อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลีกันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีชองสหรัฐฯ ตกเป็นเป้าของความพยายามลอบสังหาร ที่ ทรัมป์ อินเตอร์แนชันแนล กอล์ฟ คลับ ในเวสต์ ปาล์ม บีช รัฐฟลอริดา เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ (15 กันยายน) แต่เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาประธานาธิบดีสามารถยับยั้งเหตุการณ์ไว้ได้ หลังจากพบมือปืนซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ใกล้สนามกอล์ฟ ห่างจากจุดที่ทรัมป์กำลังตีกอล์ฟราว 365-457 เมตร จึงยิงใส่ผู้ต้องสงสัยอย่างน้อย 4 นัดเมื่อเวลาราว 13.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนเขาทิ้งปืนไรเฟิล AK-47 กับกระเป๋าสะพาย 2 ใบ และสิ่งของอื่นๆ แล้วขึ้นรถยนต์หลบหนีไป แต่เจ้าหน้าที่ตามจับตัวได้ในเวลาต่อมา
สำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) กำลังสอบสวนหาแรงจูงใจของความพยายามลอบสังหารครั้งนี้ ที่เกิดขึ้นในเวลาราว 2 เดือน หลังทรัมป์ถูกลอบยิงทำให้ได้รับบาดเจ็บที่หูขณะปราศรัยหาเสียงที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนียเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ขณะที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ผู้ต้องสงสัยรู้ได้อย่างไรว่าทรัมป์กำลังเล่นกอล์ฟในเวลานั้น ทำให้จุดประเด็นคำถามครั้งใหม่เกี่ยวกับระดับการคุ้มกันที่เขาได้รับ หลังจากเหตุลอบยิงที่เพนซิลเวเนีย ที่มือปืนวัย 20 ปี สามารถยิงจากหลังคาในระยะไม่กี่ร้อยเมตรจากเวทีปราศรัย ทำให้มีการสอบสวนเกี่ยวกับความหละหลวมของการรักษาความปลอดภัย
ทั้งสองเหตุการณ์สะท้อนถึงความท้าทายในการคุ้มกันผู้สมัครประธานาธิบดีทั้งสองคนให้ปลอดภัย ในขณะที่บรรยากาศหาเสียงเลือกตั้งมีความดุเดือดสูสีและแบ่งขั้วอย่างชัดเจน ขณะที่ทำเนียบขาว ระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ซึ่งเป็นผู้สมัครประธานาธิบดีของพรรคเดโมแครต แสดงความโล่งอกที่ทรัมป์ปลอดภัย และแฮร์ริส โพสต์ใน X ด้วยว่า “ความรุนแรงไม่ควรมีอยู่ในอเมริกา”
ขณะที่ทรัมป์ ระบุในแถลงการณ์ว่า “ไม่กลัว ผมปลอดภัยและสบายดี และไม่มีใครบาดเจ็บ ขอบคุณพระเจ้า” และบอกด้วยว่า “แต่มีบางคนในโลกใบนี้ ที่จะทำทุกอย่างเพื่อหยุดยั้งเรา ผมจะไม่หยุดต่อสู้เพื่อพวกคุณ ผมจะไม่มีวันยอมแพ้” นอกจากนี้เขาบอกด้วยว่า “ด้วยความสามัคคีของเรา เราจะทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง”
สื่อรายงานว่า มือปืนที่ถูกจับกุมในข้อหาพยายามลอบสังหาร เป็นชาย วัย 58 ปี ชื่อ ไรอัน เวสลีย์ รูธ เขาเคยมีประวัติถูกจับกุม 8 ครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคดีเล็ก ๆ แต่มีข้อหาครอบครองปืนกลอัตโนมัติด้วย
และบัญชีผู้ใช้ชื่อเดียวกับเขาในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย บ่งชี้ว่า เขาเป็นผู้สนับสนุนตัวยงของยูเครนในสงครามที่กำลังต่อสู้กับการรุกรานของรัสเซีย และเขาระบุในบางโพสต์ว่า “พร้อมอาสาไปชายแดนยูเครนเพื่อต่อสู้และพร้อมสละชีพ” รวมทั้งบอกด้วยว่า “พลเรือนต้องเปลี่ยนแปลงสงครามครั้งนี้ และป้องกันไม่ให้เกิดสงครามอีกในอนาคต”
รูธ ซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการทหาร เคยให้สัมภาษณ์สื่อว่า เคยเดินทางไปยูเครน หลังรัสเซียบุก และต้องการช่วยรับสมัครทหารที่ต้องการสู้รบในยูเครน