ลาวประสบปัญหาตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว มาอยู่ที่กว่า 40% ส่งผลให้ประชาชนชาวลาวต้องใช้เงินมากขึ้นในการซื้อหาสินค้าและอาหาร เตรียมงานเฉลิมฉลองสงกรานต์
รัฐบาลลาวยังไม่สามารถแก้ปัญหาเงินเฟ้อได้ รวมถึงหนี้สาธารณะที่พุ่งสูง การอ่อนค่าของเงินกีบ กลายเป็นสารพัดปัญหาที่รุมเร้าประเทศลาวอยู่ในเวลานี้ ซึ่งคนส่วนใหญ่มีฐานะยากจน
เจ้าหน้าที่ลาวรายหนึ่ง บอกว่า เงินเฟ้อในช่วงสงกรานต์นี้ พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเงินบาทไทยแข็งค่า เนื่องจากสินค้านำเข้าของลาว ส่วนใหญ่มาจากไทย ตามมาด้วยเวียดนามและจีน สินค้าที่มาจากไทยจึงมีราคาแพงกว่าสินค้าที่มาจากเวียดนาม เพราะเงินบาทไทยแข็งค่านั่นเอง
เนื้อหมูในลาว ปัจจุบันขายกันที่กิโลกรัมละ 8 หมื่นกีบ หรือประมาณ 158 บาท จากเดิมที่เคยขายกิโลกรัมละ 7 หมื่นกีบ หรือประมาณ 138 บาท ก่อนที่จะเกิดปัญหาเงินเฟ้อ
ทางการลาวได้ส่งเจ้าหน้าที่เดินสำรวจตามท้องถนนและตลาด เพื่อควบคุมราคาอาหาร แต่พอเจ้าหน้าที่ไม่อยู่ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าก็ฉวยโอกาสกลับมาขายในราคาเดิมอีกเพื่อหวังฟันกำไรให้ได้มากที่สุด
ชาวลาวในกรุงเวียงจันทน์และในพื้นที่อื่นของประเทศ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เนื้อวัว ปลา และสินค้านำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน มีราคาพุ่งขึ้น ยิ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ่อค้าแม่ค้ายิ่งฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า เพราะตัวเลขเงินเฟ้อพุ่ง ส่งผลกระทบต่อชาวลาว ซึ่งมักกินดื่มอย่างหนักในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่ละบ้านมักจะออกมาซื้อหาอาหารตุนไว้เพื่อเฉลิมฉลองกับญาติมิตร
แม้ราคาสินค้าต่างๆ จะสูงขึ้นในประเทศลาว แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวจากจีน เกาหลีใต้ และไทย แห่เดินทางมาเยือนเมืองหลวงพระบาง แหล่งท่องเที่ยวมรดกโลก ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้