ตาย) เขาโทรมาประมาณช่วง 9 โมงเช้า เห็นแฟนน้องบอกแบบนั้น  แต่ขออย่าให้เป็นเรื่องจริง  แต่มันก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ส่วนเรื่องที่พ่อมาขับรถกลางคืน น้องชายบอกว่า แปลกมาก น้องบอกว่า น้องเข้าบ้านเร็ว ปกติพ่อจะขับรถช่วงกลางวัน น้องขับช่วงกลางคืน น้องบอกว่าแปลกมาก 

ส่วนตอนที่ผู้ก่อเหตุโทรหาแฟนน้อง เขาก็เหมือนว่า พูดไทยไม่ชัด น้องชายเล่าให้ฟังบนรถ และก็ไม่เคยรู้จักกับคนก่อเหตุด้วย ส่วนพ่อมีทรัพย์สินปกติทั่ว ๆ ไป มีนา มีบ้าน มีรถแท็กซี่ 1 คัน  ตอนออกไปขับรถ ก็ไม่ได้พกของมีค่าอะไรไปมาก ส่วนบ้านที่ขอนแก่น มีแค่ที่ดิน มีลูกก็แค่ยอดคนเดียว ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะอะไรกันเลย พ่อลูกเขารักกันมาก มีอะไรก็จะถามหาแต่ลูกชาย เวลาตนคุยกับเขา ก็คุยทางแชทเฟส ก็จะถามหาลูกชายตลอด ส่วนเรื่องศพ ก็จะนำกลับไปที่บ้าน จ.ขอนแก่น เพราะญาติ ๆ รออยู่

ทางด้าน นายยอด ลูกชายผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนไม่ได้คุยโทรศัพท์กับพ่อเลย แล้วก็ไม่ทราบว่า แฟนได้คุยโทรศัพท์กับพ่อหรือไม่ ตนรู้ว่าพ่อเสียชีวิตช่วงเที่ยง แล้วที่บอกว่า มีคนโทรเฟสมาคุยกับพ่อ ตนก็ไม่ทราบเรื่องนี้ เมื่อคืนตนอยู่ที่บ้าน เพราะเข้าบ้านเร็ว ตนไม่รู้ว่า พ่อติดการพนันหรือไม่ และก็ไม่เคยมีคนมาทวงหนี้พ่อ

28 สิงหาคม 2567 ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.นนทบุรี พร้อมด้วย กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางพลี ได้เข้าควบคุมตัว นายซัน ชาวเมียนมา ผู้ต้องสงสัยรายนี้ ในคดีฆาตกรรม นายมีชัย ได้ที่บ้านพักย่าน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งเบื้องต้นทางผู้ก่อเหตุ ยังคงให้การปฏิเสธ ก่อนจะควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.บางพลี 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายซัน มาถึงห้องสอบสวน  เจ้าตัวยังคงปิดปากเงียบ และยังคงให้การปฏิเสธ โดยระบุว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการฆาตกรรมที่เกิดขึ้น  ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังพบหลักฐานต่างๆ ทั้งรถแท็กซี่ ที่จอดอยู่ห่างจากที่พักของ นายซัน เพียงแค่ 200 เมตร และยังพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายอีกด้วย