ผู้นำไต้หวันประกาศกร้าว ยืนหยัดต้านจีนผนวกดินแดน

ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคม กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเฉลิมฉลองวันชาติในวันพฤหัสบดี (10 ตุลาคม) โดยย้ำชัดว่า สาธารณรัฐจีน ซึ่งเป็นชื่อทางการของไต้หวัน ไม่ได้อยู่ใต้อาณัติของสาธารณรัฐประชาชนจีน ดังนั้นจีนจึงไม่มีสิทธิที่จะเป็นตัวแทนของไต้หวัน และบอกด้วยว่า ความมุ่งมั่นของไต้หวันที่จะปกป้องอธิปไตย, รักษาสันติภาพในช่องแคบไต้หวัน และแสวงหาการเจรจาอย่างสมศักดิ์ศรีและเสมอภาคกันกับจีนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้เขาบอกด้วยว่า ในฐานะประธานาธิบดี เขาจะยึนหยัดต้านทานการผนวกดินแดนหรือการรุกล้ำอธิปไตยของไต้หวัน

อย่างไรก็ตามเขาบอกว่า ไต้หวันพร้อมทำงานร่วมกับจีนเพื่อต่อสู้กับความท้าทายต่าง ๆ ในโลก และเรียกร้องให้จีนแสดงความรับผิดชอบในเวทีระหว่างประเทศ โดยตอบสนองความคาดหวังของประชาคมโลกที่อยากเห็นจีนใช้อิทธิพลที่มี และทำงานร่วมกับประเทศอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมให้เกิดสันติภาพ ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองทั้งในภูมิภาคและทั่วโลก

ก่อนหน้านี้นายไล่เพิ่งสร้างความโกรธเคืองให้กับจีน โดยกล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างสิ้นเชิงที่จีนจะเป็นแผ่นดินแม่ของไต้หวัน เพราะรัฐบาลไต้หวันมีอายุมากกว่า พร้อมกับเล่าย้อนประวัติศาสตร์ และบอกด้วยว่า จีนเพิ่งฉลองวันชาติอายุ 75 ปี แต่ไต้หวันฉลองวันชาติครบ 113 ปี

สาธารณรัฐจีนก่อตั้งขึ้นในปี 2455  หลังการปฏิวัติโค่นล้มราชวงศ์ชิง ที่เป็นราชวงศ์สุดท้ายของจีน และรัฐบาลจีนคณะชาติย้ายไปไต้หวันในปี 2492 หลังพ่ายแพ้ให้กับพรรคคอมมิวนิสต์ของเหมา เจ๋อตง ในช่วงสงครามกลางเมือง และพรรคอมมิวนิสต์จีนก็ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในวันที่ 1 ตุลาคม 2492

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวในวันก่อนครบรอบ 75 ปี วันชาติจีน โดยย้ำว่า แผนการรวมชาติกับไต้หวันเป็นสิ่งที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ และไม่มีใครหยุดยั้งเรื่องนี้ได้ พร้อมทั้งให้คำมั่นอย่างเด็ดเดี่ยวต่อต้านกิจกรรมการแบ่งแยกดินแดนเพื่อแยกตัวเป็นเอกราชของไต้หวัน

รัฐบาลจีน มองว่า นายไล่เป็นพวกแบ่งแยกดินแดนและตัวอันตราย และความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไต้หวันตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ ตลอด 5 เดือน นับจากนายไล่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวัน