ครม."แพทองธาร ชินวัตร" ใกล้เข้าสู่โหมดการบริหารราชการเเผ่นดินอย่างเต็มตัวในไม่กี่วันข้างหน้า ภายหลังการเเถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ เท่ากับ "ครม.อิ๊งค์1"เดินหน้าได้เต็มร้อย ) เเละรอดูว่าฝ่ายค้าน ผสมฝ่ายเเค้น จะถล่มนโยบาย "ครม.อิ๊งค์1"เช่นใด
การบ้านหลายข้อที่ครม.เเละหัวหน้ารัฐบาลชุดนี้เเบกไว้มีมากมายกับ นโยบายที่หาเสียงเเละของใหม่ๆที่ระบุไว้นั้น จะทำได้เเละสุ่มเสี่ยงผิดกติกาหรือไม่!?! ท่ามกลางเส้นทางข้างหน้าที่คล้ายจะมีนิติสงครามจากขั้วตรงข้ามวางไว้รองรับสร.1คนปัจจุบันเเละคณะเเบบรายวัน
หนึ่งในภารกิจของสร.1ที่พึงระวังมิใช่น้อย นั่นคือ การเเต่งตั้งข้าราชการในบางหน่วยงาน ที่ตัองรอมติครม./มติที่ประชุมของหน่วยงานนั้นๆให้ความเห็นชอบ
โดยเฉพาะการเเต่งตั้งผบ.ตร.ในปีนึ้ที่จะฉลุยหริอเดินเครื่องสะดุด..
สังคมจับตาเเวดวงสีกากีอย่างยิ่ง นับเเต่ "พลตำรวจเอกสุรเชชษฐ์ หักพาลเเละพวก" โดนบุกค้นบ้าน พักเเละโดนข้อหาฉกรรจ์หลายกระทง
อีกทั้งในรอบปีนี้ พบว่า "บิ๊กโจ๊ก" เดินสายร้องเรียนในทุกช่องทางนับเเต่เกิดเรื่อง จนสังคมมึนงงว่าใครผิดใครถูกกันเเน่...เเต่ชั้นนี้ชัดเเล้วว่า "บิ๊กโจ๊ก" พ้นเเวดวงสีกากีไปเเล้วเเละต้องไปแก้ข้อกล่าวหาต่างๆที่สำนักงานป.ป.ช.เเละอื่นๆตามลำดับ
หากไล่เช็กโอกาสของ "บิ๊กโจ๊ก" ที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตอนนี้ พบว่า เส้นทางเดียวที่"บิ๊กโจ๊ก" พอจะหวังลางๆ กับเส้นทางราชการได้ คือการร้องเรียนต่อศาลปกครองสูงสุด (หลังจากก.ตร.เเละ กพค.ตร. มีมติเห็นชอบว่า "บิ๊กโจ๊ก" กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง เเละคำสั่งให้ออกจากราชการชอบด้วยกฎหมาย กระทั่งเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม2567 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ "พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์" พ้นจากตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีผลตั้งแต่ วันที่ 18 เมษายน 2567 )
เเว่วว่าปลายเดือนส.ค.ที่ผ่านมา "บิ๊กโจ๊ก" ยื่นคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินเเละขอคุ้มครองชั่วคราวต่อศาลปกครองสูงสุด ( คัดค้านมติ.กพค.ตร.) นัยว่าเพื่อเบรคเกมการประชุมก.ตร.ในเดือนต.ค.นี้ บนวาระเเต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่เเละเพื่อให้ตัวเองยังพอมีเวลาลุ้นอีกครั้งกับเส้นทางตำรวจ
เเต่ทราบว่าคำร้องนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาขององค์คณะตุลาการฯเเละมีกระแสข่าวสะพัดมาจากเเวดวงสีกากีเเละวงการตราชั่งว่า "บิ๊กโจ๊ก" เเอบลุ้นเยอะกับใครบางคนจากเเดนปักษ์ใต้ที่คล้ายมีไมตรีกับ"บิ๊กโจ๊ก"ในวงการตราชั่ง เพื่อให้เกื้อกูล "คำร้องของบิ๊กโจ๊กให้สะดวกโยธิน" เเต่คล้ายว่าโอกาสนี้เลือนรางยิ่งสำหรับ "บิ๊กโจ๊ก" ในภาวะเเบบนี้ ...
อย่างไรก็ดี "ศาลปกครองสูงสุด" มีการรับคำร้องของ"บิ๊กโจ๊ก" ไว้ไต่สวนตามขั้นตอน (มิใช่คำสั่งไต่สวนฉุกเฉินเเละมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ) กระบวนการพิจารณาคำร้องของ "บิ๊กโจ๊ก" น่าจะอยู่ในขั้นตอนปกติที่จะใช้เวลานานพอสมควรในการวินิจฉัย อาจไม่ใช่เวลาที่ดีนักสำหรับ"บิ๊กโจ๊ก" ในการลุ้นคืนย่านปทุมวัน เพราะระหว่างนั้นไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
หันไปมองบทบาทสร.1 "แพทองธาร" กับวาระ การเเต่งตั้งผบ.ตร.เเละตำเเหน่งอื่นๆในเเดวงสีกากีกันบ้าง เชื่อว่า "นายกฯแพทองธาร" น่าจะอ่านประวัติศาสตร์ในเเวดวงตร.เมื่อปีที่เเล้วอย่างละเอียดเเล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เเละใครก่อขึันมา รวมทัังขั้วตรงขัามหาโอกาสทุกจังหวะในการสกัดกั้น"นายกฯหญิง"คนที่สองของไทยเช่นนี้นั้น
"อาการย่ามใจล้วงลูก/ล้วงโผตามออเดอร์ใครบางคนที่ใกล้ตัวสร.1 "ในการวางบุคคลเข้ารับตำเเหน่งหน้าที่ในสตช.เเบบข้ามระบบเเละข้ามห้วย ในวงการตร.นั้น เชื่อว่าสร.1น่าจะระวังตัวยิ่ง"
การเเต่งตั้งบุคลากรในย่านปทุมวัน "พลาดไปเพียงหนึ่งตำเเหน่ง" โอกาสที่ "เเพทองธาร" จะตกเก้าอี้สูงขึ้นอีกระดับทันทีกับขัอหา"ขัดจริยธรรมอย่างร้ายเเรงในการเเต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ"
อย่าลืมบทเรียนยุคนายกฯหญิงคนเเรกกับการย้ายเลขาธิการสมช.ที่กลายเป็นน้ำผึ้งหยอดเดียวเเละเป็นหนึ่งปัจจัยส่งผลถึงเหตุวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
สัญญาณเตือนล่วงหน้ากับจังหวะหนึ่งที่สร.1ไม่ควรมองข้าม เพราะคนวงในเเวดวงตร.อ่านเกมว่า "การเเต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจปีนี้ อย่างน้อยน่าจะมีคำร้องคัดค้านจาก "บิ๊กโจ๊ก" ปรากฏขึ้นมา เพราะอย่าลืมว่าใครหลายคนในสตช.ยามนี้นั้น "บิ๊กโจ๊ก" ยื่นฟ้องไว้เป็นลูกระนาดเลยทีเดียว
ดังนั้นคำเตือนด้วยความหวังดีที่ส่งถึงสร.1เเละประธานก.ตร.คนปัจจุบันล่วงหน้านั้นคือขอให้"ยึดมั่นกฎหมาย/จริยธรรม/ข้อเท็จจริงที่ปรากฏ/ปราศจากการครอบงำ" อย่างมั่นคง
หากสร.1ดำเนินการได้ตามข้อเเนะนำนี้ อย่างน้อยระเบิดเวลาย่านปทุมวัน ที่ใครบางคนอาจจะวางไว้ ดักทาง สร.1น่าจะเลี่ยงได้อย่างปลอดภัยเเละเรียกคะเเนนบวกคืนจากสังคมได้บ้าง เพื่อเดินหน้าบริหารบ้านเมืองเเละใช้เวลาในการรับมือขั้วตรงข้ามกับหลากวาระข้างหน้าดีกว่า
ชมคลิปรายการ >>>