svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

นายกอิ๊งค์ โต้ “วิโรจน์” จินตนาการมากไป แจงปมตั๋ว PN ที่ดินอัลไพน์

24 มีนาคม 2568
เกาะติดข่าวสาร >> NationTV
logoline

นายกอิ๊งค์ โต้ “วิโรจน์” ใช้จินตนาการมากเกินไป แจงปมตั๋วสัญญา PN - ที่ดินอัลไพน์ ก่อนทิ้งท้าย พูดให้คนเกลียดชัง ผู้ที่มีวุฒิภาวะไม่ควรทำ

24 มีนาคม 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวหาใช้นิติกรรมอำพรางหลีกเลี่ยงการเสียภาษีหุ้นจำนวน 19 บริษัท มูลค่า 9,330 ล้านบาท และการยื่นบัญชีทรัพย์สิน พบมีหนี้สิน 9 รายการรวม 4,434 ล้านบาท และมีตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือ PN ไม่ใช่รูปแบบเงินกู้ ซึ่งแทนการจ่ายเงิน และไม่มีกำหนดเวลาจ่ายเงิน หากไม่มีการเก็บดอกเบี้ย หากชาตินี้ไม่มีใครทวงแพทองธาร ก็ไม่ต้องจ่าย

 

โดยนายกฯแพทองธาร ระบุว่า นายวิโรจน์ ที่เข้าใจว่าตนเองเป็นจอมยุทธ์ มีความสำคัญผิดในข้อมูล ทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อน และนำประเด็นภาษีคนละหมวดมาอภิปรายให้ประชาชนสับสน ยืนยันว่า ตนเองดำเนินการตรงไปตรงมา ถูกต้องตามกฎหมาย และการกล่าวหาตนเองหนีภาษีนั้น ไม่เป็นความจริง แม้ตนเองจะอายุน้อยกว่า แต่ก็เสียภาษีให้รัฐมากกว่าผู้อภิปรายแน่นอน

นายกอิ๊งค์ ยังยืนยันว่า ในการแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. นับแต่วันที่ตนดำรงตำแหน่งได้ยื่นครบถ้วน และเรื่องที่ถูกร้องเรียนก็อยู่ในกระบวนการตรวจสอบของ ป.ป.ช. และตนเองยินดี เต็มใจที่จะแสดงหลักฐาน และพร้อมให้ความร่วมมือตามที่ ป.ป.ช.ร้องขอหลักฐานต่าง ๆ

 

พร้อมย้ำว่า การทำธุรกรรมก่อนการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น ทรัพย์สินกิจการครอบครัวตนเอง ถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้นมาตลอด ตั้งแต่การถูกรัฐประหาร 2549 ทุกบัญชี ทุกธุรกรรมถูกจับจ้อง ต้องโปร่งใส จึงยืนยันว่า ที่ดินและทรัพย์สินที่ได้มาถูกต้อง มีการออกโฉนดโดยรัฐ ไม่มีการซื้อที่ดินที่ไม่มีโฉนด

 

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงเพิ่มเติมถึงการทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับหุ้นว่า เกิดก่อนปี 2559 และก่อนที่ตนจะเข้าสู่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยใช้ Promissory Note หรือ PN หรือการปรับโครงสร้างโดยมีการติดอากรแสตมป์ตามกฎหมาย แต่ที่ยังไม่เสียภาษี เพราะยังไม่มีการชำระเงิน จึงไม่ทราบจำนวนสุทธิ และยังเสียภาษีไม่ได้ จึงเป็นภาระหนี้สินของตนที่เป็นผู้ซื้อ และครอบครัวที่เป็นผู้ขาย และถ้าจะมีการขายตนก็ได้ยื่น ป.ป.ช.ไปแล้วเช่นเดียวกัน พร้อมท้าให้ผู้อภิปราย ลองถามเพื่อนฝ่ายค้านที่ทำธุรกิจในลักษณะนี้ และทำตั๋วสัญญาการใช้หนี้ในลักษณะ PN ที่มีการใช้กันปกติได้

นายกอิ๊งค์ โต้ “วิโรจน์” จินตนาการมากไป แจงปมตั๋ว PN ที่ดินอัลไพน์

 

นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า การปรับโครงสร้างหุ้น จำเป็นต้องใช้ราคาการซื้อขายในเวลานั้น ซึ่งขณะนั้น ตนเองไม่พร้อมชำระด้วยเงินสด จึงใช้ตั๋วสัญญาใช้หนี้แทน โดยได้ยื่นต่อ ป.ป.ช. และพูดคุยในครอบครัว เพื่อวางแผนชำระรอบแรกภายในปีหน้า จึงไม่ได้มีปัญหาใด ๆ และเมื่อเกิดการซื้อขาย ก็จะปรากฏหลักฐานในบัญชีทรัพย์สินของตนเอง ป.ป.ช.สามารถตรวจสอบได้ และไม่สามารถหลบเลี่ยงการเสียภาษีได้ด้วยเช่นกัน

 

ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องดังกล่าวจะเป็นแหล่งทุจริต ลามจนถึงปัญหายาเสพติดนั้น  เห็นว่า เรื่องนี้เป็นจิตนาการมากเกินไป เพราะการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน จะใช้กับธุรกรรมที่ถูกกฎหมาย ผู้ซื้อ-ผู้ขายรับภาระระหว่างกัน ไม่มีการกระทำนอกกฎหมาย และย้ำว่า การใช้วิธี PN เป็นการดำเนินการอย่างเปิดเผย ไม่สามารถแอบทำได้ และผู้เกี่ยวข้องล้วนจะต้องบรรลุนิติภาวะ

 

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงกรณีที่ดินอัลไพน์ว่า เกิดขึ้นมานานตั้งแต่ที่ครอบครัวซื้อที่ดินแปลงนี้ ตนเองอายุ 11 ขวบ และตนเองไม่ได้เป็นกรรมการบริษัทใด และการซื้อที่ดินทุกแปลงของครอบครัว ไม่เคยซื้อที่ดินที่ไม่มีการออกโฉนดโดยหน่วยงานรัฐ เพราะจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เมื่อเกิดคดีความ ก็เป็นไปตามกระบวนการทุกอย่าง จนตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ไม่เคยแทรกแซง และหลังจากนี้ ตนเองจะชี้แจงอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะเห็นว่า ฝ่ายค้านอาจจะไม่เข้าใจกระบวนการ

 

ส่วนที่ดินเขากระโดงที่เป็นข้อพิพาทระหว่างเอกชน และกรมที่ดิน และการรถไฟแห่งประเทศไทยนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ตนเองจะให้ความเป็นธรรมกับประชาชน และทุกขั้นตอนจะต้องถูกดำเนินการอย่างถูกต้อง ตามกระบวนการกฎหมาย จึงขอให้มั่นใจได้ว่า ตนจะดำเนินการอย่างจริงจังตามระบบ และระเบียบ เพื่อไม่ให้นำเรื่องอ่อนไหวไปสื่อสารให้เกิดความสับสน แตกแยกในสังคม

 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า การพูดเพื่อให้คนเกลียดชัง หรือแตกแยก ผู้ที่มีวุฒิภาวะไม่ควรทำ

 

ขณะที่ นายวิโรจน์ ได้ใช้สิทธิที่ถูกพาดพิง กรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุแม้ตนเองจะอายุน้อยกว่า แต่ก็เสียภาษีให้รัฐมากกว่าผู้อภิปรายแน่นอนว่า ไม่ว่านายกรัฐมนตรี จะเสียภาษีมากกว่าใคร ก็เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี และมั่นใจว่า ประชาชน 60 ล้านคน เสียภาษีน้อยกว่านายกรัฐมนตรี แต่บุคคลมีหน้าที่ต้องเสียภาษี ตามที่กฎหมายบัญญัติ ประชาชนจะเสียมากหรือน้อย ทุกคนมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันตามที่กฎหมายบัญญัติ เว้นแต่เสียภาษีมาก แต่หาเทคนิคในการหลบเลี่ยงหนีภาษี จึงเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ

 

ทำให้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นประท้วงนายวิโรจน์ โดยเห็นว่า การพาดพิงสามารถใช้สิทธิได้ แต่ที่นายวิโรจน์ระบุนั้น ไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับการพาดพิงใด ๆ

logoline