รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส เลือกปราศรัยที่สวนสาธารณะเอลลิปส์ ใกล้ทำเนียบขาวเมื่อค่ำวันอังคาร (29 ตุลาคม) เพื่อย้ำเตือนถึงวันที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พูดที่สถานที่เดียวกันนี้ และปลุกระดมให้ผู้สนับสนุนบุกรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 เพื่อขัดขวางการรับรองผลเลือกตั้งประธานาธิบดีที่โจ ไบเดน เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ
เธอกล่าวต่อหน้าผู้สนับสนุนมากถึงราว 75,000 คนว่า ทรัมป์เป็นคนที่ยืนในจุดเดียวกันนี้เมื่อเกือบ 4 ปีที่แล้ว และส่งม็อบที่พกพาอาวุธไปรัฐสภาเพื่อล้มล้างเจตนารมณ์ของประชาชนในการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม
แฮร์ริสบอกด้วยว่าทรัมป์เสียสติ หมกมุ่นกับกับการแก้แค้น และแสวงหาอำนาจที่ไม่ต้องมีการตรวจสอบ และเมื่อชนะเลือกตั้ง ทรัมป์จะเดินเข้าทำเนียบขาวในวันแรกพร้อมกับรายชื่อศัตรูที่ต้องจัดการ แต่เธอจะเดินเข้าทำเนียบขาวพร้อมรายการสิ่งที่ต้องทำอันดับแรกเพื่อประชาชน
นอกจากนี้เธอชี้ให้เห็นว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกระหว่างเสรีภาพที่เธอให้คำมั่นปกป้องคุ้มครอง กับความยุ่งเหยิงและความแตกแยก หากทรัมป์ได้รับเลือกตั้งอีกสมัย
แฮร์ริสยอมรับว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งหลายคนที่ยังไม่ตัดสินใจ ยังต้องการรู้จักเธอมากกว่านี้ พร้อมกับบอกเล่าประวัติส่วนตัว และนโยบายสำคัญบางเรื่อง ซึ่งรวมถึง ลดราคาที่อยู่อาศัย เพิ่มลดหย่อนภาษีสำหรับการเลี้ยงดูบุตร และสิทธิการทำแท้ง นอกจากนี้เธอบอกว่า จะบริหารประเทศแตกต่างจากสมัยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ด้วยประสบการณ์และแนวคิดของเธอ เพราะเธอต้องเผชิญกับความท้าทายที่แตกต่างจากสมัยไบเดน พร้อมกับเรียกร้องให้ชาวอเมริกันร่วมเขียนบันทึกบทใหม่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงสัปดาห์เดียวจะถึงวันเลือกตั้ง มีชาวอเมริกันมากกว่า 53 ล้านคนไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว และผลสำรวจความคิดเห็นของรอยเตอร์และอิปซอส ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร พบว่า แฮร์ริสมีคะแนนนิยมลดลงเล็กน้อยโดยนำทรัมป์อยู่ที่ 44% ต่อ 43% โดยคะแนนิยมที่เหนือกว่าทรัมป์ลดลงต่อเนื่องนับตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน