รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส เข้าสู่สนามเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้อย่างกะทันหัน หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดนถอนตัวจากการเลือกตั้งในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม หลังพ่ายแพ้ในการดีเบตรอบแรกกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลดื ทรัมป์ในเดือนมิถุนายน ท่ามกลางความกังวลต่อการเสื่อมถอยด้านสุขภาพ ทำให้เธอในฐานะผู้สมัครรองประธานาธิบดีต้องรับไม้ต่อ โดยไม่เคยมีใครกระโดดเข้าสู่การแข่งขันในช่วงเวลาอันสั้นเพียงไม่ถึง 4 เดือนก่อนวันเลือกตั้งอย่างนี้มาก่อน
กมลา แฮร์ริส ซึ่งเป็นลูกผู้อพยพ เกิดเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2507 เป็นบุตรสาวของโดนัลด์ เจ แฮร์ริส นักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกันเชื้อสายจาไมกา และศยามาลา โฆปาลัญ นักชีววิทยาชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดีย เธอเติบโตในเมืองโอ๊กแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย จบการศึกษาด้านรัฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยคนผิวสีในกรุงวอชิงตันดีซี และจบการศึกษาด้านนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เฮสติงส์ และเริ่มต้นอาชีพกฎหมายด้วยการเป็นอัยการ ก่อนเข้าสู่เวทีการเมืองในตำแหน่งวุฒิสมาชิก และตำแหน่งรองประธานาธิบดี
เธอพบกับดักลาส เอ็มฮอฟฟ์ ทนายความ ผ่านการนัดบอดโดยเพื่อนที่เป็นลูกความของเขา และทั้งคู่แต่งงานกันในปี 2557 ทำให้เธอกลายเป็นแม่เลี้ยงของลูกวัยรุ่น 2 คนของเขา ได้แก่ โคล และเอลลา
เมื่อแฮร์ริสได้รับการวางตัวเป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรคเดโมแครคต ก็สามารถเรียกคืนความเชื่อมั่นต่อพรรคลับคืนมา และสามารถต่อสู้กับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ได้อย่างสูสี โดยพุ่งเป้าด้วยประเด็นอายุที่อ่อนวัยกว่า และความแตกต่างในฐานะที่เธอเคยเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายในตำแหน่งอัยการ กับทรัมป์ที่ถูกตัดสินเป็นผู้กระทำความผิดคดีอาญา
ที่ผ่านมาแฮร์ริสประสบความสำเร็จอย่างมากจากการเป็นอัยการเขต จนสามารถสร้างสถิติเป็นผู้หญิงคนแรก คนผิวสีคนแรก และชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียคนแรกที่ดำรงตำแหน่งอัยการรัฐแคลิฟอร์เนียในปี 2553 นอกจากนี้เธอยังสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้หญิงผิวสีคนที่ 2 ที่ได้รับเลือกตั้งเป็นวุฒิสมาชิกรัฐแคลิฟอร์เนียในปี 2559 และรับตำแหน่งในเดือนมกราคม 2560
ในปี 2562 เธอเข้าร่วมการแข่งขันเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และถอนตัวก่อนการเลือกตั้งขั้นต้น แต่ต่อมารองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ได้รับเลือกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2563 เลือกเธอเป็นคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี และเมื่อทั้งคู่ชนะเลือกตั้ง เธอได้สาบานตนรับตำแหน่งรองประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2564 และสร้างประวัติศาสตร์เป็นรองประธานาธิบดีหญิงและผิวสีคนแรกของสหรัฐฯ
ขณะที่การทำงานในสมัยเป็นรองประธานาธิบดี เธอสนับสนุนนโยบายของไบเดนทั้งเรื่องการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐาน ผู้อพยพ ควบคุมปืน และปกป้องสิทธิการทำแท้ง เธอมีส่วนใช้สิทธิออกเสียงในวุฒิสภาในฐานะประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง เมื่อเกิดคะแนนเสียงออกมาเท่ากัน ช่วยให้เดโมแครตสามารถผ่านกฎหมายสำคัญทั้งเรื่องสภาพภูมิอากาศและประกันสุขภาพ แต่คะแนนนิยมของเธอไม่ได้สูง และไม่ได้รับความสนใจจากสื่อเท่าใดนัก รวมทั้งไม่ได้อยู่ในสปอทไลท์ของเวทีการเมืองนัก
แม้แฮร์ริสเข้าสู่เส้นทางชิงชัยสู่ทำเนียบขาวครั้งนี้ในฐานะมวยรอง แต่เธอแสดงความมั่นใจว่า ชาวอเมริกันพร้อมแล้วที่จะมีประธานาธิบดีหญิงคนแรก