จับตา องค์กรอิสระ เคลื่อนไหว "ป.ป.ช." ไต่สวนคดี"บิ๊กโจ๊ก"

22 กันยายน 2567 เพราะ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ซึ่งเป็นกฎหมายตำรวจฉบับใหม่นั้น ได้กำหนดให้ต้องมีกฎของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ว่าด้วยการแต่งตั้ง ซึ่งลงประกาศใน"ราชกิจจานุเบกษา"ไปเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 และจะมีผลบังคับใช้ใน 180 วัน  

โดยหลังจากนั้นต้องจับตาว่า "นายกรัฐมนตรี" ในฐานะประธานก.ตร.จะนัดประชุมก.ตร.เพื่อลงมติเลือกผบ.ตร.คนที่15 ในเดือนตุลาคมนี้ว่าจะประชุมในวันใดและสร.1จะเลือกใครเป็นพิทักษ์1กับสามแคนดิเดตผบ.ตร.ตามที่สื่อมวลชนเสนอข้อมูลในตอนนี้
 

"นักวิเคราะห์การเมือง-วงการสีกากี"หลายคนชี้ชัดแล้วว่า "บิ๊กโจ๊ก"พ้นวงจรการถูกเสนอชื่อในครั้งนี้ไปแล้ว และรอเพียงอย่างเดียวว่า ศาลปกครองสูงสุดจะพิจารณาคำร้องของบิ๊กโจ๊กที่ยื่นไปในวันที่ 27 ส.ค.หลังกพค.ตร.เห็นชอบตามมติก.ตร.ว่า  คำสั่งให้"บิ๊กโจ๊ก"ออกจากราชการนั้นชอบด้วยกฎหมาย เพราะ"บิ๊กโจ๊ก"ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวและไต่สวนฉุกเฉินกับมติ กพค,ตร. และตอนนี้ยังไม่ทราบผลจากศาลปกครองสูงสุดในกรณีนี้ว่า จะออกมาอย่างไรและเมื่อใด  

สตช./ป.ป.ช./ปปง.ขยับคดี"บิ๊กโจ๊ก"

ย้อนไปวันที่13 กันยายน 2567  "พล.ต.อ. สุเชชษฐ์" ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อนายกรัฐมนตรีอ้างในกรณีที่สตช.แต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนที่ไม่เป็นธรรม  รวมทั้ง "พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์"ยังขอขยายเวลาชี้แจงต่อพล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รองผบ.ตร. ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัย "พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์" กรณีถูกกล่าวหาผิดวินัยร้ายแรง จากสำนวนคดีอาญาสน.เตาปูนในความผิดสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงินจากการสืบสวนสอบสวนคดีเว็บพนันออนไลน์(บีเอ็นเค มาสเตอร์) นั้นต้องติดตามว่า "บิ๊กโจ๊ก"จะได้ผลการวินิจฉัยจากนายกรัฐมนตรีและ"พล.ต.อ.สราวุฒิ"เมื่อใด

 

แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)แจ้งว่า  เมื่อเร็วๆนี้ "นายจักรกฤช ตันเลิศ" ผู้ช่วยเลขาธิการป.ป.ช.ส่งหนังสือถึงนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่บางนายในสตช.เพื่อไปให้ข้อมูลบางประการเพิ่มเติมกับป.ป.ช.ในวันที่ 25 ก.ย.ในวาระที่เกี่ยวกับสำนวนคดีของ" พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์" กับพวกเพื่อประกอบการพิจารณาไต่สวนของป.ป.ช.

สตช.งงหนังสือป.ป.ช.”ให้ข้อมูลเพิ่มเติม”

แหล่งข่าวจากสตช.แจ้งว่า หากพิจารณาหนังสือฉบับดังกล่าว จะพบว่า  "ไม่มีการระบุข้อมูลที่ป.ป.ช ต้องการสอบถามกับสตช." ซึ่งน่าพิจารณาว่า ป.ป.ช.มีความประสงค์ขอข้อมูลใดเพิ่มเติมจากสตช. เพราะโดยปกตินั้น หนังสือราชการที่ส่งไปยังไปยังหน่วยงานต่างๆเพื่อสอบถามประเด็น/ขอข้อมูลที่ต้องการนั้น จะมีการระบุรายละเอียดอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้ที่จะมาชี้แจงกับหน่วยงานนั้นๆเตรียมข้อมูลไปให้ครบถ้วน 
 
สำนวนคดีที่เกี่ยวข้องกับ"พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์" และพวกนั้น  แหล่งข่าวจากสตช.ยืนยันว่า  พนักงานสอบสวนและผู้บังคับบัญชาในสตช.ร่วมพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วจึงส่งสำนวนให้ป.ป.ช.รับไปดำเนินการ  และต้องติดตามว่ากรณีนี้สตช.จะดำเนินการอย่างไร

คนใน ป.ป.ช.เผยคดี"บิ๊กโจ๊ก"เพิ่งเริ่มไต่สวน

 

 แหล่งข่าวจากสำนักงานป.ป.ช.แจ้งว่า  สำนวนคดีที่เกี่ยวข้องกับพล.ต.อ. สุรเชชษฐ์และพวกตามที่สตช.ส่งมาให้"ป.ป.ช."ดำเนินการนั้น"ป.ป.ช."กำลังจะเริ่มต้นการไต่สวน เพราะกฎหมายป.ป.ช.ระบุว่า "ป.ป.ช."มีเวลาสองปีและขยายได้หนึ่งปีในการพิจารณาสำนวนคดีนั้นๆให้เสร็จสิ้น
 
 แหล่งข่าวจาก "ป.ป.ช." กล่าวว่า แต่กรณีของ"พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์" และพวกน่าจะใช้เวลานาน เช่น สำนวนของบก.ปปป.1,420 หน้า เพราะความคืบหน้าการสอบสวนบุคคลในป.ป.ช.หลายคนที่ร่วมกระทำความผิดกับ "พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์"และพวก  ในการร่วมตกแต่งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินพบว่า ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร  ส่วนสำนวนอื่นๆจากสตช.นั้น ทราบว่า "ป.ป.ช."ยังมีข้อถกเกียงกันว่าความผิดบางประการ เช่น การร่วมกันฟอกเงินนั้น อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ"ป.ป.ช."หรือไม่
 
ปปง. อ้าง"บิ๊กโจ๊ก"ใช้สิทธิร้องถอนอายัดเงินประกันชีวิตได้

ล่าสุด "นายเทพสุ บวรโชติดารา" เลขาธิการปปง. กล่าวถึงกรณีการยึดอายัดเงินในบัญชีเงินฝากของ "พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์"และภริยารวม 3 รายการ มูลค่า 4.8 แสนบาทไว้เป็นการชั่วคราว เพราะ"พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์"ได้ทำหนังสือขอเพิกถอนการยึดอายัดทรัพย์สินกับปปง.นั้น ถือเป็นสิทธิที่กระทำได้ แต่ต้องพิสูจน์ว่าทรัพย์สินนั้นไม่ได้มาจากการกระทำความผิด และคณะกรรมการธุรกรรมอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าทรัพย์สินดังกล่าวเกี่ยวพันถึงคดีเว็บพนันออนไลน์หรือไม่
 
"เลขาธิการปปง."กล่าวว่า ส่วนข้อสังเกตว่ากรมธรรม์ มียอดเงินครั้งแรกมูลค่ากว่า 10 ล้านบาทแต่ "ปปง." ตามยึดอายัดได้หลักแสนบาทเท่านั้น อาจดำเนินการล่าช้าจนทรัพย์สินถูกโยกย้ายหรือไม่ ยืนยันสามารถตรวจยึดย้อนหลังได้และมีมาตรฐานทำงานทุกคดี และที่ผ่านมาในขั้นการตรวจสอบ "พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์" ได้ร้องขอความเป็นธรรมมาโดยตลอด ทำให้คณะกรรมการธุรกรรมต้องพิจารณาคำร้องส่วนนั้นด้วย
 
 พบร่างหนังสือ"บิ๊กโจ๊ก"เตรียมชี้แจง ป.ป.ช.

แหล่งข่าวจาก"บก.ปปป."กล่าวกับเนชั่นทีวีว่า สำนวน1,420 หน้า  ซึ่งบก.ปปป.ส่งให้ป.ป.ช.รับไปดำเนินการนั้น  บก.ปปป.ได้ตรวจสอบจากคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือของ"พ.ต.ท.คริษฐ์  ปริยะเกตุ" โดย"บก.ปปป."พบว่า มีข้อมูลหลายอย่างที่อาจเชื่อมโยงกันกับสำนวนอื่นๆ อาทิ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการชำระเบี้ยกรมธรรม์ประกันชีวิต ซึ่ง"บก.ปปป."พบว่า"พ.ต.ท.คริษฐ์"สื่อสารกับบุคลากรของปปช.ในการร่างหนังสือชี้แจงเรื่องนี้ให้"พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์"ชี้แจงกับ"ป.ป.ช."นั้น
 
สำนวนของ"บก.ปปป."ระบุว่า "บิ๊กโจ๊ก"อ้างในร่างหนังสือฉบับนี้ว่า "บิ๊กโจ๊ก" มีกรมธรรม์ประกันชีวิตสามฉบับ ส่วนนางศิรินัดดา หักพาล ภริยานั้นมีสามฉบับเช่นกัน  และอ้างว่านายบัญชา พานิชพงศ์  บิดาของนางศิรินัดดา เป็นผู้ดำริให้"พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์"และภริยาทำประกันชีวิต  ซึ่งนายบัญชาออกเงินชำระให้ทั้งหมด ตรงนี้น่าพิจารณาว่า  ข้ออ้างที่"พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์"เตรียมชี้แจงกับ"ป.ป.ช."เรื่องกรมธรรม์ประกันชีวิตนั้นฟังขึ้นหรือไม่  และสอดรับกับการดำเนินการของ ปปง.ในเรื่องนี้หรือไม่

สังคมต้องติดตามความคืบหน้าจากหน่วยงานต่างๆที่สอบสวนคดีของ"บิ๊กโจ๊ก"กับพวกกันอย่างต่อเนื่องว่าจะออกมาอย่างไรเพราะแต่ละเรื่องราวของ"บิ๊กโจ๊ก"ล้วนเกี่ยวพันกันชนิดที่เรียกว่าแยกกันไม่ออกและบิ๊กโจ๊กจะแก้เกมอย่างไร ติดตามความคืบหน้ามหากาพย์แวดวงสีกากีเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องได้จากเนชั่นทีวีทุกระยะ