svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

รูดม่าน! แถลงนโยบายรัฐบาล - "ภูมิธรรม" ขอบคุณรัฐสภารุมระดมความเห็น

รูดม่าน! แถลงนโยบายรัฐบาล - "ภูมิธรรม" ขอบคุณรัฐสภารุมระดมความเห็น ย้ำพร้อมสร้างโอกาสคนไทย มีกิน มีใช้ มีเกียรติ และศักดิ์ศรี - "พริษฐ์" ซัดนโยบายรัฐบาลคิดไม่ครบ คิดไม่ออก คิดไม่ซื่อ - หวั่น ครม.เป็นตรายาง ไม่มีอำนาจตัดสินใจ เป็นตัวประกัน “นิติสงคราม”

รูดม่าน! แถลงนโยบายรัฐบาล - \"ภูมิธรรม\" ขอบคุณรัฐสภารุมระดมความเห็น

:: "พริษฐ์" เย้ย 1 ปีรัฐบาลเพื่อไทยพาประเทศขึ้นรถไฟเหาะ-เวียนหัวนโยบายที่กลับไปกลับมา ::

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวอภิปรายสรุปภาพรวมการอภิปรายของ สส.ฝ่ายค้าน ในการแถลงนโยบายของรัฐบาล ต่อรัฐสภาว่า ในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาครั้งนี้ ไม่ใช่วาระของรัฐบาลใหม่ แต่เป็นการแถลงความคืบหน้าของรัฐบาลเดิม 1 ปี แม้จะเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนพรรคฯ และองค์ประกอบโดยรวมของรัฐบาล ก็ยังคงเดิม มีเพียงการเปลี่ยนอะไหล่เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็ไม่ได้สำคัญใด ๆ โดยมองว่า นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไม่สามารถจุดฉนวนใด ๆ ได้ มีเพียงพ่อค้าแม่ค้า จุดธูปอธิษฐานให้ขายดี และรัฐบาล หมกมุ่นกับการแก้ปมดิจิทัลวอลเล็ต จนไม่มีเวลาไปกระตุ้นเศรษฐกิจวิธีอื่น และจนถึงวันนี้ รัฐบาลก็เปลี่ยนแปลงรายละเอียด จากไม่กู้ ก็ต้องกู้เต็มเพดาน, และยังเปลี่ยนจากการแจกดิจิทัล เพื่อสร้างพายุหมุน ก็กลายเป็นการยอมแจกเป็นสด, ในนโยบายการแก้ปัญหานี้ ที่ผ่านมาก็ยังไม่เข้าเป้า, นโยบายพลังงานที่รัฐบาลเศรษฐา ต้องการลดค่าครองชีในนโยบายระยะสั้น ก็สั้นจริง ๆ จนราคาปัจจุบันได้เด้งกลับขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว และรัฐบาล คาดหวังรัฐบาลเปิดโต๊ะเจรจากับกลุ่มทุน เพื่อแก้ราคาพลังงานจากต้นตอ กลับพบภาพการไปตีกอล์ฟร่วมกัน เพื่อพูดคุยการต่ออายุรัฐบาล มากกว่าการต่อรองราคาค่าไฟ รวมถึงนโยบายการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ 1 ปีผ่านไป ก็ยังไม่มีการออกเสียงประชามติแต่อย่างใด ดังนั้น 1 ปีที่ผ่านมาในนโยบายระยะสั้นของรัฐบาลเศรษฐา เสมือนการพาประเทศขึ้นรถไฟเหาะ และกลับมาสู่จุดเดิม แต่เพิ่มเติมในอาการเวียนหัวของนโยบายที่กลับไปกลับมา

รูดม่าน! แถลงนโยบายรัฐบาล - \"ภูมิธรรม\" ขอบคุณรัฐสภารุมระดมความเห็น

:: "พริษฐ์" ชี้ "ดิจิทัลวอลเล็ต" ทำลายความน่าเชื่อถือ รบ.-พท.สิ้น - มั่นใจเศรษฐกิจยุค “อิ๊งค์” โตไม่ถึง 5% หลังค่าแรง 600 ล่องหน ::

นายพริษฐ์ ยังเปิดเผยอีกว่า ตนเองมีความกังวลใจต่อนโยบายของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มีปัญหาที่รัฐบาลคิดมาไม่ครบตั้งแต่ต้น ทำให้ต้องกลับไปกลับมา หรือจนต้องยอมถอย โดยเฉพาะนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ที่ในคำแถลงนโยบายนางสาวแพทองธาร ไม่ปรากฏคำว่า “10,000 บาท” และคำชี้แจงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ไม่มีความชัดเจนว่า ประชาชนที่ไม่ใช่กลุ่มเปราะบาง จะได้รับเงินดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งการยูเทิร์นนโยบายของรัฐบาลเช่นนี้ ก็ถือเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคเพื่อไทย และรัฐบาลไปเรียบร้อยแล้ว

 

นายพริษฐ์ ยังกล่าวถึงนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทภายในปี 2570 ว่า ในคำแถลงนโยบายฯ กลับหายสาบสูญ ทั้งที่พรรคเพื่อไทย และนางสาวแพทองธาร เคยประกาศนโยบายดังกล่าวทำได้ไม่ยาก หากเศรษฐกิจ โตเฉลี่ย 5% ดังนั้น การที่รัฐบาล ลบคำสัญญาดังกล่าวออกไปจากคำแถลงนโยบาย จึงเป็นคำสารภาพว่า ภายใต้รัฐบาลชุดนี้ เศรษฐกิจโตไม่ถึง 5% แน่นอน

รูดม่าน! แถลงนโยบายรัฐบาล - \"ภูมิธรรม\" ขอบคุณรัฐสภารุมระดมความเห็น

:: "พริษฐ์" ซัดนโยบายรัฐบาลคิดไม่ครบ คิดไม่ออก คิดไม่ซื่อ - หวั่น ครม.เป็นตรายาง ไม่มีอำนาจตัดสินใจ เป็นตัวประกัน “นิติสงคราม” ::

นายพริษฐ์ ยังเห็นว่า ยังมีนโยบายหลายด้านของรัฐบาล เป็นนโยบายที่รัฐบาลคิดไม่ซื่อ แต่เอาประชาชนมาบังหน้า โดยเฉพาะนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร ที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาในรัฐบาลนางสาวแพทองธาร และไม่ได้ยึดประชาชนเป็นตัวตั้ง เพราะหากยึดประชาชนเป็นตัวตั้ง รัฐบาลจะต้องประกาศตั้งสถานบันเทิงครบวงจรในเมืองรอง เพื่อกระจายรายได้ แต่รัฐบาลกลับมีแนวโน้ม ตั้งสถานบันเทิงครบวงจรในจังหวัดใหญ่ ที่มีนักท่องเที่ยวมากอยู่แล้ว จึงเชื่อว่า กลุ่มทุนใหญ่จะได้ประโยชน์ รวมถึงนโยบายการแก้รัฐธรรมนูญ และจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ที่รัฐบาลหมายถึง จะหมายถึงรัฐธรรมนูญ ที่ถูกร่างโดย สสร.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน 100% หรือไม่ และจะเปิดให้ประชาชนออกแบบเนื้อหาได้เต็มที่ ไม่ถูกล็อกโดยคนไม่กี่คนหรือไม่ และนโยบายการฟื้นฟูหลักนิติธรรม ที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะต้องชี้แจงว่า จะทำอย่างไรกับจำเลยในคดีตากใบ ที่เป็น สส.ของพรรคฯ และยังพักรักษาตัวอยู่ที่ต่างประเทศ และจำกำชับให้ สส.คนดังกล่าวไปรายงานตัว ไม่ปล่อยให้คดีดังกล่าวหมดอายุความหรือไม่

 

นายพริษฐ์ ยังย้ำว่า ตนเองยังไม่ค่อยมีความหวัง เกี่ยวกับอนาคตประเทศไทยใน 3 ปีข้างหน้า เพราะเห็นเพียงรัฐบาลที่คิดไม่ครบ กับการยอมถอยนโยบายเรือธง, คิดไม่ออก กับหลายนโยบายจนต้องเขียนกว้าง ๆ ไว้ก่อน และคิดไม่ซื่อ เสนอบางนโยบายเอาประชาชนบังหน้า เอื้อประโยชน์ให้เครือข่ายตัวเอง

 

นายพริษฐ์ ยังแสงความกังวลต่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ที่เป็นการสานต่อนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ที่นั่งรัฐมนตรี แต่ก็เชื่อว่า รัฐมนตรีแต่ละคนรู้ดีว่า ประชาชนจะประเมินผ่านผลงานและความสามารถ และยังกังวลว่า คณะรัฐมนตรีชุดนี้ จะเป็น ครม.ต่างคนต่างอยู่ ไม่สามารถประสานงานข้ามกระทรวงได้ ตามที่อดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง ได้กล่าวไว้ในเวทีของสื่อมวลชน ทั้งที่การทำงาน จะต้องอาศัยการทำงานข้ามกระทรวง กระทบกับความสำเร็จนการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะกับนโยบาย One Map และกังวลว่า ครม.ชุดนี้ จะเป็น “ตรายาง” ไม่มีอำนาจตัดสินใจอย่างแท้จริง เช่น การลงพื้นที่ของคน 5 คน กับรัฐมนตรี 3 ตำแหน่ง และผู้ที่สั่งการคือ ผู้ที่ไม่มีตำแหน่ง ซึ่งจะทำให้เกิดวิกฤตการบริหารราชการแผ่นดิน ข้าราชการไม่สามารถรับฟังการสั่งการใด ๆ ได้ และการประชุมคณะรัฐมนตรี จะเป็นเพียงพิธีกรรม หรือการแก้ปัญหาอุทกภัยที่ภาคเหนือในตอนนี้ ประชาชนจะสามารถฝากความหวังกับนายกรัฐมนตรี ที่สามารถตัดสินใจในจังหวะชี้เป็นชี้ตาย เพื่อปกป้องชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้หรือไม่ รวมถึงกังวลว่า คณะรัฐมนตรีชุดนี้ จะเป็น ครม.ตัวประกัน ที่เจออุปสรรคการปฏิรูปโครงสร้างการเมือง และเครือข่ายอำนาจเก่า จนไม่สามารถปฏิรูปใด ๆ ได้แม้แต่เรื่องเดียว เช่น การปฏิรูปกองทัพ, การแก้รัฐธรรมนูญ และยังถูกระบบ และสถาบันทางการเมืองที่ออกแบบโดยอำนาจเก่ากลับมาทิ่มแทงด้วยนิติสงคราม

 

:: ปชน.ย้ำจะติดตามตรวจสอบรัฐบาลทุกฝีก้าว ::

นายพริษฐ์ ยังเห็นว่า รัฐบาล และนายกรัฐมนตรี อยู่บนทาง 2 แพร่งหากยังเลือกวิ่งเข้าหาเครือข่ายอำนาจเดิม โดยเอาอนาคตของประชาชน ไปแลกกับการรักษาอำนาจ ก็อย่าหวังว่า จะได้รับความเห็นใจจากประชาชน หรืออำนาจเก่า จะยังปราณี เพื่อหวังใช้พรรคเพื่อไทย มาทำลายล้างภัยคุกคามจากพรรคก้าวไกล แต่สุดท้าย หากอำนาจเก่าทำสำเร็จ ก็เชื่อว่า จะไม่เก็บพรรคเพื่อไทยไว้เช่นกัน แต่หากพรรคเพื่อไทย พร้อมหักหลังอำนาจเก่า และวิ่งเข้าหาประชาชน มาร่วมมือกับพรรคประชาชนในบางวาระ เพื่อร่วมกันปฏิรูปโครงสร้างการเมืองให้เป็นประชาธิปไตยปกติ ก็เชื่อว่า แม้จะเห็นต่าง ก็จะสามารถฝ่าฟันกับดัก และนิติครามไปได้ พร้อมยังเชื่อว่า 3 ปีต่อจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะต้องเผชิญหลายสถานการณ์ที่จะต้องตัดสินใจว่า จะทำให้อนาคตอำนาจลงตัว แต่ประชาชนลงเหว หรือเป็นอนาคตที่อำนาจเปลี่ยนผ่าน และประเทศชาติเปลี่ยนแปลง พร้อมย้ำว่า พรรคประชาชน ในฐานะพรรคฝ่ายค้านจะติดตามตรวจสอบทุกฝีก้าว ไม่ปล่อยให้ประโยชน์ส่วนตัวของใคร อยู่เหนือประโยชน์ประชาชน

 

:: “ภูมิธรรม” ขอบคุณรัฐสภารุมระดมความเห็นนโยยบายรัฐบาลไม่ใช่ซักฟอก – ย้ำรัฐบาลพร้อมนำไปประกอบการพิจารณา เพื่อประโยชน์ประเทศ สร้างโอกาสอย่างเท่าเทียมให้คนไทย มีกิน มีใช้ มีเกียรติ และศักดิ์ศรี ::

รูดม่าน! แถลงนโยบายรัฐบาล - \"ภูมิธรรม\" ขอบคุณรัฐสภารุมระดมความเห็น

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้แทนรัฐบาล ได้ขอบคุณ สส. และ สว.ที่ได้ร่วมกันแสดงความเห็นต่อนโยบายของรัฐบาล ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งตลอดระยะเวลา 2 วัน ในการแสดงความเห็นนั้น นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ได้รับฟังความเห็นจากทั้ง สส. และ สว.ที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน แม้จะมีการอภิปรายที่เบี่ยงเบนไปจากข้อเท็จจริงบ้าง หรือจินตนาการไปไกลเกินกว่าความเป็นจริง แต่ก็ถือว่า มีเจตนาที่อยากให้บ้านเมืองได้ประโยชน์ ดังนั้น คณะรัฐมนตรี ก็จะนำข้อเท็จจริงไปจำแนก เพื่อหาทางเลือกที่ดีที่สุด และพร้อมนำข้อเสนอ และความเห็น ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายให้มีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ต่อยอดการพัฒนา เช่น การแก้หนี้ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ แก้ปัญหายาเสพติด เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ เป็นต้น พร้อมขอให้ความเชื่อมั่นว่า การดำเนินนโยบายของรัฐบาลตามที่ได้แถลงต่อรัฐสภา จะสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียมให้คนไทย มีกิน มีใช้ มีเกียรติ และศักดิ์ศรี เกิดประโยชน์สูงสุดของประชาชน ตามความมุ่งหวังของรัฐบาล และ สส. สว.ทุกคน

 

:: สรุปแถลงนโยบายฯ วันสุดท้ายกร่อย นายกฯ-ครม.ลงพื้นที่น้ำท่วมเชียงราย ::

ขณะที่ ภาพรวมการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา วันสุดท้าย (13 ก.ย.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีส่วนหนึ่ง ไม่ได้เดินทางเข้ารัฐสภา เพื่อฟังการอภิปรายของ สส.และ สว. เนื่องจาก นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีส่วนหนึ่ง มีกำหนดลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย ที่อำเภอแม่สาย และอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย และในเย็นวันนี้ (13 ก.ย.) นายกรัฐมนตรี ยังมีภารกิจสำคัญที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จึงทำให้การอภิปรายนโยบายของรัฐบาล ที่แถลงต่อรัฐสภาของ สส.ฝ่ายค้าน และ สว.เป็นไปไม่คึกคัก

 

:: ปชน.ทวงค่าแรง 600 บ./วัน - รมว.แรงงาน แจงรอมติไตรภาคีเคาะค่าแรง 400 บาท ต.ค.นี้ ::

รูดม่าน! แถลงนโยบายรัฐบาล - \"ภูมิธรรม\" ขอบคุณรัฐสภารุมระดมความเห็น

นายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้อภิปรายทวงถามนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทของรัฐบาล ซึ่งไม่ปรากฏใน 10 นโยบายเร่งด่วน แต่ในการหาเสียงกลับเป็นนโยบายเรือธง รวมถึงนโยบายเงินเดือนปริญญาตรีขั้นต่ำ 25,000 บาทด้วย จึงขอให้รัฐบาลได้ชี้แจงว่า นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะนอกจากไม่มีในคำแถลงนโยบายแล้ว ในรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มีการชี้แจงว่า จะปรับค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทโดยเร็วที่สุด แต่ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

 

อย่างไรก็ตาม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ชี้แจงถึงนโยบายค่าแรงขั้นต่ำว่า การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ต้องคำนึงถึงแรงงาน และผู้ประกอบการ เพื่อเกิดความสมดุลอยู่ได้ทั้งแรงงาน และผู้ประกอบการ แต่การขึ้นค่าแรง 400 บาทในวันที่ 1 ตุลาคมนี้นั้น กระทรวงฯ มีความพร้อม เหลือเพียงการประชุมของคณะกรรมการไตรภาคีพิจารณาอีกครั้งในวันที่ 17 และ 24 กันยายนนี้

 

:: “ภคมน” เหน็บพรรคร่วมฯ น้องใหม่ ด่ากัน 20 ปี พลอยร่วมรัฐบาลเฉย ::

รูดม่าน! แถลงนโยบายรัฐบาล - \"ภูมิธรรม\" ขอบคุณรัฐสภารุมระดมความเห็น

ขณะที่ การอภิปรายของนางสาวภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้อภิปรายแสดงความไม่เห็นด้วยกับนโยบายแลนด์บริดจ์ของรัฐบาล แต่ช่วงหนึ่งได้อภิปรายว่า พื้นที่ภาคใต้เหมือนโดนกลั่นแกล้ง โดนคำสาป เพราะหากไม่เลือกพรรคการเมืองหนึ่ง ก็จะไม่ได้ไม่งบประมาณมาบริหาร และพัฒนาภาคใต้ จึงอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้พรรคร่วมรัฐบาล พรรคใหม่ ตัดสินใจไปร่วมรัฐบาล เพื่อหวังจะให้งบประมาณ และทรัพยากรมาลงในพื้นที่ภาคใต้ ดังนั้น รัฐบาลนางสาวแพทองธาร ทำให้ตนเองตาสว่างว่า เคยต่อว่า เคยวิพากษ์วิจารณ์ พูดจาให้ร้าย หรือที่คนใต้เรียกว่า “นำรบเพื่อน” สุดท้ายก็พลอยไปเป็นรัฐบาลด้วย ทั้งที่ คนใต้ถือเรื่องเกียรติ ศักดิ์ศรี และสัจจะวาจา

 

:: “ชวน” แนะรัฐบาลหากอยากให้คนไทยปรองดอง ต้องไม่เลือกปฏิบัติ เตือนนายกฯ-รมต.ต้องซื่อสัตย์บริหารราชการแผ่นดิน ไม่เอื้อประโยชน์ ::

ด้าน นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับว่า ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล แต่ความจริงก็คิดความจริง พร้อมยังกล่าวถึงคำแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ระบุถึงความสามัคคีปรองดองว่า การจะเกิดความสามัคคีปรองดองได้ จะต้องปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ โดยขอให้รัฐบาล ลองทบทวนดูว่า ในช่วงที่ผ่านมา อะไรที่ทำให้เกิดความขัดข้องหมองใจ ทำให้เกิดความขัดแย้งไม่ปรองดอง อันเกิดขึ้นจากความรู้สึกว่าไม่ได้รับการปฏิบัติโดยเสมอภาค

รูดม่าน! แถลงนโยบายรัฐบาล - \"ภูมิธรรม\" ขอบคุณรัฐสภารุมระดมความเห็น

นายชวน ยังขอให้คณะรัฐมนตรี ให้ความชัดเจนว่า การบริหารราชการแผ่นดิน จะไม่ใช่เพื่อประโยชน์พรรคการเมืองของตัวเอง ไม่ทำเพื่อประโยชน์เขตเลือกตั้งของตัวเอง แต่จะต้องคิดถึงประโยชน์ของประเทศ และประชาชน และยึดหลักนิติธรรม

 

:: รูดม่าน! แถลงนโยบาย ครม.มีอำนาจเต็มบริหารราชการแผ่นดิน ::

ทั้งนี้ ภายหลังการอภิปรายนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาเสร็จสิ้นแล้ว จะไม่มีการลงมติใด ๆ และนายกรัฐมนตรี สามารถนำคณะรัฐมนตรี เข้าบริหารราชการแผ่นดินได้โดยสมบูรณ์ มีอำนาจสั่งการเต็มทุกประการตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด