ชาวอเมริกันเสียงแตก เลือก ทรัมป์ หรือ แฮร์ริส แก้ปัญหาเศรษฐกิจ

ผลสำรวจที่จัดทำโดยเอพี และศูนย์วิจัยกิจการสาธารณะ NORC ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ พบว่า ชาวอเมริกันมากถึงเกือบครึ่ง บอกว่า เศรษฐกิจแย่หรือแย่มาก และเกือบ 70% บอกว่า เศรษฐกิจอยู่ในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง และผู้มีสิทธิเลือกตั้งยังคงมีความเห็นแตกต่างกันว่า รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ดีกว่ากัน โดยผลสำรวจครั้งนี้เจาะลึกทั้งเรื่องราคาบ้าน การสร้างงานและอัตราการว่างงาน การเก็บภาษีชนชั้นกลาง และราคาสินค้าและน้ำมัน และกำแพงภาษี

ผู้ตอบคำถาม 42% ไว้ใจทรัมป์แก้ไขปัญหาเรื่องราคาสินค้าและน้ำมันได้ดีกว่า ส่วน 40% ไว้ใจแฮร์ริส อีก 6% ไว้ใจทั้งคู่ และอีก 12% ไม่ไว้ใจทั้งคู่

ส่วนเรื่องการสร้างงานและอัตราว่างงาน แฮร์ริสได้คะแนนนิยมมากกว่าทรัมป์ที่ 43% ต่อ 41% และแฮร์ริสยังได้ความไว้ใจมากกว่าในเรื่องการเก็บภาษีชนชั้นกลางและราคาบ้าน ขณะที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไว้ใจทรัมป์เรื่องกำแพงภาษีมากกว่า

ผลสำรวจที่จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 11-14 ตุลาคม บ่งชี้ว่า แฮร์ริสมีคะแนนนิยมตีตื้นขึ้นในเรื่องเศรษฐกิจ ที่เคยเป็นจุดแข็งของทรัมป์  เศรษฐกิจถูกจัดให้เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้เหนือกว่าประเด็นการทำแท้ง, ผู้อพยพ, อาชญากรรม และนโยบายต่างประเทศ

ส่วนผลสำรวจในประเด็นอื่น ๆ พบว่า ทรัมป์ยังคงมีความได้เปรียบกว่าแฮร์ริสในเรื่องปัญหาผู้อพยพ โดย 45% ตอบว่า ทรัมป์จะแก้ไขเรื่องนี้ได้ดีกว่า

และประเด็นที่แฮร์ริสมีคะแนนนิยมเหนือกว่า คือ นโยบายการทำแท้ง , การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอกาศ รวมถึงเรื่องความสุจริตของการเลือกตั้ง

ขณะที่ผู้สมัครทั้งสองคนมีคะแนนนิยมสูสีกันในประเด็นอาชญากรรม และไม่มีใครได้เปรียบอย่างชัดเจนเรื่องนโยบายต่างประเทศ  โดยเฉพาะเรื่องสถานการณ์ตะวันออกกลาง แต่แฮร์ริสมีจุดอ่อนกว่าเล็กน้อยในประเด็นนี้ในมุมมองของผู้มีสิทธิเลือกตั้งเดโมแครต