เวลา13.00น. วันที่24สิงหาคม2563ที่วัดบูรพาภิรมย์ บ้านโพนบกใหม่ ตำบลบ้านเหล่า อำเภอเจริญศิลป์ จังหวัดสกลนคร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพนายอุทัย ขันอาสา อดีตพนักงานรักษาความปลอดภัย ศูนย์การค้าเทอร์มินอล21โคราช ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์คนร้ายคลั่งกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต รวม30ศพ โดยรับศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ประวัติ นายอุทัย ขันอาสา อายุ39ปี เป็นชาวบ้านโพนบก ต.บ้านเหล่า อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร สถานภาพหย่าร้าง มีบุตรชาย1คน นายอุทัย ขันอาสา ได้เข้าทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา เป็นคนมีอัธยาศัยดี เป็นที่รักของบุคคลและเพื่อนร่วมงาน เหตุการณ์สะเทือนขวัญ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ต่อเนื่องวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 ได้มีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนไล่กราดยิงประชาชนผู้บริสุทธิ์ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และคนร้ายได้หลบหนีเข้ามาภายในห้าง โดยมีเจ้าหน้าที่พนักงานรักษาความปลอดภัยของทางห้างเทอร์มินอล21คอยดูแลความปลอดภัย และพาประชาชนหลบหนีออกมาจากห้างได้ และนายอุทัย ขันอาสา เป็นหนึ่งในพนักงานรักษาความปลอดภัย ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงอาการสาหัส ที่ด้านหลังทะลุท้อง โดยได้เข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บ อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่หลังเกิดเหตุ เป็นระยะเวลากว่า6เดือน
โดยการรักษา คณะแพทย์ได้ผ่าตัดเอาลำไส้ใหญ่ออก และเจาะเปิดช่องท้องด้านหน้า รักษาจนอาการดีขึ้น จนสามารถกลับมาพักฟื้นที่บ้านเกิด ที่ จ.สกลนคร ต่อมาได้ตรวจพบพังผืดที่บริเวณแผลด้านใน จำเป็นต้องกลับมาผ่าตัดรอบ 3 ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมาอีกครั้ง ในวันที่ 20 สิงหาคม 2563 ซึ่งการผ่าตัดแก้ไขและปิดบาดแผลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่เมื่อนำเข้าห้องพักฟื้นคนไข้ศัลยกรรม นายอุทัยฯ เกิดอาการไอ ทำให้บาดแผลสะเทือนมีเลือดออกภายในเป็นจำนวนมาก ต้องรีบแก้ไขอาการและเย็บบาดแผลให้ใหม่ หลังจากนั้น เกิดการอักเสบมีอาการแทรกซ้อน จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตลง เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันที่ 22 สิงหาคม 2563 ยังความโศกเศร้าเสียใจให้กับญาติพี่น้อง โดยเมื่อวันที่22สิงหาคม2563นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นผู้เชิญพวงมาลาหลวงพระราชทาน วางหน้าหีบศพ นายอุทัย ขันอาสา และทรงรับศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ แก่ครอบครัวขันอาสา