เอกวาดอร์เผชิญไฟดับทั่วประเทศช่วงบ่ายวันพุธ ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 เดือน ทำให้ประชาชนตกอยู่ในความมืด และรถไฟใต้ดินในกรุงกิโต เมืองหลวงก็หยุดชะงัก ทำให้ผู้โดยสารตกค้างภายในสถานี นอกจากนี้โรงพยาบาลหลายแห่งในกรุงกิโตต้องใช้เครื่องปั่นไฟสำรอง และประชาชนในเมืองกัวยากิล เมืองใหญ่ที่สุด เผชิญกับสภาพอากาศร้อนที่มีอุณหภูมิสูง 32 องศาเซลเซียส โดยไม่สามารถใช้เครื่องปรับอากาศได้ และไม่มีน้ำใช้
แต่จนถึงช่วงดึก ไฟฟ้ากลับมาใช้การได้ตามปกติเกือบ 95% ทั่วประเทศ และรัฐมนตรีระบบสาธารณูปโภค ระบุว่า ไฟดับครั้งนี้เป็นผลมาจากขาดการลงทุนในเรื่องการซ่อมบำรุง ระบบส่งจ่ายกำลังไฟฟ้าใหม่ และการดูแลโครงสร้างพื้นฐานการผลิตและส่งจ่ายไฟฟ้า
เอกวาดอร์ประสบวิกฤตพลังงานมานานหลายปีแล้ว และประธานาธิบดีดาเนียล โนบัวประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงานเมื่อเดือนเมษายน และสั่งตัดไฟทั่วประเทศนาน 8 ชม. ในช่วงที่ภัยแล้งส่งผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้า