จากกรณีคนร้าย 2 คนใช้รถจักรยานยนต์ (จยย.) สีดำ ไม่ทราบทะเบียน ใช้อาวุธปืนก่อเหตุชิงทรัพย์เงินสดประมาณ 3.3 ล้านบาท จากผู้เสียหายชาวจังหวัดสมุทรปราการ ทำธุรกิจเกี่ยวกับค่ายโทรศัพท์มือถือ หลังเบิกเงินจากธนาคาร หลบหนีไป เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถห้าง ถนนพัฒนาการ เขตสวนหลวง กทม. เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ล่าสุดวันที่ 4 ก.ย. 25697 ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด วันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 15.27 น. สามารถจับภาพ 2 คนร้าย เป็นชาย ขี่รถ จยย. รุ่นเอ็กซ์แม็กซ์ สีน้ำเงิน-ดำ มาดักรอผู้เสียหายหน้าธนาคาร ระหว่างรอ พบว่าคนร้ายหนึ่งคน สวมหมวกกันน็อกสีขาว คร่อมรถจักรยานยนต์สแตนบายอยู่
ส่วนคนร้านอีกหนึ่งคนใส่เสื้อแขนยาวสวมฮู๊ด ยืนรออยู่ข้างธนาคาร และจังหวะที่ผู้เสียหาย ซึ่งสวมเสื้อยืดสีดำ ออกจากธนาคาร และกำลังเปิดประตูฝั่งซ้ายด้านหลัง คนร้ายที่สวมฮู้ดสีดำ ได้วิ่งเข้าไปประกบ แล้วดันตัวผู้เสียหายเข้าไปในรถ ก่อนใช้ปืนจี้บังคับให้ผู้เสียหายส่งเงินให้ ใช้เวลายื้อยุดภายในรถประมาณ 45 วินาที
ก่อนที่คนร้ายจะชากกระเป๋าสีน้ำเงินที่ใส่เงิน 3.3 ล้านบาท แล้ววิ่งมาขึ้นรถจักรยานยนต์ ที่คนร้ายอีกคนสตาร์ทเครื่องรอไว้ แล้วบิดหนีไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้นผู้เสียหายที่สวมเสื้อยืดสีดำ ซึ่งเป็นคนที่นั่งมาในรถยนต์ตั้งแต่แรก เปิดประตูลงมาและได้พยายามวิ่งไล่ตาม ถ่ายตำหนิรูปพรรณของรถจักรยานยนต์ ส่วนเพื่อนอีกคน ฝั่งผู้เสียหาย ที่สวมเสื้อเชิ้ตลายสีฟ้า ซึ่งเป็นคนขับรถ ได้ขับรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นวิช สีบรอนซ์ ไล่ตามไปติดๆ แต่ไม่ทัน
ผู้เสียหายคนที่เป็นคนเบิกเงิน เสื้อสีดำ ลงจากประตูด้านหลังรถ ก็มีลักษณะพยายามวิ่งไล่ตามรถไปคนหลังสุด โดยภาพวงจรปิดจับภาพคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ หลบหนีมุ่งหน้าถนนพัฒนาการ ฝั่งขาออก
จากนั้่นเวลา 15.33น. หลังจาก2คนร้านกลับรถบริเวณโรงเรียนแล้ว ก็ขี่มุ่งหน้าย้อนกลับมาทางแยกพัฒนาการ ก่อนจะขี่ข้ามสะพานข้ามแยกมุ่งหน้าไปคลองตัน โดยในภาพ 2คนร้ายจะขี่รถจักรยานยนต์อยู่เลยขวาสุด และขับด้วยความเร็ว
ที่สำคัญภาพจากกล้องวงจรปิด มุมนี้ จะเห็นชัดเจนว่า คนร้าย 2คน ได้มีการสลับตำแหน่งกัน โดยคนที่ขี่รถเป็นคนที่ลงไปชิงเงิน แล้วตอนนี้ได้นำหมวกกันน็อคมาใส่แล้ว ส่วนคนซ้อนท้ายจากเดิมตอนหลบหนีเป็นคนขี่ ก็สลับมาเป็นคนซ้อน
นอกจากนี้ยังพบด้วยว่า กระเป๋าที่ใส่เงินได้ย้ายจากระหว่างคนขี่กับคนซ้อนมาตรงที่พักเท้าคนขับขี่ ส่วนคนซ้อนท้ายหากดูจากภาพกล้องวงจรปิดแล้ว มีการหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาลักษณะเหมือนกับว่าติดต่อกับใครบางคน ก่อนที่จะขี่มุ่งหน้าไปคลองตัน