11 สิงหาคม 2567 เป็นเรื่องราวที่ผู้คนในโซเชียลแชร์และวิจารณ์อย่างมาก กรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งไลฟ์สดเหตุการณ์ การปะทะคารมระหว่างหนุ่มคนขับแท็กซี่ กับสาวขับรถเบนซ์หรู ซึ่งทราบในเวลาต่อมาว่า เป็นภายในบริเวณ คอนโดหรูแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 9 ตั้งแต่ต้นจนถึงมีการขึ้นโรงพัก สน.ห้วยขวาง
ดูคลิปเต็มคลิก>>>
กรณีดังกล่าว พ.ต.อ.ประสมโชค เนียมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง ให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 00.40 น.ของวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา เป็นเหตุเกิดขึ้นมาจากการกระทบกระทั่งกัน ในการใช้รถใช้ถนน ระหว่างรถแท็กซี่กับรถเบนซ์ซึ่งเป็นคู่กรณี
โดยเริ่มแรก มีการลงมาปะทะด้วยวาจากันก่อน จนกระทั่งเหตุการณ์บานปลายดังที่ปรากฏในคลิปที่เห็น ซึ่งถึงขั้นมีการลงไม้ลงมือ ทำร้ายร่างกายกัน โดยในวันที่เกิดเหตุ หลังจากตำรวจได้เดินทางไประงับเหตุ ก็ได้เชิญคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย มาพบพนักงานสอบสวนที่ สน.ห้วยขวาง
จากนั้น ได้มีการสอบปากคำคู่กรณี พร้อมทั้งมีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ไว้เป็นหลักฐานเป็นที่เรียบร้อย ส่วนปริมาณค่าแอลกอฮอล์ ที่ตรวจวัดนั้นขอเก็บไว้เป็นสำนวน และเนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าว มีการทำร้ายร่างกายกัน จึงได้มีการทำใบส่งตัวไปให้แพทย์ตรวจรักษาก่อน และได้มีการนัดหมาย ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายคนขับแท็กซี่ผู้หญิงที่ที่ขับรถเบนซ์ เข้ามาให้ปากคำโดยละเอียดเมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมาแล้ว
โดยวานนี้ (10 ส.ค.) พนักงานสอบสวนก็เรียกตัวพยาน 2 ครับ ซึ่งเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ที่อยู่ในที่เกิดเหตุและได้มีการเข้าไปห้ามปรามมาสอบปากคำ โดยละเอียดด้วยเช่นกัน เพื่อใช้ประกอบในสำนวนคดี ส่วนทางด้านฝ่ายสืบสวนก็ได้ลงพื้นที่ ไล่เก็บกล้องวงจรปิด ทั้งในส่วนของคอนโดดังกล่าวและบริเวณถนน ก่อนที่จะเข้าคอนโดเพื่อลำดับเหตุการณ์ ตั้งแต่จุดที่เริ่มมีการกระทบกระทั่งกันบนท้องถนน จนไปถึงบริเวณคอนโด ที่เกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งมีการลงมา กระทบกระทั่งกันทั้งวาจาอีกครั้ง จนกระทั่งเกิดลมไม้ลงมือทำร้ายร่างกายกัน หมดแล้ว ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้ง ข้อกล่าวหาผู้ใด อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานของ พนักงานสอบสวน
แต่ในเบื้องต้นทั้งสองฝ่ายต่างข้อกล่าวหาซึ่งกันและกัน ซึ่งในการแจ้งข้อกล่าวหานี้ พนักงานสอบสวนต้องนำมาประกอบกับพยาน และหลักฐานที่ได้จากกล้องวงจรปิด ก่อนที่จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป ส่วนทางด้านบุคคลที่ 3 ที่มีการกล่าวอ้างถึง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เป็นข้าราชการตำรวจสัญญาบัตร ในสังกัดแห่งหนึ่ง ซึ่งจากกรณีนี้ ก็จะมีการเชิญมาให้ปากคำด้วยเช่นกัน เพื่อที่จะนำมาประกอบในสำนวนด้วย
พ.ต.อ.ประสพโชค ยังกล่าวย้ำและยืนยันอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับข้าราชการตำรวจ ส่วนไหน อย่างไร ทางพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง จะดำเนินการตามข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานที่ปรากฏและจะทำอย่างตรงไปตรงมา และขอให้ความมั่นใจกับคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายว่าจะได้รับความเป็นธรรม ทั้ง 2 ฝ่าย