svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ครั้งแรกในศรีลังกา เลือกตั้ง ปธน.นับคะแนนใหม่ หลังไม่มีใครชนะเกินครึ่ง

การเลือกตั้งประธานาธิบดีในศรีลังกาต้องนับคะแนนรอบสองเป็นครั้งแรกแรกในประวัติศาสตร์ หลังจากไม่มีผู้สมัครคนใดได้คะแนนเสียงเกินครึ่ง

ประชาชนในศรีลังกาใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันเสาร์ โดยเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกนับจากเกิดการประท้วงใหญ่ทั่วประเทศ ที่ทำให้ประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ต้องลาออกจากตำแหน่งในปี 2565 สืบเนื่องจากความโกรธแค้นต่อวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ และปัญหาคอร์รัปชัน

คณะกรรมการการเลือกตั้ง ระบุว่า การเลือกตั้งปีนี้ที่มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากถึง 17 ล้านคน จัดขึ้นได้อย่างสงบเรียบร้อยที่สุด แต่ตำรวจประกาศเคอร์ฟิวช่วงค่ำวันเสาร์ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัยระหว่างรอผลการนับคะแนน และยกเลิกเคอร์ฟิวในช่วงเที่ยงวันอาทิตย์แล้ว

อนุรา กุมารา ดิสซานายาเก  นักการเมืองที่มีแนวคิดมาร์กซิสต์

ผลการนับคะแนน พบว่า นายอนุรา กุมารา ดิสซานายาเก  นักการเมืองที่มีแนวคิดมาร์กซิสต์ มีคะแนนเสียงเป็นอันดับหนึ่ง คือ 42.31%  และนายซาจิธ เปรมาดาซา ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน อยู่ในอันดับสอง 32.76%

แต่ตามกฎหมายเลือกตั้งกำหนดว่า ผู้สมัครที่จะได้รับการประกาศเป็นผู้ชนะ จะต้องได้รับคะแนนเสียงเกิน 50% ด้วยคะแนนเสียงอย่างน้อย 1 เสียง ทำให้จะมีการนับคะแนนเลือกตั้งรอบสอง ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ต้องนับคะแนนใหม่ โดยในการเลือกตั้งประธานาธิบดี 8 ครั้งที่ผ่านมา นับจากปี 2525 สามารถทราบผู้ชนะในการนับคะแนนรอบแรก

กฎหมายเลือกตั้งกำหนดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถลงคะแนนให้กับผู้สมัครได้ 3 คน โดยเรียงลำดับตามความชอบ จึงจะมีการนับคะแนนของผู้สมัครที่อยู่ในอันดับ 2 และอันดับ 3 ด้วยว่า มีคะแนนที่เลือกผู้สมัครทั้งสองตัวเก็งหรือไม่

ซาจิธ เปรมาดาซา ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน

ขณะที่ประธานาธิบดีรานิล วิกรมสิงเห ได้คะแนนเสียงเพียง 17.27% อยู่ในอันดับสาม เขามีผลงานในการเจรจาจนได้รับเงินกู้ช่วยเหลือ 2,900 ล้านดอลลาร์จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แต่ต้องดำเนินมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจและธรรมาภิบาลที่เข้มงวดตามเงื่อนไขของ IMF

ด้านดิสซานายาเก ให้สัญญาหาเสียงไว้ว่าจะดำเนินมาตรการต่อต้านคอร์รัปชันอย่างจริงจังและส่งเสริมธรรมาภิบาล ซึ่งเป็นนโยบายที่ตรงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบนับจากเกิดวิกฤตในประเทศ และสัญญายุบสภาภายใน 45 วัน หลังเข้ารับตำแหน่งเพื่อจัดการเลือกตั้งทั่วไป ที่จะเป็นการขอขอฉันทามติจากประชาชนสำหรับนโยบายของเขา

ส่วนเปรดามาซา เป็นทายาทของอดีตประธานาธิบดีรานาสิงเห เปรดามาซา ที่เสียชีวิตในเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในปี 2536 และให้สัญญาจะเจรจาแก้ไขเงื่อนไขข้อตกลงเงินกู้กับ IMF พรรคการเมืองที่มีแนวคิดสายกลางของเขาสัญญาปฏิรูปภาษีเพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน