บรรดาลูกค้ายังคงต่อคิวอยู่หน้าร้าน "Hawker Chan" ในย่านไชนาทาวน์ของสิงคโปร์ หลังถูก "Michelin Guide" คัมภีร์ด้านอาหารที่ทรงอิทธิพล ถอด ดาวมิชลิน มีอยู่ 1 ดวงไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันที่ 1 กันยายน เพราะความพึงพอใจของพวกเขาไม่ได้ขึ้นอยู่กับ "Michelin stars" แต่ขึ้นอยู่กับเงินในกระเป๋า ตราบใดที่ร้านยังเปิดและมีเมนูดั้งเดิมที่พวกเขาคุ้นเคย เช่นข้าวหน้าไก่ซีอิ๊ว, บะหมี่หมูแดง,บะหมี่หมูกรอบ, ซี่โครงหมูย่าง และบะหมี่ไก่ซีอิ๊ว ลูกค้าก็ยังเหนียวแน่นเช่นเดิม ส่วนหนึ่งเพราะการนำเสนออาหารรสชาติระดับขึ้นเหลาในราคาประหยัด เข้ากับภาวะเศรษฐกิจในยุคนี้
ร้านสตรีทฟู้ดแห่งนี้ที่มีชื่อเดิมยาวเหยียดว่า "Liao Fan Hong Kong Soya Sauce Chicken Rice & Noodles" ถือกำเนิดโดย "ชาน ฮน เมง" ผู้ชายตัวเล็กๆ ที่ขยันทำงานตัวเป็นเกลียว จนกระสบความสำเร็จในการคว้า ดาวมิชลิน มาครองเมื่อ 5 ปีก่อน และได้รับการยกย่องจากสื่อนานาชาติ ที่เสิร์ฟอาหารหรูระดับ ดาวมิชลิน ในราคาที่ย่อมเยาที่สุดบนโลกใบนี้ และเขาได้ขยายกิจการไปเรื่อยๆ นอกจากเปิดสาขาเพิ่มอีกหลายสาขาที่ สิงคโปร์ แล้ว ยังมาเปิดที่ประเทศไทย ฟิลิปปินส์ และไปไกลถึงออสเตรเลียกับคาซัคสถานด้วย ซึ่งเชื่อว่าเขาได้รับผลตอบแทนคุ้มค่าการให้ใช้ชื่อและสูตรอาหารของเขากับแบรนด์ "Hawker Chan" สำหรับการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ
แม้จะมีชื่อเสียงแต่ ชาน ฮน เมง ยังคงปรากฎตัวที่ร้านเล็กๆ ของเขา เพื่อทำอาหารและให้บริการลูกค้ามาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนการขยายสาขาที่ "มากเกินไป" อาจเป็นสาเหตุให้เขาถูกถอด ดาวมิชลิน แต่เหมือนจะไม่มีผลกระทบใดๆ เพราะลูกค้าที่เข้าคิวหน้าร้านต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องการลิ้มรสชาติดั้งเดิมสมราคาที่ครบเครื่องและดีอยู่แล้วก่อนที่จะก้าวสู่แบรนด์ระดับสากล และไม่แยแสว่าจะมี ดาวมิชลิน หรือไม่ เพราะมิชลินเองก็มี "ตำหนิ" ไม่น้อย ในเรื่องของการคัดเลือกร้านอาหารที่เน้นไปที่ยุโรปกับอเมริกาเหนือ และแอบ ให้ร้านระดับไฮเอนด์ "มาก่อน" สตรีทฟู้ด