24 มีนาคม 2568 นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ในปัญหาการผลักดันชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน โดยได้ฉายเป็นภาพยนตร์ ที่กลายเป็นความจริงเรื่อง “โลกหลายใบ แต่ให้นายคนเดียว” ซึ่งนำแสดงโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี, นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
โดยนายกัณวีร์ ได้นำข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ สตม.ที่อ้างอิงถึงสัญชาติของชาวอุยกูร์จำนวน 45 คน เป็นที่ชาวตุรกี แต่เหตุใดรัฐบาล จึงตัดสินใจเลือกเจรจากับรัฐบาลจีน และส่งตัวชาวอุยกูร์กลับไปยังจีน พร้อมยังนำหลักฐานที่เป็นคลิปเสียง 1 ใน 40 ชาวอุยกูร์ มาเปิดเผย เพื่อยืนยันว่า ชาวอุยกูร์ ไม่ได้สมัครใจเดินทางกลับจีน และขอให้ทางการไทยได้ปล่อยตัวไปประเทศอื่น
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม
นายกัณวีร์ กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิ และพันตำรวจเอกทวี นำคณะไปติดตามชาวอุยกูร์ ที่เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ สาธารณรัฐประชาชนจีนว่า เป็นละครคุณธรรมปลายปิด ที่ทราบคำตอบล่วงหน้า เป็นการฟอกขาวของการกระทำ พร้อมถามไปยังนายภูมิธรรมทราบหรือไม่ว่า 1 ในชาวอุยกูร์นั้น มีลูกเมียที่ถูกส่งตัวไปประเทศที่ 3 แล้ว และอีก 1 คนที่พันตำรวจเอกทวีนั้น เป็นผู้ป่วยจิตเวช
นายกัณวีร์ ยังเห็นว่า รัฐบาลได้ปู้ยี่ปู้ยำนโยบายการต่างประเทศของไทย ตลอด 73 วันของการโกหกการส่งตัวชาวอุยกูร์ ที่เขียนด้วยมือแต่ลบด้วยเท้า และเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ประเทศไทยได้เลือกข้าง และเป็นการเลือกข้างผิด เพราะทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบระหว่างประเทศ ทั้งถูกประณามโดยรัฐบาลต่างประเทศ สหประชาชาติ สหภาพยุโรป ซึ่งจะกระทบต่อ FTA ไทย-ยุโรป ที่ไทยต้องห้ามขัดหลักสิทธิมนุษยชน
นายกัณวีร์ ยังได้อภิปรายถึงหลักฐานใบมรณะบัตร ของชาวอุยกูร์สัญชาติตุรกีที่เสียชีวิต จำนวน 2 คน เมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2566 และ 21 เมษายน 2566 ซึ่งทั้ง 2 รายนี้ถูกฝังในกุโบร์ กรุงเทพฯ ซึ่งชาวมุสลิมจะทราบดีว่า การฝังในกุโบร์หากไม่มีพื้นที่ หรือมีที่อยู่ จะต้องขอเป็นกรณีพิเศษ โดยเป็นหลักฐานว่า ชาวอุยกูร์ไม่ได้อยากกลับประเทศต้นกำเนิด
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม
นายกัณวีร์ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลนำหลักฐานความสมัครใจของชาวอุยกูร์ ในการกลับประเทศจีน แทนการแสดงละครคุณธรรมหลังการส่งตัวกลับ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาผู้ลี้ภัยที่กลับมาตุภูมิโดยสมัครใจ มีการตัดสินใจที่มีหลักฐานเพียงพอ ไม่ใช่เป็นการตัดสินใจยกกลุ่ม
นายกัณวีร์ ยังเห็นว่า นายกรัฐมนตรี และคณะที่เกี่ยวข้องกับการผลักดันชาวอุยกูร์กลับประเทศ ทำผิดมหันต์ เป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ซึ่งทั่วโลกเห็น แต่ประเทศไทยไม่เห็น และยังนำประเทศไทยไปอยู่หน้าผาที่พร้อมถูกพัดตกเหว เย้ยหยันกฎหมายจนทั่วโลกประณาม ประเทศที่ประเทศไทยไปดีลไว้ ยังลดความน่าเชื่อถือของไทยในการลงทุนในประเทศไทย และจากภาพยนตร์โลกหลายใบให้นายคนเดียวนี้ ทำให้เห็นชัดเจนในความไร้ประสิทธิภาพ ความสามารถ ไร้ภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรี ทำตัวเหนือประโยชน์ประเทศชาติ ไม่ยึดมั่นนโยบายที่ตนเองมี เป็นนการทุจริตเชิงนโยบายการต่างประเทศ เป็นข้อกังขาทั่วโลก ซึ่งหากรัฐบาล ไม่สามารถนำหลักฐานการยืนยันความสมัครใจ รัฐบาลไทยก็ไม่ควรไปร่วมละครคุณธรรมที่เกิดขึ้น
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม