วันที่ 10 ตุลาคม 2567 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยพลตำรวจโทอัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อสอบถามความคืบหน้า รวมทั้งพูดคุยกับกลุ่มผู้เสียหายจากธุรกิจเครือข่าย The Icon Group
ภายหลังจากประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงคดีดังกล่าวว่า ในวันนี้สอบปากคำผู้เสียหายไปประมาณ 80 ปาก โดยพบว่ามีมูลค่าความเสียหายประมาณ 31 ล้านบาท ซึ่งยังไม่สามารถให้คำตอบว่าข้อมูลจากผู้เสียหายจากเข้าข่ายความผิดในข้อหาใดบ้าง จะเห็นก็ต่อเมื่อหลังจากนี้ที่จะมีการสืบสวนสอบสวนรายละเอียดกันอีกครั้ง
สำหรับข้อมูลที่ได้จากผู้เสียหายมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นกรณีความผิดที่เกี่ยวกับเรื่องของธุรกิจการขายตรง แชร์ลูกโซ่ และการหลอกลวงลงทุน ซึ่งข้อมูลที่ได้มานั้นทางเจ้าหน้าที่เองอยู่ระหว่างการจับกลุ่มผู้เสียหายว่ามีทิศทางเป็นความผิดแบบไหน
และจากข้อมูลพบว่าพฤติกรรมของบริษัทที่ถูกกล่าวหามีการชักชวนเพื่อจะให้ทำธุรกิจ โดยมีการอบรมเสียค่าอบรม จากนั้นเข้าสู่กระบวนการเปิดเครดิต ด้วยการแบ่งเป็นระดับ ธรรมดา 2,500 บาท / ระดับซุปเปอร์ 25,000 บาท และระดับดีลเลอร์ 250,000 บาท ซึ่งตอนนี้รายละเอียดบริษัทยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีการจดทะเบียนแบบไหน และตามเงื่อนไขตามที่จดทะเบียนหรือไม่
ส่วนดารานักแสดงชื่อดังที่ถูกเชื่อมโยงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั้น จะปรากฏข้อเท็จจริงก็ต่อเมื่อได้ข้อมูลจากผู้เสียหายในวันนี้ หากพบว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิดหรือสนับสนุน ขอยืนยันกับผู้เสียหายเอาไว้ว่า ขอให้มั่นใจกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะได้กำชับเจ้าหน้าที่ไว้ว่าจะไม่มีการละเว้นใครทั้งนั้น หากผิดก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ดังนั้น ดาราแสดงที่มาเป็นพรีเซนเตอร์ หรือช่วยโฆษณาสินค้า หรือมีส่วนร่วมในการบริหาร ก็จะดูข้อเท็จจริงเบื้องต้นเรื่องนี้ก่อนว่ามีการทำความผิดข้อหาอะไร ซึ่งจนถึงตอนนี้ ในขณะนี้ยังไม่มีดารานักแสดงคนใดติดต่อมาให้ข้อมูล
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยังบอกอีกว่า ไม่ต้องกลัวว่าทางบริษัทที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยจะโยกย้ายทรัพย์สินไปไหน แม้ตอนนี้พูดตามตรงว่า ถ้าตำรวจยังไม่มีสิทธิ์ในการยึดทรัพย์ แต่ในวันนี้จะทำหนังสือถึง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เพื่อใช้อำนาจของ ปปง. ให้ทำการอายัดทรัพย์ของเจ้าของบริษัททั้งหมดเอาไว้ก่อน เพราะในตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะมีการกระทำความผิดในข้อหาอะไรหรือไม่
ส่วนดารานักแสดงชื่อดังที่ได้รับเงินจากบริษัทดังกล่าวไป ต้องตรวจสอบว่าได้รับเงินเดือนจากบริษัทดังกล่าวต้องตรวจสอบว่าได้รับเงินมาในรูปแบบใด หากมีส่วนร่วมด้วยกันก็จะไม่มีข้อยกเว้นเช่นเดียวกัน
สำหรับหลักฐานที่ผู้เสียหายนำมาในวันนี้จะเพียงพอต่อการเรียกผู้ต้องสงสัยมาให้ปากคำหรือไม่นั้น ต้องดูว่า ถ้าหากหลักฐานนี้มีองค์ประกอบว่ามีความผิดจริงก็จะออกหมายเรียกมาทันที
นอกจากนี้ ในส่วนที่ผู้เสียหายจากบริษัท The Icon Group บางคนเข้าไปแจ้งความคดีดังกล่าวที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อปี 2565 ตอนนี้ตนยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ได้สั่งให้ พลตำรวจโทอัคราเดช ตรวจสอบว่าเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ หากพบก็จะดำเนินการทั้งอาญาและวินัย โดยไม่ละเว้นอย่างแน่นอน
ส่วนกรณีที่มีผู้ประกาศข่าวช่องหนึ่งถูกข่มขู่เอาชีวิตกลางรายการ ยืนยันว่าจะต้องตรวจสอบและหาตัวคนที่ข่มขู่มาดำเนินคดีให้ได้ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
อย่างไรก็ตาม ทางว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากบริษัทดังกล่าว หากไม่สะดวกที่จะเดินทางมาแจ้งความที่ตำรวจสอบสวนกลางได้ ทางตำรวจก็จะมีการเปิดเว็บไซต์ เพื่อให้ประชาชนสามารถแจ้งความผ่านทางออนไลน์ได้