พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องสมาชิกวุฒิสภา 92 คน ที่ขอให้ตรวจสอบจริยธรรมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กรณี การกล่าวหาใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI แทรกแซงกระบวนการตรวจสอบการเลือก สว. โดยยืนยันว่า ตนเองไม่มีความกังวลใด ๆ เพราะกระบวนการส่งศาลรัฐธรรมนูญของ สว.นั้น ชอบโดยรัฐธรรมนูญ และตนเองก็มั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตนเองตามพระราชบัญญัติสอบสวนคดีพิเศษ และไม่ใช่เรื่องแรกที่คณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ กคพ.ถูกฟ้อง ซึ่งศาลฎีกา ก็เคยมีความเห็นแล้วว่า คณะกรรมการ กคพ. เป็นไปตามกฎหมายคดีพิเศษ ไม่สามารถฟ้องคดีแพ่งใด ๆ ได้ โดยหลังจากนี้ พันตำรวจเอกทวี ระบุว่า ตนเองจะต้องทำหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญ ภายใน 15 วัน
พันตำรวจเอกทวี ยังมองว่า นายมงคล สุรัจสัจจะ ประธานวุฒิสภา ที่ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ตามที่ สว.เข้าชื่อเสนอนั้น ประธานวุฒิสภาเอง ก็ปรากฎเป็นหนึ่งในรายชื่อที่อยู่ในโพยกระบวนการฮั้ว ดังนั้น การร้องถ้ามีผลประโยชน์ทับซ้อนมีส่วนได้เสีย หรือมีผลประโยชน์ส่วนตัว ก็ควรที่จะให้บุคคลอื่นผู้เข้าชื่อ และเท่าที่ดูคำร้องนั้น ก็เห็นว่า ข้อเท็จจริงหลายข้อเท็จจริงมีความคลาดเคลื่อน พูดเท็จ เช่น ระบุว่า ตนเองเคยอยู่พรรคเพื่อไทย หรือเคยเข้าชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ คล้ายพยายามเชื่อมโยงให้เกิดความเข้าใจผิด
ส่วนข้อกล่าวหาที่วุฒิสภามองตนเองแทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัตินั้น พันตำรวจเอกทวี ยืนยันว่า ตนเองไม่สามารถแทรกแซง สว.ได้ และในการรับเป็นคดีพิเศษนั้น ได้ประสานกับข้อมูลกับ กกต.แล้วด้วย
ส่วนกรณีที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติรับคำร้องวุฒิสภาด้วยมติเอกฉันท์ 8 ต่อ 0 มีนัยยะใดหรือไม่นั้น พันตำรวจเอกทวี มองว่า เป็นกระบวนการที่ศาลรัฐธรรมนูญ ต้องรับคำร้องการเข้าชื่อของ สว.อยู่แล้ว และส่วนตัวก็มั่นใจว่า ไม่ได้กระทำผิดจริยธรรมใด ๆ และได้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา แต่ก็เคารพการยื่นศาลรัฐธรรมนูญของ สว.ที่ยื่นให้ตรวจสอบ ซึ่งระหว่างนี้ ตนเองก็จะต้องทำคำชี้แจงแก้ไขข้อกล่าวหา โดยอาจจะต้องขอรายชื่อ สว.ที่เข้าชื่อทั้งหมดว่า ปรากฏชื่อในโพยฮั้วด้วยหรือไม่ ทั้งดูข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และพิจารณาเอกสารเก่า ๆ
พันตำรวจเอก ยังปฏิเสธให้ที่จะให้ความด้วยว่า จะยังมั่นใจว่าจะยังคงอยู่ในตำแหน่งไม่ผิดจริยธรรมหรือไม่ เนื่องจาก จะต้องเคารพศาลรัฐธรรมนูญ และไม่ขอก้าวล่วง แต่ย้ำว่า ตนเองปฏิบัติหน้าที่ ไม่ได้เป็นไปตามข้อกล่าวหาในคำร้อง เพราะเรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องที่มีผู้มาร้องทุกข์ และตนเห็นว่า เป็นเรื่องที่กระทบความมั่นคง เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสอบสวนคดีพิเศษอยู่แล้ว และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำความคดีมามาก และคดีดังกล่าว ก็มีมูลฐานความผิดเป็นคดีฟอกเงินด้วย