svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

โป๊ปเยือนมัสยิดในอินโดนีเซีย แนะอยู่ร่วมกันในโลกหลากหลาย

โป๊ปฟรานซิสเสด็จเยือนมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย และเทศนาเตือนวิกฤตเลวร้ายจากความรุนแรงและสงคราม และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

โป๊ปเยือนมัสยิดในอินโดนีเซีย แนะอยู่ร่วมกันในโลกหลากหลาย

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เสด็จเยือนมัสยิด อิสติกลาล ในกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลกในวันพฤหัสบดี (5 กันยายน) และร่วมทำพิธีเปิดอุโมงค์ใต้ดินใหม่ ที่เชื่อมระหว่างมัสยิด อิสติกลาล และโบสถ์คาทอลิก ที่อยู่ตรงข้ามฝั่งถนน พระองค์ตรัสด้วยว่า อุโมงค์ยาว 28 เมตร ที่มีชื่อว่า อุโมงค์มิตรภาพ แห่งนี้แสดงให้เห็นว่า คนที่มีความเชื่อแตกต่างกันสามารถมีรากฐานร่วมกัน

นอกจากนี้โป๊ปฟรานซิส และอิหม่าม นาซารุดดิน อูมาร์ ออกแถลงการณ์ร่วมกันที่เน้นย้ำเรื่องวิกฤตเลวร้าย 2 ประการที่โลกเผชิญอยู่ คือ การลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

การลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์เห็นได้จากความรุนแรงและสงครามที่แผ่ขยายวงกว้าง และน่าวิตกด้วยว่า ศาสนามักถูกใช้เป็นเครื่องมือ ที่สร้างความทุกข์ยากแก่ผู้คน โดยเฉพาะผู้หญิง เด็ก และผู้สูงอายุ ทั้งที่ศาสนาควรมีบทบาทส่งเสริมและปกป้องเกียรติศักดิ์ศรีของมนุษย์ทุกคน

ส่วนการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเกิดจากการกระทำของมนุษย์ ที่นำไปสู่ผลลัพธ์ที่สร้างความเสียหายมากมาย เช่น ภัยพิบัติธรรมชาติ, โลกร้อน และสภาพอากาศที่ไม่อาจคาดเดาได้ และอุปสรรคต่อการอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ของประชาชน

โป๊ปเยือนมัสยิดในอินโดนีเซีย แนะอยู่ร่วมกันในโลกหลากหลาย

อิหม่ามนาซารุดดิน ยังกล่าวย้ำถึงความจำเป็นของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในโลกแห่งความหลากหลาย และโป๊ปฟรานซิส ยกตัวอย่างว่า เฟรดดริค ซิลาบัน ชาวคริสต์ผู้ออกแบบมัสยิด อิสติกลาล พิสูจน์ให้เห็นความจริงว่า มัสยิดและศาสนสถานอื่น ๆ ล้วนเป็นพื้นที่สำหรับการเจรจา การเคารพซึ่งกันและกัน และการอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ระหว่างความเชื่อทางศาสนาและจิตวิญญาณที่แตกต่างกัน

ตลอดระยะเวลาที่โป๊ปดำรงตำแหน่งประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกนับตั้งแต่ปี 2556 พระองค์ทรงมุ่งมั่นสร้างสะพานเชื่อมกับศาสนาอื่น ๆ และให้ความสำคัญเร่งด่วนกับการเพิ่มขึ้นของกลุ่มสุดโต่งในศาสนาต่าง ๆ

โป๊ปเยือนมัสยิดในอินโดนีเซีย แนะอยู่ร่วมกันในโลกหลากหลาย

และหลังการเยือนมัสยิด สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เสด็จประกอบพิธีมิสซา ที่สนามกีฬาแห่งชาติ ที่คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมพิธีมากถึงเกือบ 80,000 คน

ต่อจากนี้โป๊ปจะเสด็จไปยังปาปัวนิวกินี เป็นประเทศที่ 2 ของการเยือน 4 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศหมู่เกาะในแปซิฟิกใต้ ซึ่งรวมถึงติมอร์ตะวันออก และสิงคโปร์

การเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งนี้ที่รวมระยะเวลา 12 วัน โป๊ป ซึ่งมีพระชนมายุ 87 พรรษา และต้องประทับรถวีลแชร์ จะสร้างสถิติเดินทางด้วยเครื่องบินเป็นระยะทาง 32,814  กม. โดยจะเป็นการเดินทางระยะไกลที่สุด ยาวนานที่สุด และท้าทายที่สุดของพระองค์

โป๊ปเยือนมัสยิดในอินโดนีเซีย แนะอยู่ร่วมกันในโลกหลากหลาย