4 ธันวาคม 2567 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เปิดเผยถึง 2 คดีสำคัญ ว่า คดีเรื่องแรก เรื่องพินัยกรรม ของ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ “เจ๊อ้อย” ขณะนี้ ตนยังไม่ได้รับการประสานจากผู้ที่ได้รับมอบอำนาจจาก “เจ๊อ้อย” ที่จะเข้าแจ้งความเอาผิดนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” แต่อย่างใด แต่หากจะเดินทางเข้ามาแจ้งความ ก็มาได้เลย ที่ บช.ก. มีร้อยเวรคอยรับแจ้ง
เมื่อถามว่า ข้อมูลพินัยกรรม ก่อนหน้านี้มีการสอบปากคำเนื้อหาข้อมูลกับตัว “เจ๊อ้อย” ไปบ้างแล้วหรือไม่ พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า ทางตำรวจมีการสอบสวนในทุกมิติ และมีการสอบไปบ้างแล้ว โดยเป็นการสอบในพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องทั่วไป เพราะขณะนั้น “เจ๊อ้อย” ยังไม่ได้มีการร้องทุกข์ในเรื่องนี้
เมื่อถามว่า หากผู้รับมอบอำนาจมาแจ้งความแทน จะต้องมีการเชิญ “เจ๊อ้อย” มาสอบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่ พล.ต.ต.มนตรี ระบุว่า ก็ต้องดูข้อเท็จจริงก่อนว่าเป็นอย่างไร หากยังขาดตกบกพร่องส่วนไหน ก็จะมีการเรียกมาสอบเพิ่มเติม
ในส่วนที่มีการแจ้งข้อหากับ “ทนายตั้ม” เพิ่มเติมอีก 7 ข้อหา ในคดีโกงเงิน “เจ๊อ้อย” 39 ล้าน มีข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน, ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน, ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและ ได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน"
และในส่วนของความชัดเจนในการออกหมายเรียก หรือ หมายจับใครเพิ่มเติม ขณะนี้ใกล้จะได้รับความชัดเจนแล้ว เพียงแต่ว่าตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของอัยการสูงสุด ว่าจะมอบอำนาจหรือมอบหมายให้ผู้ใดเป็นผู้สอบสวน หรือทางอัยการจะร่วมสอบสวน แต่ทางตำรวจก็ทำสำนวนควบคู่กันไป
เมื่อถามว่า หาก “ทนายตั้ม” ไม่มีทนายความ เจ้าตัวสามารถดำเนินการในชั้นศาลด้วยตัวเองได้หรือไม่ พล.ต.ต.มนตรี ระบุว่า ขณะที่มีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมพบว่าตัว “ทนายตั้ม” มีทีมทนายความอยู่แล้ว โดยปกติหากคดีที่มีโทษจำคุกแล้วเจ้าตัวไม่มีทนาย ทางศาลก็จะตั้งทนายความให้ รวมถึง “ทนายตั้ม” ก็สามารถขอซักค้านในชั้นศาลด้วยตังเองได้
ส่วนกรณีของอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ที่มีการออกมาเปิดถึงเส้นเงินของ “ทนายตั้ม” จำนวนกว่า 100 ล้านบาท ที่เป็นเส้นเงินคนละส่วนของ “เจ๊อ้อย” ได้มีการตรวจสอบย้อนหลังไปบ้างแล้วหรือยัง พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า มีการตรวจสอบทุกทาง แต่ตอนนี้เน้นในเรื่องการกระทำความผิดที่ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษก่อน
สำหรับเรื่องที่สอง กรณีนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ “ฟิล์ม” ตอนนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อ หรือได้รับรายงานมาแต่อย่างใด และยังไม่ได้รับการประสานแจ้งเลื่อนหมายเรียกในครั้งนี้ เบื้องต้น ในการขอเลื่อนก็ต้องดูว่ามีเหตุผลความจำเป็นที่ไม่มาพบตำรวจหรือไม่
หากมีความจำเป็นก็จะออกหมายเรียก ครั้งที่ 2 ซึ่งไม่ได้มีการกำหนดว่าจะต้องออกหมายเรียกกี่ครั้ง แต่โดยทั่วไปจะออกหมายเรียกประมาณ 2 ครั้ง
ทั้งนี้ นายรัฐภูมิ มีสิทธิ์ที่จะมีทนาย หรือผู้ที่ไว้วางใจเข้าร่วมสอบสวนด้วย โดยนายรัฐภูมิ ยังไม่ถูกออกหมายจับ เนื่องจากอยู่ที่พยานหลักฐาน